เมื่อคืนวันที่ 28 มิ.ย.บนเวที "แบล็ค เอนเทอร์เทนเม้น เทเลวิชั่น" หรือ เบ็ท อวอร์ด ที่ลอส แองเจลิส เหล่าดาราและแฟนเพลงร่วมงานเพื่อเป็นเกียรติต่อการจากไปของ ไมเคิล แจ็คสัน ราชาเพลงป๊อป ที่ลอส แองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา หลายคนได้ขึ้นไปบนเวทีกลั่นคำจากในไว้อาลัย บอกเล่าความประทับใจที่มีต่อไอดอลของพวกเขา สลับกับการร้องเพลงยอดฮิตของแจ็คสัน รวมถึงเจเน็ต แจ็คสันน้องสาวด้วย
คลิป-http://www.mhanation.net/Jackson2906.html
วันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2552
วันอาทิตย์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2552
บราซิลแชมป์คอนเฟดฯหลังไล่แซงชนะสหรัฐ3-2
ลูซิโอ ฮีโร่ยิงประตูชัยให้กับบราซิลไล่แซงชนะสหรัฐอเมริกาอย่างสุดมัน 3-2 คว้าแชมป์คอนเฟเดอเรชั่นส์ คัพ ไปครองอีกสมัย ขณะที่ สเปน ชนะ แอฟริกาใต้ ช่วงต่อเวลาพิเศษ 3-2 อลองโซยิงประตูชัย ครองที่ 3
ดูคลิปและเนื้อต่อที่ - http://www.mhanation.net/spen2906.html
ดูคลิปและเนื้อต่อที่ - http://www.mhanation.net/spen2906.html
คลิปไมเคิล แจ็คสันร้องเพลงคู่บริตนีย์ สเปียร์
ไมเคิล แจ็คสัน ผู้ล่วงลับด้วยวัยเพียง 50 ปี ได้ชื่อว่าเป็นราชาเพลงป๊อป มีชื่อเสียงโด่งดังสุดขีดในปี 2525 ขณะเดียวกัน"บริตนีย์ สเปียร์" ก็ได้ชื่อว่าเป็นราชินีเพลงป็อป โด่งดังเป็นพลุแตก ขณะยังเป็นวัยรุ่นเมื่อปี 2542 จากอัลบัม"เบบี้ วัน มอร์ ไทม์"ที่ขายถล่มทลายไปกว่า 70 ล้านก็อปปี้
แต่วิถีชีวิตของนักร้องดังทั้งสองก็ไม่ต่างกันเท่าใดนัก ประสบปัญหาคล้ายๆกัน มีรุ่งและก็มีร่วง แต่"บริตนีย์ สเปียร์" สามารถลุกขึ้นมาได้อีกครั้งและทัวร์คอนเสิร์ตอยู่ขณะนี้ ขณะที่ ไมเคิล แจ็คสัน ไม่มีโอกาสเช่นนั้นร่วงเสียก่อน แต่ราชาและราชินีเพลงป๊อปได้ขึ้นเวทีร้องเพลงคู่กันเมื่อ 8 ปีที่ผ่านมาดูกันเพื่อทวนความจำ
แต่วิถีชีวิตของนักร้องดังทั้งสองก็ไม่ต่างกันเท่าใดนัก ประสบปัญหาคล้ายๆกัน มีรุ่งและก็มีร่วง แต่"บริตนีย์ สเปียร์" สามารถลุกขึ้นมาได้อีกครั้งและทัวร์คอนเสิร์ตอยู่ขณะนี้ ขณะที่ ไมเคิล แจ็คสัน ไม่มีโอกาสเช่นนั้นร่วงเสียก่อน แต่ราชาและราชินีเพลงป๊อปได้ขึ้นเวทีร้องเพลงคู่กันเมื่อ 8 ปีที่ผ่านมาดูกันเพื่อทวนความจำ
คลิป-http://www.mhanation.net/JacksonBritney2806.html
วันเสาร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2552
ไมเคิล แจ็คสันตายสะท้อนชีวิตเป็นอนิจจังจริงๆ
ช็อคไปทั่วโลกกับข่าวการจากไปของราชาเพลงป๊อป ไมเคิล แจ็คสัน ด้วยวัยเพียง 50 ปี รวมถึงคนไทยด้วย เมื่อตอนเช้ามืดของวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ.2552 ตามเวลาในไทย ทั้งๆที่มีคิวที่จะแสดงคอนเสิร์ตที่กรุงลอนดอนเร็วๆนี้
และมีการกล่าวกันว่าจะเป็นการแสดงครั้งสุดท้ายหลังจากที่ห่างหายจากวงการไปนานถึง 10 ปี แต่ ไมเคิล แจ็คสัน ก็ไม่สามารถได้ทำอย่างที่ฝันไว้มัจจุรชก็มาคร่าชีวิตเขาไปเสียก่อนแม้นจะมีการกล่าวกันว่าเพราะกินยาแก้ปวดเกินขนาดจากการเป็นมะเร็วผิวหนังก็ตาม
