วันพฤหัสบดีที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

"อั้ม"พัชราภาโพสต์ท่าคว้าเซ็กซี่แห่งปีนิตยสารFHM

จัดเป็นปีที่ 6 สำหรับการประกาศผลการจัดกิจกรรม 100 SEXIEST WOMEN IN THE WORLD 2009 ของนิตยสารเอฟเอชเอ็ม (FHM) ในเครือบริษัท อินสไพร์ เอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัด เมื่อคืนวันที่ 30 ก.ค. ที่ห้องบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ และบางกอกคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิล์ด ที่เปิดรับลงคะแนนผ่านทางเอสเอ็มเอส และเว็บไซต์ www.fhm.in.th

ผลการตัดสินอันดับ 1 คว้าตำแหน่ง The Sexiest Woman and Sexiest Forever in Thailand 2009 ได้แก่ “อั้ม” พัชราภา ไชยเชื้อ และเป็นปีที่ 4 ที่คว้ารางวัลนี้ อันดับที่ 2 เป็นสาวสวยที่ชนะใจผู้อ่าน FHM ทั่วโลก ได้แก่ เมแกน ฟ็อกซ์ ดาราฮอลลีวูด นักแสดงจากภาพยนตร์ ทรานส์ฟอร์เมอร์ ทั้งภาค 1 และ 2 ขณะที่ผู้ที่ได้รับรางวัลอันดับที่ 3-10 ได้แก่ “หยาด” หยาดทิพย์ ราชปาล ได้รางวัล The Sexiest Woman in Thailand 2008

“ชมพู่” อารยา เอฮาร์เก็ต ได้รับรางวัล The Sexiest Actress in Thailand 2009 “เอมมี่” มรกต กิตติสาระ The Sexiest Beauty Pageant in Thailand 2009 “สา” มาริสา แอนนิต้า The Sexiest Model in Thailand “เมย์” พิชญ์นาฏ สาขากร The Sexiest Oriental look in Thailand 2009 “นก” อุษณีย์ วัฒฐานะ The Sexiest Rookies of The Year 2009 เมย์ เฟื่องอารมณ์ The Sexiest Villain in Thailand 2009 และ “กระแต” ศุภักษร ไชยมงคล The Sexiest Movie Star in Thailand 2009

ต่อด้วยการประกาศ TOP 35 FHM 100 Sexiest Women in Thailand 2009 พร้อมตำแหน่งพิเศษ ''ไอซ์'' อภิษฎา เครือคงคา, ''ปู-ไปรยา'', ''ขวัญ'' อุษามณี ไวยทยานน์, วีเจ ''วุ้นเส้น'' วิริฒิพา ภักดีประสงค์ พร้อมตำแหน่ง Sexiest MC in Thailand 2009, ณัฐฐาวีรนุช ทองมี พร้อมตำแหน่ง Sexiest VJ in Thailand 2009, Girly berry พร้อมตำแหน่ง Sexiest Girl group in Thailand 2009, ''การ์ตูน'' อินทิรา เกตุวรสุนทร, ''เก๋'' ชลลดา เมฆราตรี พร้อมตำแหน่ง Sexiest Celebrity in Thailand 2009, ''แป้ง'' อรจิรา แหลมวิไล, ''เป้ย'' ปานวาด เหมมณี, ''ตอง'' ภัครมัย โปรตระนันทน์ พร้อมตำแหน่ง Sexiest Singer in Thailand 2009, ''เอมี่-กลิ่นประทุม'', ''มิ้ม'' อัมราภัสร์ จุลกะเศียน พร้อมตำแหน่ง Sexiest New Comer in Thailand 2009, ''โบวี่'' อัฐมา ชีวนิชพันธ์, ''ปีใหม่- สุมนรัตน์'', แอริน ยุกตะทัต, ''นุ้ย'' เกศริน เอกธวัชกุล, ''บลู'' เอริกา พลอยอำพร , ''แพร'' พิศารัตน์ วัชรคีรินทร์, ''ปุ้ม'' ดลรส เดชะประทุมวรรณ, ''รัน'' ณัทธมนกาญจน์ ศรีนิกรโชติ, ''อุ้ม'' ลักขณา วัฒนวงศ์สิริ, Ase Wang พร้อมตำแหน่ง Sexiest Asian 2009, สุทธิกานต์ หวังเจริญทวีกุล, กวินตรา โพธิจักร พร้อมตำแหน่ง Sexiest New Entry in Thailand 2009 และอันดับที่ 36 100 ''พิ๊งกี้'' สาวิกา ไชยเดช, ''ตั๊ก'' บงกช คงมาลัย, ''เจี๊ยบ-พิจิตตรา'', ศรีริต้า เจนเซ่น, ''ไอ'' ยวริญท์ โอสถานนท์, นาตาลี เดวิส, ''ก้อย'' รัชวิน วงศ์วิริยะ, ''ลูกตาล'' อลิษา วิลล์, ''แพนเค้ก'' เขมนิจ จามิกรณ์, ''ต่าย'' ชัชฎาภรณ์ ฐานันทา, ''บี'' น้ำทิพย์ จงรัชตะวิบูลย์, ''ครีม'' เปรมสินี รัตนโสภา, ''เจนี่-เทียนโพธิ์สุวรรณ'', ''พลอย'' เฌอมาลย์ บุญศักดิ์, ''นุ่น'' วรนุช วงษ์สวรรค์ , ''โฟร์'' ศกลรัตน์ วรอุไร, ''มด'' ชุติมณฑน์ ชัยรัตน์, ''ออย'' พัชรินทร์ ส่องศรี, ''แน็ท'' เอวิตา ศริระศาสตร์, ''เชียร์'' ทิฆัมพร ริดทาอภินันท์, พอลล่า เทเลอร์, ''ซาร่า'' มาลากุล เลน, เจนสุดา ปานโต, ''ได๋'' ไดอาน่า จงจินตนาการ, ''มด'' กัลยา จิรชัยศักดิ์เดชา, ''หนิง'' ปาณิตา พัฒนหิรัญ, ''เกรซ'' กาญเกล้า ด้วยเศียรเกล้า, ''ใหม่'' สุคนธวา เกิดนิมิตร, นานา ไรบีน่า, ''จุ๊บ'' ภัทรา อธิราษฎร์กุล, สิริลภัส กองตระการ, ''โอ๋'' รุ่งระวี บริจินดากุล, ''เตย'' พหุศุภา พินิจ, ''ออย'' ศรุตา เรืองวิริยะ, ''เบนซ์'' มนัญญา ตริยานนท์, ''วิกกี้-สุนิสา'', ''ปลา'' ปาลิตา โกศลศักดิ๋, ''พลอย-หอวัง'', ''แพม'' ปานพิม เตชะธนชัยพัฒน์, พลอยฟ้า (มิกกี้) โนวัคกี้, ''พลอย-จินดาโชติ'' , ''แอนนี่'' อาทิตรา บริสุทธิ์, ''ฟอเลนซ์'' วนิดา เฟเวอร์, ''ฟ้า- วงมาฟ'', มนัสวี วงศ์สิริ, คริส หอวัง, ''เอมมี่- มัฒฑณิฎาศ์'', ''โบกี้'' ดลยา โพธิพิภัทรกุล, ''แอน'' อลิชา ไล่ศัตรูไกล, ''เจน'' ชมพูนุช ปิยะภาณี, ''เดียร์'' ปริษา ทนาวิวัฒน์, ''จี๊ด'' แสงทอง เกตุอู่ทอง, ''แพร'' พรรัมภา สุขได้พึ่ง, ''กบ'' พิมลรัตน์ พิศลยบุตร, ''เอมี่'' อาทิตยา สิขากร, ธัญยกันต์ ธนกิตติ์ธนานนท์, ''แพร'' อภิชญา มั่งมีผล GND 09, หมวย อิติรัตน์ GND 08, พริก กานต์ชนิต, Cheryl Cole, แพร เอมเมอรี่, ''ซินดี้'' สิรินดา เจนเซ่น, ''ทราย'' ธิดารัตน์ จักรสิงโต, ''จุ๋ม'' นุสรา สุขหน้าไม้, ''อ้อน'' สายทอง ไทยยิ่ง GND 08, ''สิตา'' ธนันโชติกาน องุ่น ลีโอ, จุฑารัตน์ อัฐากร


ดูคลิป-http://www.mhanation.net/fhm3107.html

พระเถระตาสว่างชี้ทักษิณทำกรรมหนักต้องพรหมทัณฑ์

วันนี้(30ก.ค.) เว็บไซต์มติชนและคมชัดลึกได้เปิดเผยความเห็นของพระผู้ใหญ่ระดับสูงรูปหนึ่งเกี่ยวกับพฤติกรรมของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่กลุ่มคนเสื้อแดงกำลังล่าชื่อเพื่อถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษว่า สถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นกับ พ.ต.ท.ทักษิณ มีสาเหตุเกิดมาจากในช่วงพ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ ได้ทำกรรมไว้มาก จึงเกิดพรหมทัณฑ์ หมายถึง กรรมที่ทำให้ไม่มีใครมาคบค้าสมาคมด้วย ในลักษณะเดียวกับการโดนคว่ำบาตร

"แม้นจะได้มีพิธีทำบุญ ประกอบสะเดาะเคราะห์หงายบาตรให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อวันที่ 27 ก.ค.ซึ่งคล้ายวันเกิด ก็ไม่เกิดผล เพราะกรรมที่ได้ทำไว้ เป็นกรรมหนัก ทั้งยังมีการดึงสถาบันเข้ามาเกี่ยวข้อง เนื่องจากพิธีกรรมดังกล่าวจะเกิดผลต่อผู้ที่มีกรรมเบาเท่านั้น สำหรับสาเหตุที่ทำให้พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกพรหมทัณฑ์นั้น ต้องไปดูว่าในช่วงที่เป็นนายกรัฐมนตรี ได้ทำกรรมหนักที่ส่งผลกระทบต่อคนหมู่มากอะไรไว้บ้าง" พระผู้ใหญ่ระดับสูงรูปนั้น กล่าว

ขณะที่พระธรรมกิตติเมธี โฆษกมหาเถรสมาคม(มส.) กล่าวว่า พรหมทัณฑ์ คือ การไม่มีใครคบหาสมาคม ไม่อยากเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย หากจะพูดให้เข้าใจง่ายขึ้น ก็คือ ลักษณะการถูกคว่ำบาตร

ความจริงแล้วเคยเสนอแนวความคิดเกี่ยวกับการลงพรหมทัณฑ์กับพ.ต.ท.ทักษิณเมื่องวันอังคาร ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2550 โดยใช้เชื่อว่า "เผยสูตรเด็ดปราบพยศทักษิณ" ความว่า

"ใคร ๆ ก็รัก ทักษิณ" หรือ "ทักษิณ...ออกไป" ยังคงดังอยู่ในใจคนไทยสำหรับคนที่ชอบและไม่ชอบอยู่ พฤติกรรมของคนชื่อ"ทักษิณ" ก็เป็นที่ทราบกันดีว่าเป็นอย่างไร การที่จะปราบคนชื่อ "ทักษิณ" ให้หายพยศได้นั้น เห็นจะมีอยู่ทางเดียว

สมัยพุทธกาลนั้น มีคนที่มีลักษณะเดียวกับคนชื่อ"ทักษิณ" คือ นายฉันนะ ที่เป็นมหาดเล็กของเจ้าสิทธัตถะ ตามส่งเสด็จตอนออกผนวช ต่อมานายฉันนะคนนี้ก็บวชในภายหลัง แต่ไม่ศึกษาหรือปฏิบัติธรรมเข้าลักษณะเช้าเอน เพลนอน เย็นพักผ่อน ใครจะสั่งสอนก็ไม่ฟังไม่ทำตาม อวดตัวเองว่าเก่งรู้ทุกอย่าง

ก่อนที่พระพุทธเจ้าจะปรินิพพาน พระอานนท์ได้เข้าไปทูลถามว่า จะจัดการพระฉันนะอย่างไร พระองค์ทรงแนะให้ใช้ "วิธีพรหมทัณฑ์" คือ อย่าเข้ายุ่งเกี่ยว พระฉันนะอยากจะทำอะไรก็ทำไป ไม่ต้องไปสนใจ หลังจากคณะสงฆ์ได้ปฏิบัติตามเช่นนั้น พระฉันนะก็หายพยศ ตั้งใจปฏิบัติธรรมจนได้บรรลุพระอรหันต์

ดังนั้น ทั้งสังคมไทย รัฐบาล คมช.ให้ความสำคัญกับคนชื่อทักษิณ มากไปหรือไม่ หรือติดว่าเขาเป็นเป็นคนรวย แต่สำหรับคนมีปัญญาแล้ว พูดได้คำเดียวว่าเงินจำนวนเท่านั้น"กระจอก".....อิอิ ถึงเวลาที่จะใช้วิธีพรหมทัณฑ์กับคนนี้หรือยัง

นี้ก็ผ่านมา 2 ปีแล้วนะเพิ่งได้ยินคำว่า พรหมทัณฑ์ อีก ก็ธรรมดาอะนะอย่าว่าแต่โยมที่แบ่งเป็นสองฝ่ายแม้นแต่พระสงฆ์เองก็มีการถือหางเหมือนกัน ยังตามัวๆอยู่ จะมีสักกี่รูปที่ตาสว่าง