ชีวิตของ ไมเคิล แจ็คสัน นั้นนับเป็นอนุสติที่ระบุว่า มนุษย์ไม่มีความสมบูรณ์ในตัว แม้นว่า ไมเคิล แจ็คสัน จะฉายแววของการเป็นซูเปอร์สตาร์ตั้งแต่เป็นเด็กด้วยวัยเพียง 7 ขวบ ด้วยน้ำเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ในฐานะนักดนตรีนักร้องนำของวง "The Jackson 5" ต่อมาก็ได้ออกอัลบั้มเรื่อยมา
อย่างที่บอกนุษย์ไม่มีความสมบูรณ์ในตัว ไมเคิล แจ็คสัน มีรูปลักษณ์ของนักร้องผิวหมึกปากหนาจมูกใหญ่ เมื่อมีชื่อเสียงโด่งดังทำรายได้จำนวนมหาศาล โดยที่ชื่อเสียงพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในปี 2525 ด้วยอัลบั้มและมิวสิกวิดีโอ ชุด "ทริลเลอร์" โดยขายได้ราว 750 ล้านแผ่นในทั่วโลก และเคยเดินทางมาแสดงในประเทศไทยถึง 2 ครั้ง และตลอดระยะเวลาบนถนนดนตรีนาน 4 ทศวรรษ ไมเคิล แจ็คสัน คว้ารางวัลแกรมมี่มาได้ถึง 13 ครั้ง
แต่ชื่อเสียงที่โด่งดังจากเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยท่าเต้น "มูนวอล์ก" มีรายได้มหาศาล แต่ ไมเคิล แจ็คสัน จะใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย ยังได้ใช้เงินเหล่านั้นไปกับการทำศัลยกรรม โดยตัดริมฝีปากให้บางลง เสริมจมูกให้โด่งขึ้น ซึ่งการทำศัลยกรรมแค่นี้ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับดารานักร้อง แต่เขาช็อกชาวโลกด้วยการ เปลี่ยนสีผิว จากคนดำกลายเป็นคนขาว ทั้งนี้เพื่อลบปมด่อยของตัวเอง
พร้อมกันนี้ ไมเคิล แจ็คสัน ยังมีพฤติการณ์แปลกๆ ปรากฏตัวต่อสาธารณชนแต่ละครั้งต้องไม่ธรรมดา ด้วยวิธีอำพรางตัวเพื่อไม่ให้คนจำได้ จึงทำให้ ไมเคิล แจ็คสัน ใช้ชีวิตค่อนข้างโดดเดี่ยว แถมยังพัวพันกับเรื่องอื้อฉาวที่กลายเป็นข่าวใหญ่ ไม่แพ้ความโด่งดังคือ ข่าวการละเมิดทางเพศเด็กผู้ชายหลายครั้งต้องขึ้นศาล แต่ทุกครั้งก็สามารถประนีประนอมนอกศาลได้ ด้วยการจ่ายเงินจำนวนมหาศาลให้แก่คู่กรณี จากการใช้ชีวิตดังกล่าวบวกกับมีปัญหาด้านคดีความ ส่งผลให้ ไมเคิล แจ็คสัน ประสบปัญหาการเงินจึงจำเป็นต้องหวนคืนสู่เวทีคอนเสิร์ตอีกครั้งในรอบกว่า 10 ปี และคาดว่าจะทำเงินได้กว่า 400 ล้านดอลลาร์ แต่วันนั้นไม่มาถึง ไมเคิล แจ็คสัน ต้องจากโลกไปเสียก่อนพร้อมกับทิ้งหนี้ไว้เกือบ 500 ล้านดอลลาร์
นี่คือชีวิตของราชาเพลงป๊อป ไมเคิล แจ็คสัน ที่เป็นไปตามหลักธรรมหรือธรรมชาติ ตามคำพระท่านว่าเป็นไปตามโลกธรรม 8 ประการ ซึ่งมนุษย์ทั่วไปย่อมประสบคือ
เมื่อมีรายได้มหาศาลก็ย่อมมีวันเสื่อมสูญไปเมื่อมีตำแหน่งสักวันหนึ่งตำแหน่งนั้นก็หลุดลอยไปไม่ช้าก็เร็วเมื่อมีคนยกย่องสรรเสริญเพราะเห็นประโยชน์มีเงินก็มีคนส่วนหนึ่งไม่ชอบนินทาเมื่อมีความสุขจากเงินมหาศาลที่ได้มาถูกต้องบ้างไม่ถูกต้องบ้างโกงเขามาบ้างสักวันหนึ่งก็เป็นหนี้เขาเหมือน ไมเคิล แจ็คสัน ตอนบั้นปลายชีวิต มีแต่ความทุกข์
เพราะว่าชีวิตของคนเรานั้นไม่เที่ยงแท้แน่นอนมีขึ้นมาลงเป็นไปตามหลักไตยลักษณ์คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา หากเรายังประมาทกับชีวิตแล้วชีวิตก็เสื่อสลายไปเร็วโดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคฮิตที่เป็นอยู่กันอยู่ทุกวันนี้ก็คือมะเร็ง เป็นแบบไม่รู้ตัว กว่าจะรู้ก็รักษาไม่ได้แล้วตายลูกเดียว
ดังนั้นอย่าได้ประมาทกับชีวิต รู้จักคำว่า "พอ" ดำรงชีวิตด้วยปัญญา ชีวิตที่มีความทุกข์ก็มีความสุขอยู่บ้าง
ที่ระบุมาข้างต้นนี้ต้องการที่จะเตือนตัวเองเป็นสำคัญ หาได้บังอาจที่จะเตือนคนอื่นไม่
ดูคลิปผลงานในอดีต http://www.mhanation.net/Jacksondies2806.html
และมีการกล่าวกันว่าจะเป็นการแสดงครั้งสุดท้ายหลังจากที่ห่างหายจากวงการไปนานถึง 10 ปี แต่ ไมเคิล แจ็คสัน ก็ไม่สามารถได้ทำอย่างที่ฝันไว้มัจจุรชก็มาคร่าชีวิตเขาไปเสียก่อนแม้นจะมีการกล่าวกันว่าเพราะกินยาแก้ปวดเกินขนาดจากการเป็นมะเร็วผิวหนังก็ตาม
ชีวิตของ ไมเคิล แจ็คสัน นั้นนับเป็นอนุสติที่ระบุว่า มนุษย์ไม่มีความสมบูรณ์ในตัว แม้นว่า ไมเคิล แจ็คสัน จะฉายแววของการเป็นซูเปอร์สตาร์ตั้งแต่เป็นเด็กด้วยวัยเพียง 7 ขวบ ด้วยน้ำเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ในฐานะนักดนตรีนักร้องนำของวง "The Jackson 5" ต่อมาก็ได้ออกอัลบั้มเรื่อยมา
อย่างที่บอกนุษย์ไม่มีความสมบูรณ์ในตัว ไมเคิล แจ็คสัน มีรูปลักษณ์ของนักร้องผิวหมึกปากหนาจมูกใหญ่ เมื่อมีชื่อเสียงโด่งดังทำรายได้จำนวนมหาศาล โดยที่ชื่อเสียงพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในปี 2525 ด้วยอัลบั้มและมิวสิกวิดีโอ ชุด "ทริลเลอร์" โดยขายได้ราว 750 ล้านแผ่นในทั่วโลก และเคยเดินทางมาแสดงในประเทศไทยถึง 2 ครั้ง และตลอดระยะเวลาบนถนนดนตรีนาน 4 ทศวรรษ ไมเคิล แจ็คสัน คว้ารางวัลแกรมมี่มาได้ถึง 13 ครั้ง
แต่ชื่อเสียงที่โด่งดังจากเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยท่าเต้น "มูนวอล์ก" มีรายได้มหาศาล แต่ ไมเคิล แจ็คสัน จะใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย ยังได้ใช้เงินเหล่านั้นไปกับการทำศัลยกรรม โดยตัดริมฝีปากให้บางลง เสริมจมูกให้โด่งขึ้น ซึ่งการทำศัลยกรรมแค่นี้ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับดารานักร้อง แต่เขาช็อกชาวโลกด้วยการ เปลี่ยนสีผิว จากคนดำกลายเป็นคนขาว ทั้งนี้เพื่อลบปมด่อยของตัวเอง
พร้อมกันนี้ ไมเคิล แจ็คสัน ยังมีพฤติการณ์แปลกๆ ปรากฏตัวต่อสาธารณชนแต่ละครั้งต้องไม่ธรรมดา ด้วยวิธีอำพรางตัวเพื่อไม่ให้คนจำได้ จึงทำให้ ไมเคิล แจ็คสัน ใช้ชีวิตค่อนข้างโดดเดี่ยว แถมยังพัวพันกับเรื่องอื้อฉาวที่กลายเป็นข่าวใหญ่ ไม่แพ้ความโด่งดังคือ ข่าวการละเมิดทางเพศเด็กผู้ชายหลายครั้งต้องขึ้นศาล แต่ทุกครั้งก็สามารถประนีประนอมนอกศาลได้ ด้วยการจ่ายเงินจำนวนมหาศาลให้แก่คู่กรณี จากการใช้ชีวิตดังกล่าวบวกกับมีปัญหาด้านคดีความ ส่งผลให้ ไมเคิล แจ็คสัน ประสบปัญหาการเงินจึงจำเป็นต้องหวนคืนสู่เวทีคอนเสิร์ตอีกครั้งในรอบกว่า 10 ปี และคาดว่าจะทำเงินได้กว่า 400 ล้านดอลลาร์ แต่วันนั้นไม่มาถึง ไมเคิล แจ็คสัน ต้องจากโลกไปเสียก่อนพร้อมกับทิ้งหนี้ไว้เกือบ 500 ล้านดอลลาร์
นี่คือชีวิตของราชาเพลงป๊อป ไมเคิล แจ็คสัน ที่เป็นไปตามหลักธรรมหรือธรรมชาติ ตามคำพระท่านว่าเป็นไปตามโลกธรรม 8 ประการ ซึ่งมนุษย์ทั่วไปย่อมประสบคือ