วันพุธที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ไมโครซอฟท์จับมือยาฮูทำเสิร์จเอนจิ้นแข่งกูเกิลสำเร็จ

หลังจากไมโครซอฟท์เจ้าวินโดวส์และและหันมาทำเสิร์จเอนจิ้น BING เมื่อไม่นานมานี้ ได้พยายามที่จะจีบ ยาฮู เวปไซต์เสิร์จเอนจิ้น เพื่อควบรวมกิจการมาเป็นเวลานาน โดยมีเป้าหมายที่จะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันกับ กูเกิล ที่ครองพื้นที่เสิร์จเอนจิ้นจำนวนมากอยู่ทุกวันนี้ และวันที่ 29 ก.ค.นี้ ทั้งไมโครซอฟท์ ได้บรรลุข้อตกลงร่วมกิจการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ดูคลิป-http://www.mhanation.net/Microsoft3007.html

วันอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

แซยิดทักษิณดวงตาเห็นคำว่า"พอ"ถึงจะบิ๊กเซอร์ไพรส์

ต้องบอกว่าแสบตากันไปตามๆกันสำหรับคอการเมืองที่เฝ้าติดตามบิ๊กเซอร์ไพรส์งานแซยิดวันเกิดคนชื่อทักษิณที่วัดแก้วฟ้า อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ตอนแรกนึกว่าจะเป็นหุ่นจำลองเหมือนจริงของ พ.ต.ท.ทักษิณประกอบพิธีสะเดาะเคราะห์ตั้ง 8 ทิศ

ตอนแรกก็มีการคาดการกันไปต่างๆนานนาทั้งการเปิดใช้บริการในเว็บไซต์สังคมออนไลน์อย่างเฟซบุ๊คและทวิสเตอร์ หรือแม้นแต่การใช้โปรแกรมโฮโลแกรมที่ใช้เลเซอร์ยิ่งภาพมาที่การประกอบพิธีให้ดูเหมือนจริงที่แต่ไหนได้เป็นการทำหุ่นเหมือนจริงเท่าตัวทักษิณ และช่วงเวลาที่บอกว่าจะมีบิ๊กเซอร์ไพรส์ตะลึ่งไปทั่วโลกนั้นก็เป็นเพียงเปิดวีซีดีภาพ พ.ต.ท.ทักษิณ ร้องเพลง "ฉันจะกลับมา" ให้ผู้ร่วมงานได้ชมเท่านั้น

แต่ที่บอกว่าเป็นบิ๊กเซอร์ไพรส์จริงๆแล้วเห็นจะเป็นตอนที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวในรายการ "เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกอภิสิทธิ์" ในช่วงการถามตอบคำถามโดยพิธีคือนายประสาน อิงคนันท์ พิธีกรจากรายการกบนอกกะลา ได้ถามนายกฯ ว่า ในวันนี้เป็นวันเกิดของของพ.ต.ท.ทักษิณจะมีอะไรอวยพรให้ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่

นายอภิสิทธิ์บอกว่า "คงจะไม่มีอะไร การฉลองจัดงานวันเกิดถือว่าเป็นเรื่องปกติ ซึ่งท่านคงจะเหมือนคนอื่น ที่อายกจะมีความสุข ซึ่งหากตนสามารถสื่อสารถึงพ.ต.ท.ทักษิณได้ ก็อยากจะบอกว่า "ถ้าหากท่านดวงตาเห็นธรรม ก็คงจะมีความสุขมากขึ้น"

นับได้ว่าเป็นบรรยากาศที่ดีแม้นแต่นายวีระ มุสิกะพงศ์ แกนนำกลุ่มเสื้อแดงก็ยังบอกว่าป็นเรื่องที่ดี ที่นายอภิสิทธิ์ พูดแบบนี้ เพราะเรื่องดวงตาเห็นธรรม ควรจะมีในทุก ๆ ฝ่าย จะได้เห็นธรรมกันทุกคน

เวลาต่อมาเว็บไซต์ทวิสเตอร์ที่
http://twitter.com/thaksinlive ได้ปรากฎข้อความดังกล่าวในหน้าโฮมเพจ ของพ.ต.ท.ทักษิณ ว่า @ thaksinlive เนื่องในวันคล้ายวันเกิดวันนี้ท่านคงเหมือนคนอื่นคงอยากมีความสุข หากท่านจะดวงตาเห็นธรรมท่านจะมีความสุขมากขึ้นครับ about 3 hours ago <http://twitter.com/PM_Abhisit/status/2848336914>

หลังจากนั้นได้มีข้อความตอบกลับจากพ.ต.ท.ทักษิณ ถึงนายอภิสิทธิ์ @PM_Abhisit "ขอขอบคุณท่านนายกฯมาก ขอเป็นกำลังใจในการแก้ปัญหาบ้านเมือง หากมีอะไรที่ผมช่วยได้ก็ยินดีครับ " about 3 hours ago <
http://twitter.com/Thaksinlive/status/2848571630>

และบรรยากาศดูค่อนข้างจะดีขึ้นได้เป็นภาพคนระดับผู้นำตอบโต้กันด้วยเทคโนโลยีสมัยเช่นนี้ ไม่ได้มีให้เห็นกันบ่อยครั้งนั้นหลังจากเกิดเหตุการณ์เมษาวิปโยคที่บุคคลทั้งสองใช้สื่อต่างประเทศโต้ตอบกันแบบนาทีต่อนาทีและครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน

แต่ก็มาเป็นงงอีกครั้งเมื่อนายอภิสิทธิ์ตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงเรื่องนี้ว่า "เว็บอะไร อวยพรอะไร กำลังตรวจสอบอยู่" ทำให้ภาพของความสมานฉันท์กลับมาอึมครึมเช่นเดิม

อย่างไรก็ตามแม้นจะแสบตาจากบิ๊กเซอร์ไพรส์กันไปตามๆกันก็ตาม แต่สิ่งที่นายอภิสิทธิ์กล่าวถึงพ.ต.ท.ทักษิณที่ระบุเป็นการกล่าวคำอวยพรนั้นว่า "ถ้าหากท่านดวงตาเห็นธรรม ก็คงจะมีความสุขมากขึ้น" นั้น ถ้าเป็นไปได้และเป็นความจริงแล้ว สำหรับพ.ต.ท.ทักษิณแล้วไม่เห็นธรรมหลายข้อเพียงข้อเดียวก็คิดว่ามีความสุขแล้วนั้นก็คือคำว่า "พอ" ถ้าพ.ต.ท.ทักษิณหรือใครก็ตามดวงตาเห็นธรรมข้อนี้แล้วก็มีความสุขด้วยกันทั้งนี้
และหลักธรรมคำว่า "พอ" นี้ได้เขียนมานานแล้ว อย่างเช่น ผมก็รักทักษิณแต่เกลียดกิเลสในตัวของทักษิณ
http://hi-hotnews.blogspot.com/2009/03/blog-post_4029.html

หากพ.ต.ท.ทักษิณมีดวงตาเห็นคำว่า "พอ" ถึงจะนับเป็นบิ๊กเซอร์ไพรส์ในช่วงบั้นปลายชีวิต ตามที่นายอภิสิทธิ์แนะนำ หากยังไม่มีก็ต้องบอกว่า "กัมมุนา วัตติ โลโก" เอวัง บิ๊กเซอร์ไพรส์แซยิดพ.ต.ท.ทักษิณ60ปีก็มีด้วยประการฉะนี้

วันศุกร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

งัดFace book-Twitter-โฮโลแกรมโหมบิ๊กเซอร์ไพรส์แซยิดทักษิณ

หลังจากพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประกาศจะมีบิ๊กเซอร์ไพรส์โอกาสจัดงานวันเกิดครบรอบ 60 ปีหรือแซยิด เพื่อวัดกึ๋นกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีว่าจะตามทันหรือไม่

ตอนแรกก็บอกว่าจะจัดติวเตอร์ผ่านดาวเทียมมูลนิธีไทยคม หลังจากนั้นก็แบไต๋ออกมาเรื่อยๆ ล่าสุดก็บอกว่า จะเปิดช่องทางการสื่อสารให้กับประชาชนที่รักท่านได้ติดต่อและติดตามความเคลื่อนไหวผ่านทางเฟซบุ๊ค (Face book)และทวิสเตอร์ (Twitter) ภายใต้ชื่อ“ทักษิณ ไลฟ์” (Thaksinlive)

เดือดร้อนถึงนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ต้องออกมาชี้แจงว่า เรื่องเว็บไซต์เฟซบุ๊ค กับ ทวิสเตอร์ นั้นตนทำมานานแล้ว ถ้าเข้าทวิสเตอร์เปิดไปที่สาทิตย์ตรัง ขณะที่คนพรรคประชาธิปัตย์ที่เล่นอยู่มีทั้ง ตน นายอภิสิทธิ์ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯกทม. นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ก็ว่ากันไปนะ

แต่จุดโฟกัสอยู่ที่การจัดงานที่วัดแก้วฟ้า อ.บางกรวจ จ.นนทบุรี จะมีการทำพิธีพิธีสวดถอนวิบากกรรม สวดแก้บ่วงกรรม ปลดกรรม สวดบังสุกุลตาย บังสุกุลเป็น และพิธีปลดปล่อยชีวิตสัตว์ โค กระบือ รับหญ้าคนละ 1 กำมือ แผ่เมตตาให้เจ้ากรรมนายเวร ก็มีการคาดการณ์กันว่าจะมีบิ๊กเซอร์ไพรส์ในชั่วนี้โดยพ.ต.ท.ทักษิณจะปรากฏกายท่ามกลางพิธี แต่เป็นการใช่เทคโนโลยีสมัยเข้ามาใช้ นอกจากการโฟนอิน วีดีโอลิงค์แล้วก็ตาม นั้นก็คือการดึงเอาแฮโลแกรมเข้ามาใช้

โฮโลแกรมในต่างประเทศเข้าใช้กันมานานแล้าอย่าเช่นการรายงานผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา หรือใช้เป็นสื่อโฆษณาสิ้นค้าต่างๆ และแม้นแต่การเลือกตั้งที่ไทยสถานีโทรทัศน์ไทยก็มีนำมาใช้แล้ว

โฮโลแกรมคืออะไร ได้ค้นหาข้อมูลจากเว็บไซต์นี้ http://www.ubmthai.com/leksoundsmf3/index.php?topic=2314.0 กระจ่างเลยเพราะอธิบายความเป็นมาอย่างละเอียด สรุปก็คือเป็นการนำเลเซอร์เข้ามาใช้ประกอบในการสร้างภาพนั้นเอง ลองเข้าไปดูก็แล้วกันละเอียดมากๆ ข้อยกมาเล็กน้อยดังนี้

การสร้างภาพจากโฮโลแกรมนั้น จะต้องใช้แหล่งกำเนิดแสงที่เป็นเสมือนกับ Reference Beam ฉายลงบนแผ่นฟิล์ม ในการบันทึกภาพโฮโลแกรมนั้นอาจจะบันทึกภาพโฮโลแกรมซ้อนกันหลาย ๆ ครั้งบนแผ่นฟิล์มเดียวกันได้ โดยใช้มุมของ Reference Beam ที่แตกต่างกันไป ดังนั้นจึงสามารถสร้างภาพจากแผ่นฟิล์มนี้ได้หลาย ๆ ภาพโดยไม่ปะปนกัน เมื่อการเปลี่ยนมุมของ Reference Beam ไปเช่นเดียวกับตอนที่บันทึกภาพโฮโลแกรมนั้น ๆ

ก็อย่างที่ที่พระราชธรรมนิเทศ หรือ พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว จ.นนทบุรี บอกไว้นั้นแหละคนโง่ยังมีอยู่อีกเยอะในสังคม

ดูคลิปประกอบ-http://www.mhanation.net/thaksin25071.html

รู้แล้วบิ๊กเซอร์ไพรส์งานแซยิดทักษิณแจกหญ้า1กำ

กำหนดการพิธีทำบุญอายุวัฒนมงคล ครบ 60 ปี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี วันที่ 26 กรกฎาคม ที่วัดแก้วฟ้า อ.บางกรวจ จ.นนทบุรี นั้น จะเริ่มเวลา 09.00 น. จากนั้นเวลา 09.25 น. เป็นพิธีบำเพ็ญกุศล รับทักษิณานุประทาน เวลา 10.09 น. พิธีเจริญพระพุทธมนต์ ประธานในพิธีจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย เจ้าหน้าที่อาราธนาศีล พระสงฆ์ให้ศีล ประธานในพิธีและผู้ร่วมรับศีล เจ้าหน้าที่อาราธนาพระปริตร พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ จำนวน 109 รูป

เวลา 10.25 น. พิธีสวดถอนวิบากกรรม พระสงฆ์ประจำ 8 ทิศ สวดแก้บ่วงกรรม ปลดกรรม สวดบังสุกุลตาย บังสุกุลเป็น เวลา 10.59 น. พิธีเสริมดวง เจริญปัญญา เจริญสมาธิ พระสงฆ์สวดหงายบาตร โดยพระเถราจารย์ พิธีทำบุญตักบาตร ถวายสังฆทาน พระสงฆ์อนุโมทนาเป็นภาษาบาลี ผู้ร่วมงานรับพร รับน้ำประพุทธมนต์ เวลา 11.19 น. ถวายภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุสามเณรจำนวน 109 รูป