เมื่อมีรายได้มหาศาลก็ย่อมมีวันเสื่อมสูญไปเมื่อมีตำแหน่งสักวันหนึ่งตำแหน่งนั้นก็หลุดลอยไปไม่ช้าก็เร็วเมื่อมีคนยกย่องสรรเสริญเพราะเห็นประโยชน์มีเงินก็มีคนส่วนหนึ่งไม่ชอบนินทาเมื่อมีความสุขจากเงินมหาศาลที่ได้มาถูกต้องบ้างไม่ถูกต้องบ้างโกงเขามาบ้างสักวันหนึ่งก็เป็นหนี้เขาเหมือน ไมเคิล แจ็คสัน ตอนบั้นปลายชีวิต มีแต่ความทุกข์
เพราะว่าชีวิตของคนเรานั้นไม่เที่ยงแท้แน่นอนมีขึ้นมาลงเป็นไปตามหลักไตยลักษณ์คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา หากเรายังประมาทกับชีวิตแล้วชีวิตก็เสื่อสลายไปเร็วโดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคฮิตที่เป็นอยู่กันอยู่ทุกวันนี้ก็คือมะเร็ง เป็นแบบไม่รู้ตัว กว่าจะรู้ก็รักษาไม่ได้แล้วตายลูกเดียว
ดังนั้นอย่าได้ประมาทกับชีวิต รู้จักคำว่า "พอ" ดำรงชีวิตด้วยปัญญา ชีวิตที่มีความทุกข์ก็มีความสุขอยู่บ้าง
ที่ระบุมาข้างต้นนี้ต้องการที่จะเตือนตัวเองเป็นสำคัญ หาได้บังอาจที่จะเตือนคนอื่นไม่
ดูคลิปผลงานในอดีต http://www.mhanation.net/Jacksondies2806.html
วันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2552
(คลิป)บราซิลเชือดแอฟริกาใต้1-0เข้าชิงคอนเฟดฯ
ศึกฟุตบอล "ฟีฟ่า คอนเฟเดอเรชั่นส์ คัพ 2009" รอบรองชนะเลิศ คู่ที่ 2 ที่สนามเอลลิส ปาร์ค ในเมืองโยฮันเนสเบิร์ก ประเทศแอฟริกาใต้ เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายน "แซมบ้า" บราซิล แชมป์อเมริกาใต้ ลงสนามเผชิญหน้ากับ "เจ้าภาพ" แอฟริกาใต้ และยิงประตูชัยได้ ในนาที 88 จากการเตะฟรีคิก ของ ดาเนียล อัสเวส เข้าไปชิงชนะเลิศกับ "พญาอินทรี" สหรัฐอเมริกา คู่ปรับเก่าที่เคยถล่มชนะในเกมนัดที่ 2 ของเกมรอบแรก 3-0
ดูคลิปลูกยิง-http://www.mhanation.net/Confederatins2606.html
ดูคลิปลูกยิง-http://www.mhanation.net/Confederatins2606.html
"ไมเคิล แจ๊คสัน"ตายแล้วเหตุหัวใจหยุดเต้น
เว็ปไซต์ TMZ.com ได้รายงานว่า "ไมเคิล แจ๊คสัน" อดีตราชาเพลงป็อปคนดังวัย 50 ปี เสียชีวิตแล้วเมื่อเวลาประมาณหลังเที่ยงวันเล็กน้อยของวันพฤหัสบดีที่ 25 มิ.ย. ตามเวลาท้องถิ่นจากอาการหัวใจวาย "โจ แจ๊คสัน" บิดาของ "ไมเคิล แจ๊คสัน" บอกกับ" อี! ออนไลน์" (E! Online ) ว่า รู้เพียงว่า "ไมเคิล แจ๊คสัน" อยู่ที่โรงพยาบาล ซึ่งไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรชึ้น
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้ไปที่บ้านพักของ "ไมเคิล แจ๊คสัน" ที่ "โฮล์มบี้ ฮิลล์" ได้นำบุคคลคนหนึ่งส่งศูนย์การแพทย์ UCLA เมื่อเวลาเที่ยงวัน 21 นาที ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับเวลา 02.21 น. เช้ามืดของวันที่ 26 มิ.ย.ตามเวลาในประเทศไทย การเสียชีวิตมีขึ้นในขณะที่ "ไมเคิล แจ๊คสัน" กำลังเตรียมจะแสดงคอนเสิร์ตที่กรุงลอนดอน ซึ่งจะเป็นการแสดงชุดแรกในรอบกว่า 10 ปี
ดูคลลิป-http://www.mhanation.net/Jacksondies2606.html
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้ไปที่บ้านพักของ "ไมเคิล แจ๊คสัน" ที่ "โฮล์มบี้ ฮิลล์" ได้นำบุคคลคนหนึ่งส่งศูนย์การแพทย์ UCLA เมื่อเวลาเที่ยงวัน 21 นาที ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตรงกับเวลา 02.21 น. เช้ามืดของวันที่ 26 มิ.ย.ตามเวลาในประเทศไทย การเสียชีวิตมีขึ้นในขณะที่ "ไมเคิล แจ๊คสัน" กำลังเตรียมจะแสดงคอนเสิร์ตที่กรุงลอนดอน ซึ่งจะเป็นการแสดงชุดแรกในรอบกว่า 10 ปี
ดูคลลิป-http://www.mhanation.net/Jacksondies2606.html
"ฟาราห์ ฟอว์เซตต์"ตายแล้วด้วยโรคมะเร็ง
"ฟาราห์ ฟอว์เซตต์" (Farrah Fawcett Dies) อดีต"นางฟ้าชาลี" ผู้กำลังป่วยหนักด้วยโรคมะเร็ง ได้เสียชีวิตลงแล้วเมื่อเก้าโมงเช้าตามเวลาท้องถิ่น โดยมี "ไรอัน โอนีล" ที่สัญญาว่าจะแต่งงานกับเธออยู่ข้างกาย
เว็บไซต์ TMZ ได้รายงานเมื่อเวลา 12:40 น.ของวันที่ 25. มิถุนายนว่า "ฟาราห์ ฟอว์เซตต์" อดีต"นางฟ้าชาลี" ได้เสียชีวิตลงเมื่อเวลา 9:28น.ของวันที่ 25 มิถุนายน ตามเวลาท้องถิ่น ที่โรงพยาบาลเซนต์จอห์น ด้วยวัย 62 ปี ด้วยโรคมะเร็ง ตั้งแต่ปี 2006 โดยมี "ไรอัน โอนีล" อดีตสามีและได้สัญญาว่าจะแต่งงานกันอยู่ข้างกาย
โอนีลได้กล่าวถึงการจากไปของ "ฟาราห์ ฟอว์เซตต์"ว่า หลังจากที่เธอได้ต่อสู้กับมะเร็งในช่วงเวลาที่ยาวนานและแล้วเธอก็ล่วงลับไป เหลือไว้แต่สิ่งดีๆที่ได้ร่วมชีวิตกันมา
ทั้งนี้ ไรอัน โอนีล นักแสดงฮอลลีวู้ดชื่อดังวัย 68 ปี ผู้โด่งดังจากภาพยนต์รักรันทด" เลิฟ สตอรี่" เกี่ยวกับชายหนุ่มผู้สูญเสียสาวคนรักด้วยโรคมะเร็งที่มีประโยคอมตะที่ว่า"หากจะรัก ต้องลืมคำว่าเสียใจ" (Love means never having to say you’re sorry ) เปิดเผยกับบาบาร่า วอลเตอร์ส์ พิธีกรของโทรทัศน์ เอบีซี และเผยแพร่ในเว็ปไซต์เอบีซี นิวส์เมื่อไม่นานมานี้ว่า เขาได้ขอฟาราห์ ฟอว์เซ็ตต์ จะแต่งงานอีกครั้ง
โอนีลกับฟอว์เซ็ตต์รักๆเลิกๆกันมาตั้งแต่ปี 2525 ทั้งคู่มีบุตรชายด้วยกันคนหนึ่ง แต่ไม่เคยแต่งงานกัน ซึ่งโอนีลให้สัมภาษณ์ในรายการว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาขอเธอแต่งงานด้วยเสมอ แต่กลายเป็นเรื่องตลกที่พวกเขาสองคนจะหยอกล้อกันในเรื่องนี้ นับจากมีข่าวเรื่องเธอป่วยหนัก เขาไปอยู่ข้างกายเธอเสมอ
และเมื่อเดือนที่แล้ว เขาเปิดเผยกับ"พีเพิล แมคกาซีน" ว่ามะเร็งได้ลามถึงตับของเธอแล้ว ทำให้การรักษายุติลง เขากล่าวด้วยว่า เขาไม่รู้จะเล่นภาพยนต์เกี่ยวกับความรักเรื่องนี้อย่างไร เขาไม่รู้จักโลกที่ปราศจากเธอ และว่ามะเร็งคือศัตรูร้ายที่คืบคลานมาอย่างลับๆ และแล้วเธอก็เสียชีวิตลงโดยที่ทั้งสองยังไม่ได้เข้าพิธีแต่งงานตามที่ได้ตกลงกันไว้
เว็บไซต์ TMZ ได้รายงานเมื่อเวลา 12:40 น.ของวันที่ 25. มิถุนายนว่า "ฟาราห์ ฟอว์เซตต์" อดีต"นางฟ้าชาลี" ได้เสียชีวิตลงเมื่อเวลา 9:28น.ของวันที่ 25 มิถุนายน ตามเวลาท้องถิ่น ที่โรงพยาบาลเซนต์จอห์น ด้วยวัย 62 ปี ด้วยโรคมะเร็ง ตั้งแต่ปี 2006 โดยมี "ไรอัน โอนีล" อดีตสามีและได้สัญญาว่าจะแต่งงานกันอยู่ข้างกาย
โอนีลได้กล่าวถึงการจากไปของ "ฟาราห์ ฟอว์เซตต์"ว่า หลังจากที่เธอได้ต่อสู้กับมะเร็งในช่วงเวลาที่ยาวนานและแล้วเธอก็ล่วงลับไป เหลือไว้แต่สิ่งดีๆที่ได้ร่วมชีวิตกันมา