พร้อมเปิดบิ๊กเซอร์ไพรส์ เวลา 12.00 น. ผู้ร่วมงานรับประทานอาหารกลางวัน เวลา 13.00 น. พิธีปลดปล่อยชีวิตสัตว์ โค กระบือ รับหญ้าคนละ 1 กำมือ แผ่เมตตาให้เจ้ากรรมนายเวร เสร็จพิธี

ขณะที่พระราชธรรมนิเทศ หรือ พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว จ.นนทบุรี กล่าวถึงพิธี “หงายบาตร-ตัดกรรม” ให้ พ.ต.ท.ทักษิณว่า เป็นความคิดของแต่ละคนที่เชื่อว่าจะเป็นการแก้เคล็ดให้เพราะเมื่อครั้งหนึ่งหลวงตามหาบัว และนายสนธิ ลิ้มทองกุล เคยทำพิธีคว่ำบาตร แก้เคล็ดกันมาแล้ว แต่จะด้วยจุดประสงค์ใดไม่มีใครทราบ

มาคราวนี้ กลุ่มคนรัก พ.ต.ท.ทักษิณ ก็มาทำพิธี “หงายบาตร” คืนบ้าง เพื่อแก้เคล็ด ตามความเชื่อทางไสยศาสตร์ เพราะคนเรามีหลายระดับ การให้กำลังใจคนที่ตนรัก ให้มีขวัญ มีกำลังใจ และมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ก็เหมือนกับต่อชีวิตให้คนรักมีความสุข

“ยกตัวอย่าง เช่น เหมือนคนเราทำการตลาดทางธุรกิจ ไม่ปล่อยให้ทุกอย่างเงียบหาย เดี๋ยวคนจะลืม หรือ อย่างที่ผ่านมา ช่วงเกิดปรากฏการณ์สุริยุปราคา ก็มีคนไปทำพิธีทางไยศาสตร์ เพื่อสู้กับไข้หวัดใหญ่ 2009 ก็เฉกเช่นเดียวกัน” พระพยอมกล่าวและว่า

อย่างที่นักปราชญ์เคยกล่าวไว้ว่า ท่านผู้รู้แล้วคงขำ เพราะคนโง่ยังมีอยู่ คนฉลาดจึงต้องเผยแพร่ให้คนโง่ได้ดีใจด้วย จะฉลาดคนเดียวไม่ได้ เหมือนไม่เผื่อให้คนโง่ ถ้ามัวมาฉลาดอยู่คนเดียวก็ไม่ได้ มันจะเหงา ต้องเผยแพร่ให้คนโง่บ้าง เพราะคนโง่ยังมีอยู่อีกเยอะในสังคม

ทางด้านนายชินวัฒน์ หาบุญพาด ประธานชมรมวิทยุคนแท็กซี่และแกนนำ นปช. ขนาดเป็นถึงขั้นเคยบวชเป็นพระมหาเปรียญก็ยังบอกว่า เป็นความคิดของคนรอบข้างที่เชื่อไสยศาสตร์และเป็นคนระดับดอกเตอร์ที่เป็นคนจัดการ

ความจริงแล้วพิธีหงายบาตรนั้นเป็นเรื่องวินัยของสงฆ์ตั้งแต่อดีตกาล เป็นพิธีที่มีตำนานจากสมัยพระพุทธเจ้าคือเมื่อเห็นว่าญาติโยมในบ้านใดประพฤติชั่วผิดศีลธรรมขั้นร้ายแรง พระสงฆ์ก็จะร่วมกันทำพิธีคว่ำบาตรที่หน้าบ้านไม่ยอมรับบาตรของบ้านนั้น เป็นกระบวนการลงโทษทางสังคม แต่เมื่อเวลาผ่านไปหากคนๆนั้นประพฤติตัวดีขึ้น กลุ่มพระสงฆ์ก็จะไปสวดหงายบาตรที่หน้าบ้าน

ไม่ใช่ว่าพอหลวงตามหาบัวเคยทำพิธีคว่ำบาตรแล้วจะถือว่าเป็นอัปมงคล จะต้องเอาพระอีกกลุ่มหนึ่งมาทำพิธีหงายบาตรแล้วจะแก้กันได้ ตนไม่เชื่อหลวงตามหาบัวตั้งแต่ต้นเพราะมีอคติทางด้านการเมือง ตนเชื่อเรื่องกรรมถ้าประกอบกรรมดีก็จะได้รับสิ่งที่ดีถ้าเป็นคนอัปรีย์ อัปมงคล หรือเป็นคนชั่วโดยสันดานก็จะได้รับสิ่งที่ทำคือทำอะไรก็ไม่เจริญ จะให้หงายบาตรสักกี่วัดก็แก้ไม่ได้

ก็ยังดีนะที่ยังจำวัดได้ไม่เข้าป่าไปมากกว่านี้ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะไปรับหญ้าที่วัดแก้ฟ้าด้วยหรือเปล่า....อิอิ

วันพุธที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

นักประชาธิปไตยไทยต้องฟังทำอย่าง"ฮิลลารี"

โอกาสที่นางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ เดินทางมาเยือนประเทศไทย เพื่อเข้าร่วมประชุมรมต.ต่างประเทศอาเซียนกับคู่เจรจา และได้ให้สัมภาษณ์พิเศษแก่สุทธิชัย หยุ่น บรรณาธิการอำนวยการเครือเนชั่น และวีณารัตน์ เลาหภคกุล ในรายการชีพจรโลก ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม มีตอนที่นักประชาธิปไตยไทยจำเป็นอย่างยิงที่จะต้องอ่านฟังและต้องทำตามอย่างเธอ ไม่เช่นนั้นแล้วสักว่าแต่เป็นนักประชาธิปไตยแต่ปากเท่านั้น นั้นคือคำถามที่ว่า รู้สึกอย่างไรที่ต้องทำงานให้อดีตคู่แข่งที่ขับเคี่ยวกันในการหาเสียง (หมายถึงโอบามา) ซึ่งปัจจุบันกลายมาเป็นประธานาธิบดี

นางฮิลลารีให้คำตอบว่า เป็นหนึ่งในคำถามที่คนถามกันมาก ลองคิดดูสิเราขับเคี่ยวกันอย่างหนัก แถมยังพูดสิ่งที่อาจไม่ค่อยดีถึงกัน แต่ในประเทศของเรา เมื่อการเลือกตั้งสิ้นสุดลง เราพยายามทำงานร่วมกันเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ และในระบบของเรา เมื่อประธานาธิบดีขอให้คุณเข้ามาทำหน้าที่ คุณรู้สึกคุณควรทำเช่นนั้นเพื่อให้ประธานาธิบดีประสบความสำเร็จ และประธานาธิบดีก็ขอให้คนจากพรรครีพับลิกันมาทำงานให้ด้วย ไม่เฉพาะจากพรรคเดโมแครต รองประธานาธิบดีโจ ไบเดน ก็เคยขับเคี่ยวกับประธานาธิบดีโอบามาช่วงหนึ่ง

ตอนฉันอยู่ในอินโดนีเซีย ถูกถามคำถามนี้มาก ฉันจึงตอบไปว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่อเมริกาเรียนรู้ตลอดหลายปีแห่งการปกครองระบอบประชาธิปไตย นั่นคือประเทศชาติต้องมาก่อน การเมืองมาแล้วก็ไป คนแพ้และชนะการเลือกตั้ง ทันทีที่การเลือกตั้งจบลง คุณอาจยังมีความเห็นด้านนโยบายไม่ตรงกัน แต่เราควรพยายามเดินหน้าไปด้วยกันเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ

นั้นแสดงให้เห็นว่าเขามีขอบเขตในการแข่งขันว่าจะต้องแข่งขันกันในระดับใด เมื่อพ้นขอบเขตหนึ่งแล้วเขาก็คือคนอเมริกันเมื่อเข้ามาทำหน้าที่แล้วไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งใด หน้าที่หลักก็คือทำงานเพื่อชาติ จุดใดที่เป็นงานที่ทำเพื่อชาติแล้วเขาจะร่วมมือกันทำ หากเป็นระดับพรรคหรือตัวต่อตัวที่จะต้องแข่งขันแล้วเขาจะแข่งขันกันอย่างจริงจังเมือพ้นเวทีนั้นแล้วก็คือจบ

แต่นักการเมืองไทยมันไม่จบทั้งๆที่ฝ่ายหนึ่งทำงานเพื่อชาติแต่อีกฝ่ายหนึ่งตระโกนด่าต่อหน้าแขกบ้านแขกเมือง ก็ได้แต่ทำใจอะนะ ทำงัยได้คนโง่มันมากกว่าคนฉลาดนี้ก็ยังสามารถหลอกได้ไปวันๆ ตราบใดที่คนฉลาดขึ้นนักการเมืองพวกนี้ก็จะหมดไปเอง แต่คงชาติหน้าตอนบ่ายๆๆมั้ง ตายแล้วเกิดไม่จะได้เห็นหรือเปล่าก็ไม่รู้

คลิป-
http://www.mhanation.net/hillary2307.html

ฮิลลารีชมไทยหลายเรื่องทำไมไทยมัวด่า-ฆ่ากันเอง

โอกาสที่นางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริก เดินทางมาถึงประเทศไทย เพื่อร่วมประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนและหารือทวิภาคีครั้งนี้ได้สะท้อนอะไรหลายๆอย่างโดยเฉพาะการเมืองไทย

เริ่มต้นจากภาพที่นางฮิลลารีเดินลงจากเครื่องบินและรับพวงมาลัยจากผู้ตอนรับ หากเธอรับแล้วส่งกับผู้ติดตามก็คงไม่น่าประดับใจอะไร แต่นี้เธอรับแล้วยกขึ้นมาดมอย่างชื่นใจทั้งผู้รับและผู้มอบ นั้นแสดงให้เห็นถึงเสน่ห์ของความหอมให้ดอกมะลิที่คนไทยยกให้เป็นดอกไม้ประจำวันแม่

ภาพต่อมาก็คือนางฮิลลารีได้เข้าเยี่ยมคารวะและหารือกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล บรรยากาศการหารือแม้นจะเป็นการชมกันไปชมกันมาตามธรรมเนียมหน้าฉากแต่หลังฉากเป็นอย่างไรนั้นอีกเรื่องหนึ่งทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความจริงใจและผลประโยชน์ที่ได้รับทั้ง 2 ฝ่าย ถึงกระนั้น ทั้งนี้นางฮิลลารีได้ชื่มชมท่าทีของไทยทั้งพม่าและเกาหลีเหนือ และเรื่องม้งในไทย แม้นแต่ผู้แทนเกาหลีเหนือเองก็ยังชมที่ไทยวางตัวเป็นกลางบนเวทีรมต.ตปท.อาเซียนครั้งนี้ นับได้ว่าไทยได้ดอกไม้ไปหลายดอกเลยทีเดียว

ภาพก่อนหน้าที่นางฮิลลารีจะถึงไทย ผู้ช่วยรมต.ต่างประเทศสหรัฐอเมริกา พร้อมด้วยเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย พร้อมด้วยคณะได้เดินทางเข้าหารือกับนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และแกนนำพรรคนี้เรียกว่าเดินเกมการเมืองต่างประเทศแบบไม่ให้เสียน้ำใจผูกมิตรกันไว้ดีกว่า แต่สิ่งที่คณะของนางฮิลลารีฝากกับแกนนำพรรคเพื่อไทยก็คือ ความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองของประเทศไทย ซึ่งสหรัฐอเมริกาต้องการให้มีการพูดจากันระหว่างรัฐบาลกับฝ่ายค้านอย่างเปิดเผยและจริงใจ โดยอาศัยกระบวนการทางกฎหมายและรัฐธรรมนูญ

คงไม่ต้องแปลความหมายกระมังว่าสหรัฐอเมริกาเขามองบทบาทของพรรคเพื่อไทยอย่างไร หากมีความจริงใจและเล่นการเมืองกันแบบเปิดเผยไม่เป็นอีแอบให้เกียรติซึ่งกันและกันแล้วเขาคงไม่พูดเช่นนี้ เพราะขณะที่นางฮิลลารีจะได้เข้าเยี่ยมคารวะและหารือกับนายอภิสิทธิ์ นายใหญ่ที่อยู่ต่างประเทศก็ส่งสัญญาณทำลายเครดิตบอกว่า จะมี "บิ๊กเซอร์ไพรส์" ให้กับคนไทยทั้งประเทศเนื่องในวัดเกิดพร้อมกับท้าทดสอบเชาวน์ปัญญาของนายอภิสิทธิ์ว่าจะคิดตามทันตนหรือไม่ ก็คงพูดได้คำเดียวว่า "คุณคือคนไทยหรือเปล่า" ไม่มีขอบเขตของการเล่นการเมือง

มันสะท้อนให้เห็นว่าต่างชาติเขาให้กำลังใจแต่คนไทยด้วยกันเองต่างหากที่มัวมานั่งตำหนิ ด่ากัน แทนที่จะเอาสมองส่วนนี้มาช่วยกันคิดพัฒนาชาติ เราเสียเวลากับเรื่องที่ไร้สาระมามากแล้ว เลิกกันเสียที