ทั้งนี้ ไรอัน โอนีล นักแสดงฮอลลีวู้ดชื่อดังวัย 68 ปี ผู้โด่งดังจากภาพยนต์รักรันทด" เลิฟ สตอรี่" เกี่ยวกับชายหนุ่มผู้สูญเสียสาวคนรักด้วยโรคมะเร็งที่มีประโยคอมตะที่ว่า"หากจะรัก ต้องลืมคำว่าเสียใจ" (Love means never having to say you’re sorry ) เปิดเผยกับบาบาร่า วอลเตอร์ส์ พิธีกรของโทรทัศน์ เอบีซี และเผยแพร่ในเว็ปไซต์เอบีซี นิวส์เมื่อไม่นานมานี้ว่า เขาได้ขอฟาราห์ ฟอว์เซ็ตต์ จะแต่งงานอีกครั้ง
โอนีลกับฟอว์เซ็ตต์รักๆเลิกๆกันมาตั้งแต่ปี 2525 ทั้งคู่มีบุตรชายด้วยกันคนหนึ่ง แต่ไม่เคยแต่งงานกัน ซึ่งโอนีลให้สัมภาษณ์ในรายการว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาขอเธอแต่งงานด้วยเสมอ แต่กลายเป็นเรื่องตลกที่พวกเขาสองคนจะหยอกล้อกันในเรื่องนี้ นับจากมีข่าวเรื่องเธอป่วยหนัก เขาไปอยู่ข้างกายเธอเสมอ
และเมื่อเดือนที่แล้ว เขาเปิดเผยกับ"พีเพิล แมคกาซีน" ว่ามะเร็งได้ลามถึงตับของเธอแล้ว ทำให้การรักษายุติลง เขากล่าวด้วยว่า เขาไม่รู้จะเล่นภาพยนต์เกี่ยวกับความรักเรื่องนี้อย่างไร เขาไม่รู้จักโลกที่ปราศจากเธอ และว่ามะเร็งคือศัตรูร้ายที่คืบคลานมาอย่างลับๆ และแล้วเธอก็เสียชีวิตลงโดยที่ทั้งสองยังไม่ได้เข้าพิธีแต่งงานตามที่ได้ตกลงกันไว้
วันอังคารที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2552
นายแน่มาก"เคน"หน่อยท้องน้อง"คุนนธรรม"
ขอแสดงความยินดีกับพระเอกหนุ่ม "เคน"ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์ ที่ได้ทราบข่าวว่า"หน่อย"บุษกร เมียสาว ท้องน้อง "คุนนธรรม" ลูกคนที่สอง เพราะยิ่งท้องเร็วติดๆกันแบบนี้ดีจะทำให้เป็นเพื่อนกันเหมือนกันมีลูกฝาแฝด เพราะหากมีลูกคนเดียวแล้วจะทำให้ลูกเป็นคนแข็งเอาแต่ใจตัวเองและเสี่ยงต่อการเบี่ยงเบนทางเพศได้ง่าย แต่ถ้าจะให้ดีต้องมี 3 คน จะได้สนุกสนานทำให้คานกันได้
คลิปหลุดหน้าเหมือนนางเอก"Gossip Girl"
หลุดอีกแล้วคลิปหลุดเผยเแพร่เว็บไซต์ต่างๆอยู่ขณะนี้ ซึ่งมีหน้าตาคล้ายกับดาราดัง Leighton Meester นางเอกซีรีย์ Gossip Girl มีความสัมพันธ์กับแฟนหนุ่ม มีการกล่าวขานกันว่าเป็นภาพที่ถ่ายเก็บเอาไว้เมื่อหลายปีก่อน
ดูคลิปที่-http://www.mhanation.net/Meester2406.html
ดูคลิปที่-http://www.mhanation.net/Meester2406.html
วันอาทิตย์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2552
แกะรอยคลิปสัตว์ประหลาดงูหัวคนยันพบที่อินโดแน่
ขณะนี้ทั้งคนไทย ลาว เขมร กำลังแตกตื่นกับคลิปสัตว์ประหลาดงูหัวคน ที่นำมาเผยแพร่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา และมีการนำคลิ ปนี้เผยแพร่ทางเว็บไซต์ยูทูป โดยอธิบายชื่อคลิปเป็นภาษาไทย หลังจากนั้นก็มีการวิจารณ์ถึงความมีอยู่จริงของสัตว์ประหลาดงูหัวคนและคลิปนี้ว่าต้นต่อมาจากที่ไหน บางก็ว่าพบห็นอยู่บริเวณถ้ำใกล้กับเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ และคลิปก็บอกว่าถ่ายมาจากประเทศกัมพูชา เพราะฟังจากเสียงพูดในคลิปนั้นน่าจะเป็นภาษาเขมร เพราะฟังชัดอยู่คำหนึ่งว่า "ปั๊วะ" ซึ่งแปลว่า"งู" แต่นอกจากนี้ก็จับความไม่ได้แล้ว