ดูคลิป-
http://www.mhanation.net/hillary2207.html

วันอังคารที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

"ซูซาน บอยล์"เปลี่ยนลุคเผยโฉมยูเอส แชต โชว์

หายหน้าไปนาน "ซูซาน บอยล์" คุณป้าเสียงเสน่ห์ สาเหตุประการหนึ่งคงเป็นเพราะการเสียชีวิตของราชาเพลงป๊อป "ไมเคิล แจ็คสัน" แต่ล่าสุดเธอได้เปลี่ยนลุคใหม่ ทำเอาทุกคนต้องตะลึง หลังจากเผยโฉมอผ่านรายการยูเอส แชต โชว์ ให้สัมภาษณ์กับ เมเรดิท วิเอรา โดยเฉพาะภาพลักษณ์ของเธอที่เปลี่ยนแปลงไปและรับมือกับการมีชื่อเสียงอย่างไร

"เปลี่ยนแค่นิดเดียว ฉันแค่ปรับเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ฉันมีช่วงเวลาที่ดีมาก มันเหลือเชื่อ บอกไม่ถูกเลย การถูกดึงออกมาจากมุมมืดที่ไม่มีคนรู้จักมันเหมือนการเดินทางที่ยาวนาน คุณไม่รู้เลยว่ามันจะจบลงเมื่อไหร่ ซึ่งฉันเองไม่อยากให้มันจบ"

นี้คือคำตอบจากสาวใหญ่จากสก็อตต์แลนด์มีชื่อเสียงอย่างมากจากการเข้าแข่งขันรายการ Britain's Got Talent จากการขึ้นร้องเพลง I Dreamed A Dream แม้นว่าจะพ่ายให้กับสตรีทแดนเซอร์ Diversity ได้เพียงที่สองก็ตามที่ตอนนี้กำลังเตรียมออกผลงานอัลบั้มเพลงคาดว่าจะวางแผนก่อนคริสต์มาส ภายใต้ค่าย SyCo ของ ไซมอน คาวล์

ดูคลิป-http://www.mhanation.net/Susan2207.html

วันจันทร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ทำไมจัดงานแซยิดครบ60ปี"ทักษิณ"ที่วัดแก้วฟ้าทำไม

วันที่ 26 ก.ค.นี้นับเป็นวันครบรอบ 60 ปี ของคนชื่อ "ทักษิณ" ตามปกติแล้วก็จะมีการจัดงานวันเกิดหรืองานแซยิดแทบทุกปี แต่ว่าปีนี้เจ้าของวันเกิดเป็นสัมภเวสีเร่ร่อนอยู่ต่างประเทศในฐานะนักโทษหนีคุก

กลุ่มคนเสื้อแดง กลุ่มคนรักคนชื่อทักษิณก็ได้ประกาศจัดงานให้เดิมทีจะจัดที่ท้องสนามหลวงแต่เจ้าของวัดเกิดห้ามไว้เสียก่อน จึงได้ตกลงกันจัดตามอัธยาศรัยตามวัดทั่วประเทศ

แต่ "ไฮไลท์" ของงานดูเหมือนจะเป็นการจัด ณ วัดแก้วฟ้า อ.บางกรวย จ.นนทบุรี เรียกว่าจัดงานพุทธมนต์อายุวัฒนะ 60 ปี และทักษิณานุปทานถอนวิบากกรรม 8 ทิศ โดยนิมนต์พระเกจิอาจารย์จากวัดต่าง ๆ จำนวน 109 รูปมาทำพิธีตัดกรรม มีพระธรรมกิตติเมธี เลขานุการเจ้าอาวาสวัดสระเกศ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ทำพิธีให้ ตกเย็นะจัดงานเลี้ยงโต๊ะจีน 350 โต๊ะ ที่ภัตตาคารมังกรหลวง พร้อมรับฟังเสียงโฟนอินจากเจ้าของวันเกิด

ประเด็น ณ ที่นี้อยู่ที่ทำไมถึงมีการจัด ณ วัดแก้วฟ้า อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ทำไม่จัดที่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ หรือจังหวัดอุดรธานี หรือว่าวัดธรรมกายเพราะดูเหมือนคนชื่อทักษิณจะใช้วัดแห่งนี้จัดงานระดมพลอยู่บ่อยครั้ง หรือว่าวัดแก้วฟ้ามีพิธีกรรมที่วิเศษกว่าวัดอื่นๆอย่างไร

ความจริงแล้ววัดแก้วฟ้านั้นในประเทศไทยมีอยู่หลายวัดด้วยกันที่กทม.ก็วัดแก้วฟ้าจุฬามณี เกียกกาย ที่สี่พระยาก็มี แต่ขึ้นชื่อเห็นจะเป็นที่ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี นี้ เพราะวัดแห่งนี้

ดูตามประวัติวัดแก้วฟ้าแล้วทราบว่า ชาวบางขนุนได้สร้างขึ้นแห่งแรกตั้งแต่รัชสมัยสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ ทรงสถาปนาเมืองนนทบุรี 3 ปี เมื่อพุทธศักราช 2095 เพื่อเป็นอนุสรณ์ในการรำลึกถึงสมเด็จพระเจ้าแก้วฟ้าพระราชโอรสในสมเด็จพระไชยราชาธิราช ที่สวรรคตเพราะถูกขุนวรวงศาธิราชกระทำการปลงพระชนม์ ณ วัดโคกพระยา ขณะพระชนมายุได้ 12 พรรษา และขึ้นครองราชย์ได้ 1 ปีกับ 2 เดือน
อีกทั้งเป็นศูนย์กลางของชุมชนโดยมีหลวงพ่อใหญ่พระประธานประดิษฐานในอุโบสถ เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจจนถึงปัจจุบันมีอายุ 449 ปี และมีหลวงปู่อินทร์อดีตเจ้าอาวาส พระเถระผู้มีวัตรปฏิบัติอันงดงาม มีความเคร่งครัดในพระธรรม วินัย เป็นพระหมอยาที่รักษาโรคได้ชงัดนัก

เพียงเท่านี้พออนุมานได้บ้างเล็กน้อยว่าเป็นเพราะอะไรถึงต้องมาจัดพิธีที่วัดแห่งนี้ แต่เข้าไปค้นหาข้อมูลจากกูเกิลพิมพ์คำว่า"วัดแก้วฟ้า" และคลิกอ่านอันดับแรกเลยคือ "วัดแก้วฟ้า จ.นนทบุรี" ก็ถึงบางคุณหญิงอ้อ ไปอีกนิดหนึ่งก็ถึงบางกรวยเลย ได้เห็นตัวละครที่เชื่อมโยงกับคนชื่อทักษิณได้เป็นอย่างดี นั้นก็คือ อดีตหลวงตาจันทร์ คนสนิทของป๋าเหนาะ ร่วมกับพระครูปลัดศาล กิตฺติภัทฺโท เจ้าอาวาสวัดแก้วฟ้า จัดกิจกรรมสวดมนต์ปลดหนี้เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธุ์ 2550 ยุค คมช.

แต่มีพิธีกรรม พิธีบวงสรวง สมเด็จพระนเรศวรมหาราช และสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช กลางแจ้งหน้าพระอุโบสถ และวังช้างอยุธยา แล เพนียด ได้นำช้างพลาย 6 เชือก ม้า 6 ตัว มาร่วมพิธีศักสิทธิ์ และมีสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดสระเกศ ทรงเป็นประธานงานทอดผ้าป่าปลดหนี้ ปิดท้ายด้วย การแสดง แสง สี ประกอบจินตภาพ พระราชประวัติสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และพระเจ้าตากสินมหาราช ทรงกู้ชาติ กู้แผ่นดิน ทำให้ทราบว่าเป็นเพราะอะไรพระธรรมกิตติเมธี เลขานุการเจ้าอาวาสวัดสระเกศ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ เพียงเท่านี้ก็แหล่มเลย

ทีนี้มาดูพิธีกรรมว่าเป็นพุทธศาสตร์หรือว่าเป็นไสยศาสตร์ ซึ่งตามชื่องานแล้วให้ชื่อว่า "พุทธมนต์อายุวัฒนะ 60 ปี และทักษิณานุปทานถอนวิบากกรรม 8 ทิศ" โดยนิมนต์พระเกจิอาจารย์จากวัดต่าง ๆ จำนวน 109 รูปมาทำพิธีตัดกรรม หากคิดว่า เมื่อพระสวดทำพิธีเสร็จแล้วจะสามารถถอนวิบากกรรมที่คนชื่อทักษิณทำไว้ โดยไม่ต้องรับกรรมชั่วที่ทำไว้แล้ว ถ้าเชื่ออย่างนี้ถือเป็นไสยศาสตร์ ถ้าอย่างนั้นสมมุติว่าผู้เขียนเป็นคนบงการฆ่าคนชื่อสนธิแล้วมาทำพิธีถอดวิบากกรรมแบบเดียวกันนี้บ้างก็ไม่ต้องรับโทษตามกฎหมายหละซิคงไม่ถูกต้องมั้ง

ถ้าจะให้พิธีกรรมนี้เป็นพุทธศาสตร์คนร่วมในพิธีทั้งพระและฆราวาสเองตั้งใจสวดและฟังจนจิตใจเป็นสมาธิเกิดปัญญา จนสามารถลดละความอาฆาตมาดร้าย ความผูกโกรธใจจิตใจ อโหสิกรรมให้แก่กัน เพราะไหนก็เป็นคนไทยด้วยกัน คนชื่อทักษิณกลับมารับโทษไม่กี่ปีก็พ้นโทษแล้ว แม้นจะอยู่ในคุกก็ยังสามารถทำความดีและสามารถกู้ชาติได้

แต่หากทำพิธีเสร็จแล้วกิเลสที่อยู่ในจิตใจเหมือนเดิมอยู่อีกยังพากันแบ่งเป็นฝักเป็นฝ่าย ต่อให้ทำพิธีใหญ่เพียงใดก็ไม่สามารถถอนวิบากกรรมได้ เพราะพระพุทธเจ้าสอนคนทำกรรมดีย่อมได้ดีทำชั่วก็ต้องชั่วไม่เร็วก็ช้า ดังนั้นตั้งแต่เริ่มต้นคิดที่จะทำว่าจะคิดเป็นพุทธศาสตร์หรือว่าเป็นไสยศาสตร์ เอวัง ทำไมจัดงานแซยิดครบ60ปีคนชื่อทักษิณที่วัดแก้วฟ้าทำไม ก็มีด้วยประการฉะนี้

วันเสาร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ทักษิณควรอ่าน"ตายแล้วเงินทองเอาไปด้วยไม่ได้"

"ตายแล้ว!!เอาไปด้วยไม่ได้เงินทองหาได้ต้องแบ่งปัน" เป็นบทความจากหนังสือพิมพ์คมชัดลึกฉบับวันที่ 19 ก.ค. ที่เล่าถึงชีวิตของนายประเสริฐ ฤทธิ์สำเริง อดีตวหน้าแผนกสถานที่ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ แม้นว่าจะ เกษียณอายุราชการ มาแล้วหลายปีแต่ยังคงทำงานที่คุ้นชินไม่เคยขาด

ล่าสุดไปช่วยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสระแก้ว สำรวจจัดเก็บข้อมูล แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์การจัดทำแผนที่ทางวัฒนธรรมในระบบจีไอเอส และสร้างกิจกรรมเพิ่มรายได้ให้แก่ประชาชน

ก่อนหน้านี้เขาชวนเพื่อนพ้องน้องพี่สมัยเรียนเพาะช่าง และมัณฑนศิลป์ ที่ ม.ศิลปากร ทำโรงเรียนสอนศิลปะสนามหลวง สอนศิลปะให้เด็กยากไร้ที่กองขยะอ่อนนุช ช่วงสั้นๆ แต่การตั้งโรงเรียนศิลปะกับธรรมชาติ ยังเป็นความฝันที่ต้องการให้เป็นจริง ในวันที่พร้อม "พี่เจ๋ง" ตั้งใจจะเปิดโรงเรียนศิลปะกับธรรมชาติ บนพื้นที่ 300 ตารางว่าที่บริเวณถนนเกษตร-นวมินทร์

ยกมาเพียงเท่านี้พอจะอนุมานได้ว่าเป็นเพราะอะไรคำว่า "คนเราทำงานหาเงินมาตลอดชีวิต ตายไปแล้วก็เอาไปไม่ได้ เพราะฉะนั้นในวันที่มีความพร้อม จึงตั้งใจว่าแบ่งปันให้ผู้อื่น" ถึงออกจากปากของคนที่ได้ชื่อว่าเป็น "ลุงเจ๋ง-พี่เจ๋ง" คงจะแทงใจดำคนหลายคนรวมถึงคนชื่อทักษิณ

วันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

สื่อเทศมุ่งเผยภาพแง่ลบแจ็คสันทั้งแผลหมันเกย์

ใกล้จะครบ1เดือนแล้วสำหรับการจากไปของราชาเพลงป๊อบไมเคิล แจ็คสัน ที่มีการจัดพิธีไว้อาลัยอย่างยิงใหญ่ สมกับตอนที่เขามีชีวิตอยู่ได้สร้างความสุขให้กับคนทั้งโลกแม้นว่าตัวเองจะเจ็บปวดปานใดก็ตาม ขณะเดียวกันสื่อต่างประเทศก็ยังคงขุดคุ้ยแง่ลบของ ไมเคิล แจ็คสัน ออมานำเสนอเป็นระยะบอกว่า เป็นเกย์บ้าง เป็นหมันบ้าง ซ้ำร้ายไปกว่านั้นยังได้คลิปเหตุการณ์เมื่อ 25 ปีที่แล้วที่ ไมเคิล แจ็คสัน ถูกไฟคลอกจนเห็นหนังหัว

เท่านั้นยังไม่พอ เว็บไซต์ของ ABC นิวส์ และแท็บลอยด์เดอะซัน ได้แพร่ภาพที่ไม่เคยเปิดเผยมาก่อน ที่เผยให้เห็นรอยแผลของไมเคิล แจ็คสัน อันเกิดจากการฉีดยา พร้อมทั้งรอยเข็มหลายรอยและรอยแผลขนาดใหญ่ที่ขา ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อ 7 ปีก่อน ทั้งนี้จากการเปิดเผยของ ดร.เด็บบร้า ชาลิมาน โฆษกของสถาบันโรคผิวหนังอเมริกัน

สื่อต่างประเทศไม่เหมือนกับสื่อในประเทศไทยบางจำพวกนะที่มีการนำเสนอแง่บวกของคนบางคนทั้งๆที่ตายไปแล้วทางการเมือง แม้นว่าวิญญาณได้ร่องลอยไปตามประเทศต่าง ก็ยังแห่แหนติดตามการเคลื่อนไหวมานำเสนออยู่ แง่ลบที่เคยตีแพร่ก่อนหน้านี้กลับทำเป็นลืมไปแล้ว หรือเป็นเพราะหลงรสเศษอาหารที่เขาโยนให้ในยามที่วิกฤติเศรษฐกิจ จึงทำให้ตามัวมองไม่เห็นจรรยาบรรณที่ตัวเองเคยประกาศเป็นสรณะไป
สาเหตุที่สื่อต่างประเทศขุดคุ้ยแต่แง่ลบของ ไมเคิล แจ็คสัน คงไม่ได้อ่านคำกลอนของหลวงพ่อพุทธทาสที่ว่า

เขามีส่วน เลวบ้าง ช่างหัวเขา จงเลือกเอา ส่วนที่ดี เขามีอยู่
เป็นประโยชน์ โลกบ้าง ยังน่าดู ส่วนที่ชั่ว อย่าไปรู้ ของเขาเลย
จะหาคน มีดี โดยส่วนเดียว อย่ามัวเที่ยว ค้นหา สหายเอ๋ย
เหมือนเที่ยวหาหนวดเต่าตายเปล่าเลย ฝึกให้เคย มองแต่ดี มีคุณจริง ฯ

ทั้งที่ความดีของ ไมเคิล แจ็คสัน มีอยู่มากมายกลับไม่ค่อยมองเห็นหรือว่าไม่ค่อยน่าสนใจ หากค้นอยู่คลิปของ ไมเคิล แจ็คสัน แล้วจะทำให้มีความรู้สึกได้ทันทีว่าสมแล้วกับคนในวงการยกให้ ไมเคิล แจ็คสัน เป็นราชาเพลงป๊อป หรือแม้นแต่ บิล คลินตัน อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ ยังเป็นคนให้เกียรติแนะ ไมเคิล แจ็คสัน ในโอกาสที่ไปแสดงในการระดมทุนเลือกตั้งเลย

คลิป-
http://www.mhanation.net/Jackson1807.html

วันพฤหัสบดีที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ฟ้าทะลายโจรควรเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นฟ้าทะลายหวัด2009

สมุนไพรฟ้าทะลายโจรนับได้ว่าเป็นสมุนไพรได้รับความสนใจจากคนไทยที่ต้องการหาซื้อไปไว้รับประทานเพื่อป้องกันหวัด2009 เพราะไม่รู้ว่าตัวเองจะติดเชื้อเมื่อไร และเมื่อเป็นแล้วโรคจะหายหรือว่าตัวเองจะหายไปจากโลกนี้เลย เนื่องจากตัวเลขของผู้ป่วยติดเชื้อหวัด 2009 ตายทุกวัน เป็นที่น่าสังเกตุผู้ที่ติดเชื้อหวัด 2009 แล้วตายนั้น ส่วนใหญ่จะมีโรคประจำตัวอย่างเช่น โรคหอบหือ เบาหวาน มะเร็งเป็นต้น

หลังจากเภสัชกรผู้เชี่ยวชาญโรงพยาบาลอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี ได้ออกมาเปิดเผยกับชื่อสื่อมวลชนว่าสมุนไพรฟ้าทะลายโจรสามารถป้องกัน และรักษาอาการไข้หวัดใหญ่ ส่งผลให้ประชาชนทั่วประเทศต่างแสวงหาซื้อมาไว้รับประทาน ขณะที่สต๊อกของ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศรเองตอนนี้ก็หมดแล้ว คาดว่าต้องใช้เวลาอีกกว่า 1 อาทิตย์ถึงจะผลิตออกมาจำหน่ายได้เพิ่มอีกตามความต้องการ

เมื่อสมุนไพรฟ้าทะลายโจรมีสรรพคุณในการป้องกันและรักษาหวัด 2009 ได้เช่นนี้ สมควรที่จะเปลี่ยนชื่อให้ใหม่เป็นสมุนไพรฟ้าทะลายหวัด 2009 น่าจะเหมาะสมนะ

สำหรับสมุมนไพรฟ้าทะลายโจร นี้เว็บไซต์สถาบันการแพทย์แผนไทยได้รวบรวมไว้ว่า

ชื่อวิทยาศาสตร์ Andrographis paniculata (Burm. F) Wall. ex Nees

ชื่อวงศ์ ACANTHACEAE

ชื่ออื่น ๆ ฟ้าทะลาย , น้ำลายพังพอน, หญ้ากันงู, สามสิบดี, คีปังฮี,ซีปังกี, ชวนซินเหลียน, ชวงซิมไน้, Creat, Green chireta,Kalmegh, King of bitters, Kirayat

ส่วนที่ใช้ ส่วนเหนือดิน หรือ ใบ

การปลูก ทำได้หลายวิธีได้แก่

1. แบบหว่าน สิ้นเปลืองเมล็ด ให้ผลผลิตน้อย

2. แบบโรยเมล็ดเป็นแถว ประมาณ 50-100 เมล็ด ต่อ ความยาวร่อง 1 เมตร

3. แบบหยอดหลุม ระยะระหว่างต้น 20-30 ซม. ระหว่างแถว 40 ซม. หยอดเมล็ดหลุมละ 5-10 เมล็ด

4. ปลูกโดยใช้กล้า ให้ผลผลิตต่อไร่ต่ำกว่าการปลูกโดย 3 วิธีแรก

การเก็บเกี่ยว

ช่วงที่พืชออกดอกนับตั้งแต่เริ่มออกดอกจนถึงดอกบาน 50 % เพื่อให้มีปริมาณสารสำคัญสูง ซึ่งพืชจะมีอายุประมาณ 110-150 วัน

การปฏิบัติหลังการเก็บเกี่ยว

การทำความสะอาด นำฟ้าทะลายโจรมาล้างน้ำให้สะอาดตัดให้มีความยาว 3-5 ซม. ผึ่งให้สะเด็ดน้ำ แล้วนำมาเกลี่ยบนกระด้งหรือถาดที่สะอาด
การทำให้แห้ง อบที่อุณหภูมิ 50 C. ใน 8 ชั่วโมงแรก ต่อไปใช้อุณหภูมิ 40-50 C. อบจนแห้งสนิท หรือตากแดดจนแห้งสนิท ควรคลุมภาชนะด้วยผ้าขาวบาง

สารสำคัญ

ส่วนเหนือดินฟ้าทะลายโจร มีสารสำคัญจำพวกไดเทอร์ปีนแลคโตน (diterpene lactones) หลายชนิด ได้แก่ แอนโดรกราโฟไลด์ (andrographolide) นีโอแอนโดกราโฟไลด์ (neoandrographolide) ดีออกซีแอนโดกราโฟไลด์ (deoxyandrographolide) ดีออกซีไดดีไฮโดรแอนโดรกราโฟไลด์ (deoxy-didehydroandrographolide)

วัตถุดิบฟ้าทะลายโจรที่ดีควรมีปริมาณแลคโตนรวมคำนวณเป็นแอนโดรกราโฟไลด์ ไม่ต่ำกว่า 6 % ไม่ควรเก็บวัตถุดิบไว้ใช้นาน ๆ เพราะปริมาณสารสำคัญจะลดประมาณ 25 % เมื่อเก็บไว้ 1 ปี

ผลการศึกษาทางเภสัชวิทยา

การศึกษาในสัตว์ทดลองหรือในหลอดทดลอง พบว่า สารสกัดหรือสารสำคัญของฟ้าทะลายโจรมีฤทธิ์ ทางยาหลายประการ ดังนี้

1. ฤทธิ์ลดการบีบหรือหดเกร็งตัวของทางเดินอาหาร

2. ฤทธิ์ลดอาการท้องเสีย โดยทำให้การสูญเสียน้ำทางลำไส้จากสารพิษของแบคทีเรียลดลง

3. ฤทธิ์ลดไข้และต้านการอักเสบ

4. ฤทธิ์กระตุ้นภูมิคุ้มกัน

5. ฤทธิ์ป้องกันตับจากสารพิษหลายชนิด เช่น จากยาแก้ไข้พาราเซทตามอล หรือเหล้า

6. ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ

7. ฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด


ประสิทธิผลในการรักษาโรคจากรายงานการวิจัยทางคลินิก


1. รักษาอาการไข้เจ็บคอ (Pharyngotonsillitis) ผู้ป่วยที่ได้รับยาฟ้าทะลายโจรขนาด 6 กรัม/วัน หรือพาราเซทตามอล 3 กรัม / วัน หายจากไข้ และอาการเจ็บคอได้มากกว่ากลุ่มที่ได้ฟ้าทะลายโจรขนาด 3 กรัม / วัน อย่างมีนัยสำคัญในวันที่ 3 หลังรักษา แต่ผลการรักษาไม่มีความแตกต่างกันในวันที่ 7

2. การรักษาโรคอุจจาระร่วงและบิดแบคทีเรีย (Bacilliary dysentery) ผู้ป่วยที่ได้รับฟ้าทะลายโจรทั้งขนาด 500 มิลลิกรัม ทุก 6 ชั่วโมง และขนาด 1 กรัม ทุก 12 ชั่วโมง เทียบกับยาเตตร้าซัยคลิน พบว่า สามารถสามารถลดจำนวนอุจจาระร่วง (ทั้งความถี่และปริมาณ) และจำนวนน้ำเกลือที่ให้ทดแทนในการรักษาโรคอุจจาระและบิดแบคทีเรียได้อย่างน่าพอใจ ลดการสูญเสียน้ำได้มากกว่ากลุ่มที่ได้ยาเตตร้าชัยคลิน

3. การศึกษาประสิทธิผลในการบรรเทาอาการหวัด (Common cold) ผลการทดลองให้ยาเม็ดสารสกัดฟ้าทะลายโจรที่ควบคุมให้มีปริมาณของแอนโดกราโฟไลด์ และดีออกซีแอนโดรกราไฟไลด์รวมกันไม่น้อยกว่า 5 มิลลิกรัม /เม็ด ครั้งละ 4 เม็ด วันละ 3 เวลา ในผู้ป่วยที่เป็นไข้หวัด พบว่า วันที่ 2 หลังได้รับยา ความรุนแรงของอาการอ่อนเพลีย นอนไม่หลับ เจ็บคอ น้ำมูกไหล ในกลุ่มที่ได้รับยาฟ้าทะลายโจรน้อยกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญและในวันที่ 4 หลังได้รับยา ความรุนแรงของทุกอาการได้แก่ อาการไอ เสมหะ น้ำมูกไหล ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ปวดหู นอนไม่หลับ เจ็บคอ ในกลุ่มที่ได้รับยาฟ้าทะลายโจร น้อยกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญ

ข้อห้ามใช้ ห้ามใช้ฟ้าทะลายโจรสำหรับแก้เจ็บคอในกรณีต่าง ๆ ต่อไปนี้

1. ในผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บคอเนื่องจากติดเชื้อ Streptococcus group A

2. ในผู้ป่วยที่มีประวัติเป็นโรคไตอักเสบเนื่องจากเคยติดเชื้อ Streptococcus group A

3. ในผู้ป่วยที่มีประวัติเป็นโรคหัวใจรูห์มาติค

4. ในผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บคอเนื่องจากมีการติดเชื้อแบคทีเรีย และมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มหนองในคอ มีไข้สูง หนาวสั่น

ข้อควรระวัง

1. ฟ้าทะลายโจรอาจทำให้เกิดอาการปวดท้อง ท้องเดิน ปวดเอว หรือวิงเวียนศีรษะ ใจสั่น ในผู้ป่วยบางราย หากมีอาการดังกล่าว ควรหยุดใช้ฟ้าทะลายโจร

2. หากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน อาจทำให้แขนขามีอาการชาหรืออ่อนแรง

3. หากใช้ฟ้าทะลายโจรติดต่อกัน 3 วัน แล้วไม่หาย หรือมีอาการรุนแรงขึ้นระหว่างใช้ยา ควรหยุดใช้ และไปพบแพทย์