หลังจากมีการคลิปออกมาเผยแพร่ใน ไทย ลาว เขมร ส่งผลให้สื่อทั้ง 3 ประเทศนี้ขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่าเลยทีเดียว แถมมีการกล่าว อ้างว่ารูปภาพที่มีเด็กมุงดูนั้นเป็นเด็กจากประเทศกัมพูชาเสียอีก เพราะพระสุรชัย ญาณทีโม พระลูกวัดพนมสังวาส หมู่ 1 ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ บอกว่าเห็นทหารกัมพูชาพาออกจากถ้ำนานแล้ว ยิ่งน่าเชื่อเข้าไปใหญ่
แต่จากการเกาะรอยคลิปที่นำเผยแพร่ทางเว็บไซต์ยูทูป แล้วก็พอทราบถึงที่มาจากที่ใด คลิปที่อธิบายความเป็นภาษาไทยที่บอกกว่า "งูหัวคน" คงจะเป็นที่มาของการแตกตื่นใน 3 ประเทศนี้อยู่บ้าง เพราะเพิ่งนำเผยแพร่ทางเว็บไซต์ยูทูปเมื่อวันที่ 18 มิ.ย.นี้ และมีการแก้ไข้ข้อความใหม่เล็กน้อยซึ่งเจ้าของคลิปที่นำมาเผยแพร่ก็บอกว่าให้ใช้วิจารณญาณในการชม
เมื่อค้นดูคลิปในเว็บไซต์ยูทูปไปเรื่อยๆก็จะเห็นคลิปเดียวกันนี้ที่มีคนนำเผยแพร่เมื่อวันที่ 26 เดือนพฤษภาคม ซึ่งอธิบายชื่อคลิปนี้ว่า"tran dau nguoi"
และเมื่อใช้คำนี้ไปค้นหาคลิปในเว็บไซต์ยูทูปอีก ก็จะพบคลิปเดียวกันนี้อีก ต่างกันเพียงวันเวลาที่นำเผยแพร่บ้างเล็กน้อยเท่านั้น และเมื่อใช้คำเดียวกันนี้ค้นหาข้อมูลใน google ทำให้ทราบว่าคลิปนี้มีการเผยแพร่ตามเว็บไซต์ของประเทศเวียดนามอยู่หลายแห่งด้วยกัน เพราะคำว่า "tran dau nguoi" เป็นภาษาเวียดนาม
ค้นหาคลิปในเว็บไซต์ยูทูปต่อไปอีกจะพบคลิปเดียวกันนี้ที่อธิบายชื่อคลิปว่า "snake head man (Ular Berkepala Manusia)" ที่มีการนำเผยแพร่เมื่อวันที่ 15 มกราคมคมปีนี้ และมีการอธิบายถึงที่มาของ"สัตว์ประหลาดงูหัวคน"ว่า ได้พบชายหาดแห่งหนึ่งชื่อ prigi ทางตะวันออกของเกาะชะวา ประเทศ อินโดนีเซีย และเมื่อนำคำ "snake head man" ไปค้นหาข้อมูลใน google จะไม่พบข้อมูลเกี่ยวข้อกับคลิปนี้มากนัก
แต่นำคำว่า "Ular Berkepala Manusia" ไปค้นหาข้อมูลใน google เท่านั้นหละ "แหล่มเลย" ได้ความกระจ่างทันที เพราะคำว่า "Ular Berkepala Manusia" เป็นภาษาอินโดนีเซีย แปลตรงตัวก็คือ "งูหัวคน" นั้นเอง
ขณะเดียวกันใช้คำว่า "Ular Berkepala Manusia" ค้นหารูปภาพนั้น ใน google ทีนี่หละรูปภาพที่เกี่ยวกับ "งูหัวคน" มากองอยู่ต่อหน้าท่านทันที รวมถึงภาพ "สัตว์ประหลาดงูหัวคน" ที่เด็กนักเรียนกำลังมุงดูอยู่ก็ทำให้ทราบว่านั้นไม่ใช่เด็กนักเรียนชาวกัมพูชา แต่เป็นนักเรียนชาวอินโดนีเซีย
ค้นไปเรื่อยๆก็จะพบภาพ "สัตว์ประหลาดงูหัวคน" ตัวอื่นๆอีกมากทีมีลักษณะเป็นมัมมี่แล้ว พร้อมกันนี้ยังได้ทราบว่า นักมนุษยวิทยาชาวมาเลเชียเคยคิดรวจดีเอ็นเอ "สัตว์ประหลาดงูหัวคน" ซึ่งพบที่ประเทศอินโดนีเซีย ตั้งแต่ปี 1972
และไม่ใช่จะพบเฉพาะ "สัตว์ประหลาดงูหัวคน" เท่านั้น ยังพบปลาดาวหัวคน จรเข้หัวคนอีกด้วย ซึ่งภาษาทางวิชาการเรียกสัตว์ประหลาดเหล่านี้ว่า "JENGLOT" คือสิ่งเหนือธรรมชาติ ก็ลองนำคำเหล่านี้ไปสืบค้นในเว็ไซต์ยูทูปและ google จะได้ไม่แตกตื่นอีกต่อไป....อิอิ