4. สตรีมีครรภ์ไม่ควรใช้ฟ้าทะลายโจร

ขนาดที่ใช้และวิธีใช้

รับประทานครั้งละ 1,500 – 3,000 มิลลิกรัม ของผงยาวันละ 4 ครั้ง หลังอาหาร 3 เวลา และก่อนนอน (จำนวนเม็ดหรือแคปซูลที่รับประทานแต่ละครั้งให้ปรับตามขนาดของผงยาที่บรรจุในแต่ละเม็ด)

วันพุธที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

เปิดสูตรเด็ดพิชิตหวัด2009"ใช้ทางพระเข้าข่ม"

ตั้งแต่เกิดโรคหวัด 2009 ระบาดไปทั่วโลกร่วมถึงประเทศไทยด้วย คงจะซึ้งกับคำพระที่ว่า "อโรคยา ปรมา ลาภา" การไม่มีโรคภัยไข้เจ็บถือเป็นการได้ลาภที่สุดยอด ทั้งๆที่ชาวพุทธไทยฟังคำพระนี้นาน เพราะไม่สำเนียก โดยมีพฤติกรรมตรงกับคำว่า "ปมาโท มัจจุโน ปทัง" ความประมาทเป็นหนทางแห่งความตาย เป็นโรคเอดส์ มะเร็ง ตายกันเป็นเบือ ตอนนี้โรคหวัด 2009 ก็ระบาดไปทั่วประเทศแล้วตัวเลขประมาณการเข้าหลัก 2 แสนคน แต่ตัวเลขที่แถลงประมาณ 4 พันคน ตาย 24 คน

ขณะนี้ก็ยังไม่มียารักษาไข้หวัดให้หายขาด รัฐบาลกำลังเร่งผลิตวัคซีลก็ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะได้ฉีด ต้องใช้คำพระอีกคำคือ "อัตตาหิ อัตตาโน นาโถ" ก็ต้องป้องกันตัวเองนั้นแหละดีที่สุด จะให้คนอื่นหรือรัฐบาลก็ช่วยได้อย่างที่เห็นนั้นแหละ วิธีการพึ่งตนเองต้องทำอย่างไรไม่ให้เป็นหวัดหรือเป็นแล้วไม่ถึงขั้นต้องไปวัด ก็จะต้องทำตามที่ทางกระทรวงสาธารณสุขแนะนำ โดยการสร้างภูมิคุ้มกันให้คุ้มให้กับตัวเอง คือ

1.นอนหลับให้พอเพียง โดยเข้านอนสี่ทุ่มและตื่นหกโมงเช้าสม่ำเสมอ 2.ออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ อย่างน้อยครึ่งชั่วโมงต่อวัน ยกเว้นวันที่รู้สึกเหนื่อยหรือไม่สบาย 3.ล้างมือตั้งแต่ปลายนิ้วไปจนจรดข้อศอกบ่อยๆ 4.เจ็บไข้ไม่สบายให้รีบพบแพทย์เพื่อตรวจว่าเป็นไข้จากอะไร 5.หากอยู่ใกล้คนไข้ให้ใส่ที่ปิดปากจมูกที่เหมาะสม 6.กินวิตามินซีหรือผลไม้รสเปรี้ยวช่วยเสริมคอลลาเจนเติมภูมิคุ้มกันให้เม็ดเลือดขาว 7.รับประทานอาหารหรือยาสมุนไพรเพื่อสร้างภูมิต้านต้าน

อย่างเช่น โป๊ยกั้กหรือพะโล้ เพราะมีสารตั้งต้นในการต้านไวรัสได้คล้ายกับในทามิฟลู กระเทียม หอมแดง หอมใหญ่ ขิง ข่า ตระไคร้และกะเพรา ฯลฯ โดยเมนูที่แนะนำให้รับประทานช่วงนี้ มี แกงเลียง แกงส้ม ต้มยำ ยำปลาทู เพราะมีสมุนไพร ขิง หัวหอมมาก นอกจากนี้ยังมีน้ำพริกกินกับผักต่างๆ อาทิ คาวตองผักพื้นบ้านของภาคเหนือและอีสาน รวมถึงผลไม้ทุกชนิด โดยเฉพาะชนิดที่มีรสเปรี้ยว ส้ม มะขามป้อม และฝรั่ง น้ำมะขาม น้ำตระไคร้ ชาเห็ดหลินจือ เบญจขันธ์ ฯลฯ หากมีไข้ในช่วง 1-2 วันแรกให้กินสมุนไพรดูแลอาการก่อนไปโรงพยาบาล อาทิ ฟ้าทะลายโจร จันทลีลาแก้ปวดเมื่อย ยาเขียวหอม หากไอ ยาอมมะขามป้อม มะแว้ง

ทั้งนี้ดร.ภญ.สุภาภรณ์ ปิติพร เภสัชกรผู้เชี่ยวชาญโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า สมุนไพรที่มีฤทธิ์ในการช่วยสร้างภูมิต้านทานในการรักษาไข้หวัดใหญ่ที่แนะนำ 3 ชนิดคือ 1.ฟ้าทะลายโจร มีฤทธิ์ในการรักษาและสร้างภูมิต้านทานของร่างกายในการป้องกันโรค 2.ขิง มีฤทธิ์อุ่นสอดคล้องกับการรักษาโรคหวัด ลดจำนวนไวรัสในร่างกาย และ 3.กระเทียม หรือกระเทียมดอง ถ้าไม่อยากเป็นหวัดให้กินทุกวันประสิทธิภาพเหมือนกับวัคซีนป้องกันโรค ส่วนกระเจี๊ยบ ขมิ้นอ้อย มะระ และฟักข้าวที่มีฤทธิ์เหมือนยาโอเซลทามิเวียร์
ด้าน ภญ.อัญชลี จูฑะพุทธิ รองผู้อำนวยสถาบันการแพทย์ไทย กล่าวว่า การรับประทานฟ้าทะลายโจร เพื่อรักษาโรคหวัดควรรับประทานติดต่อกันไม่เกิน 7 วัน ครั้งละไม่เกิน 1.5 กรัม วันละไม่เกิน 6 กรัม ถ้าแคปซูลที่มีปริมาณ 500 มิลลิกรัม ก็รับประทานครั้งละไม่เกิน 3 แคปซูล หากเป็นขององค์การเภสัชกรรม (อภ.) บรรจุ 375 มิลลิกรัมต้องรับประครั้งละ 5 แคปซูล การรับประทานติดต่อกันเป็นเวลานานจะทำให้มีผลข้างเคียงคือมือเท้าชา อ่อนแรงบ้าง

หากปฎิบัติตัวตามนี้แล้วยังไม่สามารถที่จะสร้างภูมิกันให้คุ้มให้กับตัวเองได้ ก็มีคาถาอีกคาถาหนึ่งที่ขลังนักแลคือ "อนิจจา วต สังขารา อุปปาทวยธัมมิโน อุปปัชชิตวา นิรุชชันติ เตสัง วูปสโม สุโข" คือสรรพสิ่งทั้งหลายเป็นของไม่มั่นคงถาวรเมื่อเกิดแล้วก็เสื่อมสลายไปเป็นธรรมดา

พระพุทธเจ้ายังสอนให้นึกถึงความตายเป็นประจำ เพราะมีดีหรือทำแต่ความดีแล้วจะกลัวทำไมกับความตาย เพราะคำพระท่านยังบอกอีกว่า"จิตเต สังกิลิตเถ ทุคติปาติกังขา" คือทำชั่วไปนรก และ "จิตเต อสังกิลิตเถ สุคติปาติกังขา" ทำดีจิตไม่เศร้าหมองก็ไปสวรรค์........ เอวังโรคไข้หวัด2009ก็มีด้วยประการฉะนี้แล

วันอังคารที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ทรานส์ฟอร์เมอร์สจัดโปรโมชั่นสุดพิเศษแก่แฟนตัวจริง!!

ยังคงความแรงไม่หยุดสำหรับหนังสุดยิ่งใหญ่แห่งปีนี้ ซึ่งในขณะนี้คาดว่าจะเป็นแชมป์ประจำปีนี้ และโค่นแชมป์เก่าที่เคยทำรายได้ตลอดกาลสูงสุดอย่าง The lord of the ring 3 หรือ Spiderman 3 ไปแล้วเรียบร้อย ด้วยตัวเลขอย่างไม่เป็นทางการผ่านหลัก 215 ล้านบาทไปแล้ว ทางค่ายหนัง UIP ร่วมกับพาร์ตเนอร์ต่างๆจัดโปรโมชั่นสำหรับแฟนทรานส์ฟอร์เมอร์สตัวจริงที่ชื่นชอบและดูกันหลายรอบ มีทั้งลด แลก แจก แถม ชิงรางวัลสุดพิเศษมากมาย ดังนี้
น้องๆหรือครอบครัวที่ทาน Kellogg’s กันเป็นประจำ ฝากล่องมีมูลค่าถึง 40 บาท โดยตัดฝากล่องด้านบาร์โค้ด สำหรับกล่องขนาดกลางและขนาดใหญ่ นำมาเป็นส่วนลดเมื่อซื้อบัตรชมทรานส์ฟอร์เมอร์สทุก 2 ที่นั่ง ตั้งแต่ 16 ก.ค. เป็นต้นไป ทั้งเครือเมเจอร์ อีจีวี และเอสเอฟซีเนม่า
แฟนๆที่มีรถยนต์สวยเปรี้ยวแรง คาลเท็กซ์ เดโล่ สปอร์ต ก็มอบบัตรชมภาพยนตร์ให้ทันที 1 ที่นั่ง เมื่อซื้อน้ำมันเครื่องเดโล่ แล้วส่ง SMS 4504094 บอกเลขที่ใบเสร็จ ราคาที่ซื้อ แล้วรอ SMS ตอบกลับ แล้วนำไปแสดงที่ช่องขายตั๋ว พร้อมกับใบเสร็จ ก็รับบัตรชมทรานส์ฟอร์เมอร์สเลยทันที รีบด่วนเลยคะ ถึง 31 ก.ค.นี้ (บัตรมีจำนวนจำกัด) เฉพาะเครือเมเจอร์ อีจีวี
และอีกหนึ่งโปรโมชั่นที่เอาใจแฟนๆนักสะสมของที่ระลึก และแฟนๆกลุ่มใหญ่เพื่อนเยอะแฟนแยะ รับทันที เข็มกลัด ทรานส์ฟอร์เมอร์ส 6 แบบ 6 ลาย (Limited Edition) ทุก 2 ที่นั่งรับทันที 1 อัน เริ่มตั้งแต่ 9 ก.ค. เป็นต้นไป รีบด่วน ก่อนจะหมด
ลุ้นรางวัลหุ่นทรานส์ฟอร์เมอร์สเซทใหญ่ และของที่ระลึกส่งตรงจากเมืองนอก มูลค่ารวมกว่า 30,000บาท สำหรับแฟนที่สะสมหางบัตรต่อกันยาวที่สุด ของรอบตั้งแต่วันที่ 1-31 ก.ค.นี้ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เครือเมเจอร์ อีจีวี และ เอสเอฟซีเนม่า

เอาอะไรวัดเรตติ้งอภิสิทธิ์เท่าแจ็คสันเหนือทักษิณ

หลังจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ลงพื้นที่จังหวับุรีรัมย์เมื่อวันเสาร์ที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา หลังจากนั้นสงครามน้ำลายก็พ่นออกมาใส่กัน ฝ่ายพรรคเพื่อไทยก็บอกว่าไม่เกิดผลที่จะทำให้คนอีสานมีความนิยมในพรรคประชาธิปัตย์เพิ่มขึ้นแต่อย่างใด ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ก็ออกมาบอกว่าได้ผลเกินนคาด

เมื่อนักการเมืองพ่นน้ำลายกันไปมาตามประสานนักการเมืองก็ไม่น่าสนใจอะไรมากนัก เพราะเป็นธรรมชาติของนักการเมืองไทยไปแล้วที่มักจะชมฝ่ายตรงกับข้ามไม่เป็นตำหนิเป็นอย่างเดียวเท่านั้น

แต่ที่น่าสนใจตรงที่นายวิฑูรย์ นามบุตร ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ที่ออกมาบอกว่ากระแสคนอีสานตอบรับพรรคประชาธิปัตย์สูงมาก จัดได้ว่า สูงกว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเสียอีก ถ้าหยุดอยู่แค่นี้ก็คงไม่มีอะไร

แต่นายวิฑูรย์ได้ร่ายต่อไปว่า "บริเวณข้างทางที่นายกรัฐมนตรีเดินทางผ่านมีชาวบ้านจำนวนมากออกมาต้อนรับ ส่งเสียงกรี๊ดยิ่งกว่าเจอไมเคิล แจ็คสัน เสียอีก"

ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า นายวิฑูรย์เอาอะไรวัด ทำให้นึกถึงกบอยู่ในกะลาพอมันร้องคงนึกว่าดังคับโลกเลยทีเดียว ดังนั้นการจะเปรียบเทียบอะไรควรจะนึกถึงความเป็นจริงด้วย

ถ้าพูดหลอกตาสีตาสาพอได้ แต่คนรู้เขามีเขารู้จะดูถูกเอาว่ามีภูมิปัญญาเท่านี้เองหรือ ฟังแล้วมันเลี่ยนจะอ๊วกๆๆๆๆ เพราะแจ็คสันเขาดังคับโลกใครๆก็รู้จัก ลองดูคลิปนี้ของนายกฯอภิสิทธิ์ที่ลงพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์มีคนคลิกเข้ามาดูกี่คน

ดูคลป-http://www.mhanation.net/aphisit1407.html

วันเสาร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

พุทธทายาทไร้น้ำยาศาสนาเสื่อมเหลือเพียงสัญลักษณ์จริงหรือ?

ได้อ่านบทความใน นสพ.กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 9 ก.ค. 2552 หน้า 10 หน้า 28 คอลัมน์กฎเมืองกฎหมายเรื่อง"ความเสื่อมของพุทธศาสนาในสังคมไทย" ซึ่งเขียนโดย สมชาย ปรีชาศิลปกุล เริ่มจากการอ้างอิงผลสำรวจความคิดเห็นในช่วงวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษาของคนในสังคมไทย ที่มีต่อพุทธศาสนา โดยสรุปพบว่า คนไทยให้ความสนใจต่อพุทธศาสนาลดน้อยลง
เหตุผลมาจากความเป็นวัตถุนิยมมากขึ้น เกิดจากปัญหาปากท้องทางด้านเศรษฐกิจ และผลมาจากความคิดของตะวันตก ทั้งวัตถุนิยม บริโภคนิยม ทุนนิยม แต่กลับไม่มีใครพูดถึงความไร้น้ำยาขององค์กรและผู้สืบทอดพุทธศาสนาเองเลยว่าเป็นปัจจัยหนึ่ง และควรนับว่าเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญอย่างมากด้วยต่อการทำให้พุทธศาสนาอยู่ในสถานะที่ทรุดลงแทบทุกลมหายใจ
สมชาย ปรีชาศิลปกุล ได้ฉายภาพของความไร้น้ำยาขององค์กรและผู้สืบทอดพุทธศาสนาที่เป็นฝ่ายติดกับวัตถุเสียเอง ทำให้ไม่สามารถเผชิญกับปัญหาใหม่ๆในปัจจุบันอย่างเช่น การเล่นหุ้น การขายตัวด้วยความสมัครใจเป็นสัมมาอาชีวะหรือไม่ แล้วจะทำอย่างไรให้องค์กรและผู้สืบทอดพุทธศาสนารู้เท่าทันโลก แม้นพระรุ่นใหม่ท่องเน็ตก็ติดแชทใช้ประโยชน์ในทางที่ไร้สาระเสียเป็นส่วนมากเช่น ดูรูปโป๊ จึงได้เรียกร้องให้มีการตรวจสอบองค์กรและผู้สืบทอดพุทธศาสนาเป็นการด่วน
แม้นว่าจะมีการสำรวจความเห็นกันเป็นประจำเนื่องในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาเช่นนี้ทุกปีแล้ว ก็มีการวิพากษ์วิจารณ์กันไปเสร็จแล้วก็เงียบหายไร้แนวทางแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม ก็ไม่ทราบว่าบทความเช่นนี้จะถึงหูผู้ที่ทำหน้าที่องค์กรและผู้สืบทอดพุทธศาสนาโดยตรงหรือไม่ เพราะว่าค้นหาบทความนี้บทโลกอินเตอร์เน็ตก็ยากที่จะเจอแล้ว
ส่วนตัวแล้วเห็นด้วยกับความเห็นในบทความนี้ เพราะมีความรู้สึกว่า องค์กรและผู้สืบทอดพุทธศาสนาควรทำหน้าที่มากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนี้ แท้ที่จะนั่งรอคอยแก้ปัญหาอยู่แต่ในวัด ควรที่จะออกนอกวัดบ้าง
นอกจากนี้องค์กรและผู้สืบทอดพุทธศาสนาเป็นฝ่ายที่ยึดติดกับวัตถุเสียเอง มุ่งสร้างวัตถุมากกว่าการสร้างคุณธรรมในสังคม แข่งกันสร้างโบสถ์ วิหาร ใหญ่โต เหมือนกับวิมาน เสร็จแล้วกลับใช้เป็นสิ่งสร้างคุณธรรมน้อยมาก ไม่สามารถแก้ปัญหาสังคมได้ บ้างวัดก็เป็นวัดร้างหลังจากผู้ที่ชักชวนสร้างเสียชีวิตไป สมชาย ปรีชาศิลปกุลจึงตั้งคำถามว่า "จึงไม่แปลกที่พุทธศาสนาจะไม่เป็นที่สนใจ ก็ในเมื่อไม่สามารถให้คำตอบที่มีความหมายแก่ผู้คนได้แล้วจะนับถือไปเพื่ออะไร"
ขณะเดียวกัน พันเอก(พิเศษ)นวม สงวนทรัพย์ ได้เขียนหนังสือเรื่อง "ความเสื่อมของพระพุทธศาสนาในอินเดีย" ยกพระพุทธเจ้าได้ตรัสถึงมูลเหตุที่ทำให้ พระศาสนาเสื่อม เพราะพระสัทธรรมเลอะเลือน ซึ่งมีข้อหนึ่งที่น่าจะเห็นภาพในปัจจุบันคือ พวกภิกษุชั้นเถระ ทำการสะสมบริกขาร ประพฤติย่อหย่อนในไตรสิกขา เป็นผู้นำในทางทราม ไม่เหลียวแลในกิจแห่งวิเวก ไม่ปรารภความเพียร เพื่อถึงสิ่งที่ยังไม่ถึง เพื่อบรรลุสิ่งที่ยังไม่บรรลุ เพื่อทำให้แจ้ง ในสิ่งที่ยังไม่ทำให้แจ้ง
ผู้บวชภายหลัง ได้เห็นพวกเถระ เหล่านั้น ทำแบบแผน เช่นนั้นไว้ ก็ถือเอา เป็นแบบอย่าง.และยังทรงย้ำเสมอๆว่า พระพุทธศาสนา จะเสื่อมสูญจนหายไปนั้น มีเหตุที่สำคัญที่สุด เกิดจากพุทธบริษัท 4 ทั้งภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก และอุบาสิกา จึงเป็นหน้าที่ของพุทธบริษัททุกคน ต้องร่วมกันรับผิดชอบ ในการสืบทอดพระพุทธศาสนานี้ เพื่อให้ลูกหลาน ได้ยึดเป็นสรณะที่พึ่ง ที่ระลึกต่อไป
เมื่อได้อ่านบทความเช่นนี้แล้วคงจะรู้สึกห่อเหี่ยวหัวใจอยู่บ้างพอสมควร แล้วองค์กรและผู้สืบทอดพุทธศาสนาที่ทำหน้าที่อย่างแท้จริงไม่มีเลยหรือ ซึ่งก็มีแสงสว่างอยู่บ้างเมื่อได้เห็นบทความใน นสพ.กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันเดียวกัน หน้า 28 คอลัมน์ HR& Management มีบทความเรื่องบริหารองค์กรชั้นยอด จัดการตามหลักพุทธวัจน์ ซึ่งเขียนโดย ทวีวัฒนา ทุนคุ้มทอง สรุปจากบทสัมภาษณ์พระอาจารย์คึกฤทธิ์ โสตฺถิผโล เจ้าอาวาสวัดนป่าพง จ.อุบลราชธานี ได้สะท้อนให้เห็นถึงผู้สืบทอดพุทธศาสนาที่มีศักยภาพแห่งหนึ่ง ที่ได้อธิบายถึงหลักธรรมของผู้บริหารหรือผู้นำองค์กรมีอะไรบ้าง พอสรุปได้ดังนี้ ผู้บริหารจะต้องมีความยุติธรรม ไม่โง่ รู้จักพูด รู้จักสร้างความสามัคคี ตั้งอยู่ในทิศ 6 และสัปปุริสธรรม 7 ประการ ซึ่งก็เป็นหลักธรรมพื้นๆในนวโกวาท นักธรรมชั้นตรี
แม้นว่าหลักธรรมที่พระอาจารย์คึกฤทธิ์ยกมานั้นเป็นหลักธรรมพื้นฐาน หลายคนคงได้ฟังเทศน์และเรียนมาบ้างแล้ว แต่อาศรัยความสามารถของผู้เรียบเรียงให้เข้ากับหน้าหนังสือพิมพ์ จึงทำให้มีความรู้สึกว่าหลักธรรมของพระพุทธเจ้าเป็นยาวิเศษแก้ปัญหาสังคมได้ทุกปัญหา นี้เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งของเหตุผลที่จำเป็นต้องเร่งสร้างศักยภาพขององค์กรและผู้สืบทอดพุทธศาสนา เพราะไม่เช่นนั้นก็จะกลายเป็นตัวปัญหาของสังคมไป และในที่สุดพุทธศาสนาก็เป็นเพียงสัญลักษณ์ไป
พระวัดนาป่าพงนอกจากจะทำหน้าที่ในวัดแล้วยังได้ออกไปนอกวัดรับรู้ปัญหาของสังคม ทั้งในรูปแบบภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เช่นเดียวกับองค์ดะไล ลามะ ทำอยู่ทุกวันนี้ ลองเข้าไปในเว็บไซต์ยูทูปแล้วค้นหาคำว่า "หลวงปู่ชา วัดนาป่าพง" หรือภาษาอังกฤษคำว่า "Buddha" น้อยนักจะเห็นพระไทยเทศน์เป็นภาษาอังฤษ ส่วนใหญ่แล้วจะเห็นงค์ดะไล ลามะ และพระสาย "หลวงปู่ชา" นี้ก็เป็นตัวอย่างของการใช้สื่อที่ทันสมัยในการเผยแพร่ธรรมะ ซึ่งก็มีพระไทยหลายรูปหันมาใช้สื่อด้านนี้
หลายคนอาจจะได้รับข้อความอย่างเช่น "เขามีส่วนเลวบ้างชั่งหัวเขา จงเหลือเอาส่วนดีเขามีอยู่ เป็นประโยชน์โลกบ้างยังน่าดู ส่วนที่ชั่วอย่าไปรู้ของเขาเลย" หรือข้อความว่า อยู่อย่างต่ำ ทำอย่างสูง(พุทธทาสภิกขุ) ที่ส่ง SMS มาทางมือถือ ซึ่งเป็นโครงการที่ท่านจันทร์ทำร่วมกับคุณ ศิริ กลิ่นจันทร์ แม้นจะเป็นชาวมุสลิมก็ตาม ส่งข้อความเช่นนี้เตือนสติคนที่มีปัญหาอย่างเช่นคิดจะฆ่าตัวตาย และปัจจุบันนี้ก็มีแนวร่วมอย่าง อาจารย์สุรวงศ์ วัฒนกุล อาจารย์ศิวกานต์ ปทุมสูตร ไพวรินทร์ ขาวงาม และศักดิ์ศิริ มีสมสืบ มาร่วมในการผลิตเนื้อหาข้อความดีๆ และมีพระรุ่นใหม่หลายรูปที่ทำลักษณะเช่นนี้ แต่ดูเหมือนจะทำลักษณะปัจเจกพระไม่ได้ทำในรูปขององค์กร
แต่เมื่อเห็นภาพเช่นนี้จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เห็นเข้าวัดน้อยลง แต่ไม่ได้หลายความว่าคนจะสนใจหลักธรรมน้อยลงไปด้วย เพราะทุกวันนี้ผู้ศึกษาธรรมะแทนที่จะเรียนตามใบลาน หนังสือธรรมะ แต่ปัจจุบันนี้เป็นยุคธรรโมโลยีพระต้องเทศน์สอนผ่านทางอินเตอร์เน็ตมือถือ ส่วนพระที่ยึดแบบแผนเดิมในที่สุดก็ตกยุคไปเอง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเปล่าหมายสำคัญอยู่ที่การปฏิบัติการฝึกจิตคือการนั่งสมาธิเจริญภาวนาถึงจะสามารถขัดเกลาจิตใจคนได้ จะอาศรัยเพียงให้ทานรักษาศีล แต่ไม่เจริญภาวนาแล้วอาจจะเป็นคนงมงายได้ง่าย เพราะปัจจุบันนี้เด็กแนวเขาเข้าวัดปฏิบัติธรรมกันแล้วแทนที่จะไปวัดฟังเทศน์อย่างเดียว หากสนใจลองไปปฏิบัติดูตามสถานที่ต่างๆ ดังนี้
สถานที่ปฏิบัติธรรมในของประเทศไทย
วัดแม่ปาง ต.สันติคีรี อ.แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน
วัดป่าพระอาจารย์มั่น (วัดร้างป่าแดง) บ้านแม่กอย ต.เวียง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่
วัดอนาลโย อ.เมือง จ.พะเยา
วัดถ้ำดอยลาน ต.สามเงา อ.สามเงา จ.ตาก
วัดป่าน้ำโจน ต.ชาลีพัน อ.วังทอง จ.พิษณุโลก
วัดแพร่ธรรมาราม ต.เด่นชัย อ.เด่นชัย จ.แพร่
วัดป่ามหาชัย ต.บ้านเกาะ อ.มหาชัย จ.สมุทรสาคร
วัดปลักประดู่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี
วัดไกลกังวล ต.บ้านเชี่ยน อ.หันคา จ.ชัยนาท
วัดธรรมมงคล 132 ถ.สุขุมวิท ซอย 101 ตรอกปุณณวิถี 20 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ
วัดปทุมวนารา แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
วัดป่าซับผักกูด ต.ห้วยไร่ อ.คอนสวรรค์ จ.ชัยภูมิ
วัดสนามพราหมณ์ อ.เมือง จ.เพชรบุรี
วัดหลวงตาบัวญาณสัมปันโน ต.สิงฆ์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี
วัดสุนันทวนาราม ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี
วัดป่าบุญญาวาส ต.บ่อทอง อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี
วัดมาบจันทร์ ต.แกลง อ.เมือง จ.ระยอง
วัดเขาสุกิม ต.เขาบายศรี อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี
วัดบางแก้วผดุงธรรม ต.ท่ามะเดื่อ อ.บางแก้ว จ.พัทลุง
วัดบางเตย ต.บางเตย อ.เมือง จ.พังงา
วัดป่าสามัคคีธรรมาราม ต.บางเขียด อ.สิงหนคร จ.สงขลา
วัดพุทธนิมิตร (ภูค่าว) บ้านนาสีนวล ต.สหัสขันธ์ อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์
วัดอุดมมงคลคาคีรีเขต ต.บ้านโคก อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น
วัดพระธาตุมหาชัย บ้านมหาชัย ต.มหาชัย อ.เรณูนคร จ.นครพนม
วัดป่าสาละวัน ถนนสืบศิริ อ.เมือง จ.นครราชสีมา
วัดป่าวิเวกวัฒนาราม ห้วยทราย อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร
วัดผาน้ำทิพย์เทพประสิทธิ์วนาราม (พระมหาเจดีย์ชัยมงคล) ต.ผาน้ำย้อย อ.หนองพอก จ.ร้อยเอ็ด
วัดถ้ำผาปู่ บ้านนาอ้อ ต.นาอ้อ อ.เมือง จ.เลย
วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ.สกลนคร
วัดเจติยาคีรีวิหาร (วัดภูทอก) บ้านคำแคนพัฒนา ต.นาสะแง อ.ศรีวิไล จ.หนองคาย
วัดป่าบ้านตาด ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี
วัดหนองป่าพง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี
หากเป็นกรุงเทพฯและปริมณฑลขอแนะนำวัดมหาธาตุท่าพระจันทร์ และวัดญาณเวศกวัน จ.นครปฐม
(จากกรุงเทพธุรกิจ) เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้

วันอังคารที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

เมแกน ฟ็อกซ์โชว์สะยิวอีกกับหนังเรื่องใหม่

หุ่นเซ็กซี่ของ เมแกน ฟ็อกซ์ อย่างนี้หนุ่มเกาหลีอย่าง เรน ยังบอกปัดอีกหรือ หลังจากเธอโชว์สะยิวหนังเรื่อง Transformers ยังไม่หน่ำใจ ขณะนี้เธอกำลังมีผลงานใหม่ออกมาให้ได้ดูกันอีกกับหนังเรื่อง Jennifer's Body ยอมพลีกายเปลือยท่อนบน ส่งผลให้หนังติดเรทอาร์ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วเข้าฉายวันที่ 18 ก.ย.ดูตัวอย่างไปก่อนก็แล้วกัน

ดูตัวอย่างหนัง-http://www.mhanation.net/meganfox0707.html

เปิด Forest Lawnสุสานฝังศพไมเคิล แจ็คสัน

ครอบครัวได้ลงความเห็นที่จะฝังศพ ไมเคิล แจ็คสัน ที่ Forest Lawn Memorial Park Hollywood Hills ที่นครลอสแองเจลิส อันเป็นสถานที่เดียวกับที่ฝังร่างของย่าของเขาเองเมื่อปี 1990

ดูคลิป-http://www.mhanation.net/Jackson0707.html

วันจันทร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

สื่อมาเลย์ตีข่าวทักษิณเดินทางเข้าประเทศ

สื่อมาเลย์รายงานข่าว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เดินทางเข้าประเทศมาเลเซีย โดยอ้างอิงคำเปิดเผยของนายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย ที่ระบุ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เดินทางมานอนที่โรงแรมแชงกรีรา เมืองกัวลาลัมเปอร์ หลังจากรู้ต้วว่าทางการไทยติดตามตัวได้เครื่องบินไปยังฟิจิ

ดูคลิป-http://www.mhanation.net/Thaksin0707.html

วันศุกร์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

คนไทยจัดงานไว้อาลัยไมเคิล แจ็คสัน

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 3 กรกฎาคม บริษัท โซนี่ มิวสิค เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ โอเปอเรติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ได้จัดงานรำลึกการจากไปของ ไมเคิล แจ็กสัน ราชาเพลงป๊อป ในชื่อ "ไมเคิล แจ็คสัน, ยู อาร์ น็อท อโลน" ในวาระครบรอบ 7 วัน ของการจากไป ณ ล็อบบี้ ชั้นจี เซ็นทรัลเวิลด์ทาวเวอร์ มีแฟนเพลง บุคคลในแวดวงบันเทิง ร่วมงานกันอย่างคึกคัก
ภายในงานมีการฉายภาพแสดงสดและมิวสิกวิดีโอของไมเคิล จากนั้นมีการพูดคุยถึงไมเคิลโดยกูรูวงการเพลงและแฟนพันธุ์แท้ของไมเคิล ในหัวข้อ "ทำไมใครๆ ถึงเรียกไมเคิล แจ็กสันว่า คิงออฟป๊อป" และมุมมองของสื่อมวลชนที่มีต่อคิงออฟป๊อป และเพลงไมเคิลมีอิทธิพลอย่างไรต่อคนไทย
ภายในงานมี ติ๊ก ชีโร่ นายเรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์ หรือเจมส์ นายสมิทธิ เพียรเลิศ น.ส.อัจฉริยา สินรัชตานันท์ ร่วมพูดคุย ต่อด้วยการแสดงในเพลง "ไอวิวอีแด" ของไมเคิล จากศิลปิน อาร์ท วาเคชั่น และ paul Ewing ศิลปินอิสระจากอังกฤษ ผู้ที่เคยร่วมเล่นดนตรีกับไมเคิล อ่านบทกลอน โดย กุดจี่ กวีลูกโลกสีเขียว การแสดงเพลง "แบล็กออร์ไวท์" โดย ไมเคิล ตั๋ง การประมูลภาพวาดไมเคิลของ ติ๊ก ชีโร่ เพื่อนำรายได้มอบให้มูลนิธิบ้านเด็กตาบอดพิการซ้ำซ้อน
ปิดท้ายด้วยให้ อมิตา มาเรีย ยัง ตัวแทนศิลปิน กล่าวคำไว้อาลัย นายจอห์น รัตนเวโรจน์ หรือ จอห์น นูโว ขึ้นมาเป็นต้นเสียง พร้อมเชิญทุกคนร่วมร้องเพลง "ยู อาร์ น็อท อโลน" เป็นการไว้อาลัยสุดท้าย(คมชัดลึก)


ดูคลิปที่ - http://www.mhanation.net/Jackson0407.html

วันพฤหัสบดีที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ไมเคิล แจ็คสันก็สนใจวิถีพุทธเหมือนกัน

เพลง Scream เป็นอีกเพลงหนึ่งในอัลบั้มชุดที่ 9 ชื่อ History ของ ไมเคิล แจ็คสัน ที่ได้รับความนิยมสูง และที่พิเศษคือเป็นผลงานที่ทำร่วมกับร่วมกับ เจแน็ต แจ็คสัน น้องสาว อีกหนึ่งผลงานที่ฝากไว้ให้กับโลกใบนี้ ในมิวสิกวิดีโอสีขาวดำตัวนี้ 2 พี่น้อง ทุ่มทุนสุดๆ กับการถ่ายทำที่ลงขันไปทั้งหมด 7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 245 ล้านบาท เพื่อตอบแทนแฟนเพลงที่สนับสนุนพวกเขามาโดยตลอด
และเมื่ออัลบั้มชุด Historyวางแผงในปี 1995 ที่มีเพลงฮิตอย่าง “You Are Not Alone” ซึ่งเป็นซิงเกิลแรกในประวัติศาสตร์ที่เข้ามาอยู่ในอันดับ 1 ตั้งแต่สัปดาห์แรกที่วางจำหน่าย

เพลง Scream นี้ได้รางวัล Grammy Award คือ Best Music Video, Short Form ซึ่ง ไมเคิล แจ็คสัน ได้กล่าวตอนรับรางวัลว่า "ผมกับแจเน็ตเป็นคนละคนกันจริงๆนะครับ..." (Janet and I...are truly different persons" ผู้คนก้อฮากันลั่น (ด้วยความที่ปีนั้น พี่-น้องคู่นี้ยังหน้าตาเหมือนกันมาก และผิวไมเคิลยังดำอยู่แต่เสียงเล็กเหมือนแจเน็ต ดูเผินๆแล้วเหมือนกันเด๊ะ) และ เพลง Scream ยังคงเปิดบ่อยทางช่องเอ็มทีวีในทศวรรษ 1990

มิวสิกวิดีโอสีขาวดำเพลง Scream เป็นการเล่นเกมอวกาศต่อสู่กันระหว่าง ไมเคิล แจ็คสัน กับน้องสาว เล่นเท่าไรก็ไม่สามารถจะชนะน้องสาวได้ ถึงขึ้นโมโหทุบกีต้าร์ทิ้ง และมีจุดที่น่าสนที่ ไมเคิล แจ็คสัน หาวิธีที่จะชนะน้องสาวได้ ก็คือการสั่งสมาธิ และในฉากก็มีการโชว์พระพุทธรูปและรูปหยินหยางให้เห็น ขณะที่ “เจเน็ท แจ็คสัน” ใช้วิธียั่วะยวน ทำให้นึกถึงตอนที่พระพุทธเจ้าชนะมารแล้วตรัสรู้
จากจุดนี้ทำให้มีความรู้สึกว่า ไมเคิล แจ็คสัน ก็สนใจวิถีพุทธอยู่ ถึงได้นำมาประกอบในมิวสิกวิดีโอสีขาวดำของเพลง Scream ถึงแม้นจะน้อยนิดก็ตามทีก็ถือเป็นอุปนิสัย

คลิป-http://www.mhanation.net/Jackson0307.html

วันพุธที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

นุ่น-แม่ผ่องศรีอึ้งจะเปลี่ยนชื่อตัวเหี้ยเป็นวรนุช

อึ้งกันไปตามๆกันทั้งดารา นักร้อง เมื่อได้ทราบว่าตัวเงินตัวทองหรือเหี้ย มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Varanus salvator เอ้มันไม่น่าจะมีปัญหาตรงไหน แต่ที่ปัญหาก็คือว่า นายชัชวาลย์ พิศดำขำ ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดันไปอ่านเป็นภาษาไทยว่า วรนุช แถมจะเปลี่ยนชื่อเป็น วรนุช ด้วย ทั้งนี้เพื่อต้องการทำให้เหี้ยเป็นสัตว์ดูไม่น่าเกลียจหรืออาจกลายเป็นสัตว์น่ารักไป
เท่านั้นแหละเดือดร้อนถึงดาราสาวที่มีข่าวจะเข้าประตูวิวาห์อีกคนเห็นฝ่ายชายบอกว่าปีหน้าคือ "นุ่น"วรนุช วงษ์สุวรรณ ถึงกับอึ้งเลยที่เดียว เดือดร้อนถึงพี่สาวและผู้จัดการส่วนตัวโต้แทนว่า " คำว่า varanus ตัวสุดท้ายเป็นตัวเอส ไม่น่าจะสะกดด้วยตัว ช นะ คนที่เขาตั้งชื่อ เขามีความรู้ใช่มั้ย"
ขณะเดียวกันคำว่า "วรนุช" เป็นนามสกุลของแม่ผ่องศรี วรนุช ศิลปินแห่งชาติวัย 71 ปี บอกว่า นามสกุลของตนภาษาอังกฤษเขียนว่า "voranuch" ถ้าไม่ได้เขียนแบบนี้ก็คงไม่ใช่แน่
เมื่อมีวิพากษ์วิจารณ์กันยกใหญ่จนหูชา ท้ายที่สุดแล้วเดือดร้อนถึงนายเกษมสันต์ จิณณวาโส อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ออกมาแก้ต่างว่า ไม่ได้มีแนวคิดที่จะเปลี่ยนชื่อ "ตัวเหี้ย" เป็น "วรนุช" เพราะชื่อตัวเงินตัวทอง เป็นชื่อสามัญที่เรียกกันอยู่แล้ว ซึ่งความจริงแล้ว ถ้าอ่านตามชื่อภาษาอังกฤษ ควรจะอ่านว่า "วรนัส" มากกว่า
แบบนี้ต้องบอกว่าประสงค์ดีแต่รู้เท่าไม่ถึงการหรือเปล่าหว่า....ถ้าตัวเหี้ยรู้เรื่องคงยิ้มชอบใจและดีที่จะได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น"วรนุช" แล้วต่อไปคงจะไม่มีใครต้องการตั้งชื่อลูกหลานว่า"วรนุช"เป็นแน่ เพราะจะไปเหมือนกับตัวเงินตัวทอง....อิอิ
Google