หลังจากมีการคลิปออกมาเผยแพร่ใน ไทย ลาว เขมร ส่งผลให้สื่อทั้ง 3 ประเทศนี้ขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่าเลยทีเดียว แถมมีการกล่าว อ้างว่ารูปภาพที่มีเด็กมุงดูนั้นเป็นเด็กจากประเทศกัมพูชาเสียอีก เพราะพระสุรชัย ญาณทีโม พระลูกวัดพนมสังวาส หมู่ 1 ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ บอกว่าเห็นทหารกัมพูชาพาออกจากถ้ำนานแล้ว ยิ่งน่าเชื่อเข้าไปใหญ่
แต่จากการเกาะรอยคลิปที่นำเผยแพร่ทางเว็บไซต์ยูทูป แล้วก็พอทราบถึงที่มาจากที่ใด คลิปที่อธิบายความเป็นภาษาไทยที่บอกกว่า "งูหัวคน" คงจะเป็นที่มาของการแตกตื่นใน 3 ประเทศนี้อยู่บ้าง เพราะเพิ่งนำเผยแพร่ทางเว็บไซต์ยูทูปเมื่อวันที่ 18 มิ.ย.นี้ และมีการแก้ไข้ข้อความใหม่เล็กน้อยซึ่งเจ้าของคลิปที่นำมาเผยแพร่ก็บอกว่าให้ใช้วิจารณญาณในการชม
เมื่อค้นดูคลิปในเว็บไซต์ยูทูปไปเรื่อยๆก็จะเห็นคลิปเดียวกันนี้ที่มีคนนำเผยแพร่เมื่อวันที่ 26 เดือนพฤษภาคม ซึ่งอธิบายชื่อคลิปนี้ว่า"tran dau nguoi"
และเมื่อใช้คำนี้ไปค้นหาคลิปในเว็บไซต์ยูทูปอีก ก็จะพบคลิปเดียวกันนี้อีก ต่างกันเพียงวันเวลาที่นำเผยแพร่บ้างเล็กน้อยเท่านั้น และเมื่อใช้คำเดียวกันนี้ค้นหาข้อมูลใน google ทำให้ทราบว่าคลิปนี้มีการเผยแพร่ตามเว็บไซต์ของประเทศเวียดนามอยู่หลายแห่งด้วยกัน เพราะคำว่า "tran dau nguoi" เป็นภาษาเวียดนาม
ค้นหาคลิปในเว็บไซต์ยูทูปต่อไปอีกจะพบคลิปเดียวกันนี้ที่อธิบายชื่อคลิปว่า "snake head man (Ular Berkepala Manusia)" ที่มีการนำเผยแพร่เมื่อวันที่ 15 มกราคมคมปีนี้ และมีการอธิบายถึงที่มาของ"สัตว์ประหลาดงูหัวคน"ว่า ได้พบชายหาดแห่งหนึ่งชื่อ prigi ทางตะวันออกของเกาะชะวา ประเทศ อินโดนีเซีย และเมื่อนำคำ "snake head man" ไปค้นหาข้อมูลใน google จะไม่พบข้อมูลเกี่ยวข้อกับคลิปนี้มากนัก
แต่นำคำว่า "Ular Berkepala Manusia" ไปค้นหาข้อมูลใน google เท่านั้นหละ "แหล่มเลย" ได้ความกระจ่างทันที เพราะคำว่า "Ular Berkepala Manusia" เป็นภาษาอินโดนีเซีย แปลตรงตัวก็คือ "งูหัวคน" นั้นเอง
ขณะเดียวกันใช้คำว่า "Ular Berkepala Manusia" ค้นหารูปภาพนั้น ใน google ทีนี่หละรูปภาพที่เกี่ยวกับ "งูหัวคน" มากองอยู่ต่อหน้าท่านทันที รวมถึงภาพ "สัตว์ประหลาดงูหัวคน" ที่เด็กนักเรียนกำลังมุงดูอยู่ก็ทำให้ทราบว่านั้นไม่ใช่เด็กนักเรียนชาวกัมพูชา แต่เป็นนักเรียนชาวอินโดนีเซีย
ค้นไปเรื่อยๆก็จะพบภาพ "สัตว์ประหลาดงูหัวคน" ตัวอื่นๆอีกมากทีมีลักษณะเป็นมัมมี่แล้ว พร้อมกันนี้ยังได้ทราบว่า นักมนุษยวิทยาชาวมาเลเชียเคยคิดรวจดีเอ็นเอ "สัตว์ประหลาดงูหัวคน" ซึ่งพบที่ประเทศอินโดนีเซีย ตั้งแต่ปี 1972
และไม่ใช่จะพบเฉพาะ "สัตว์ประหลาดงูหัวคน" เท่านั้น ยังพบปลาดาวหัวคน จรเข้หัวคนอีกด้วย ซึ่งภาษาทางวิชาการเรียกสัตว์ประหลาดเหล่านี้ว่า "JENGLOT" คือสิ่งเหนือธรรมชาติ ก็ลองนำคำเหล่านี้ไปสืบค้นในเว็ไซต์ยูทูปและ google จะได้ไม่แตกตื่นอีกต่อไป....อิอิ
วันศุกร์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2552
คาดสัตว์ประหลาดงูหัวคนอาจพบที่อินโดนีเซีย
หลังจากมีการนำคลิปและภาพสัตว์ประหลาดงูหัวคน ผมสีบรอนด์-ทอง ยาวไปถึงกลางหลัง มีดวงตาและหู ส่วนแขน 2 ข้างมีลักษณะเรียวเล็กเหมือนขาไก่ มีนิ้วมือข้างละ 3 นิ้ว ไม่ทราบว่าเป็นเพศหญิงหรือชาย ส่วนส่วนลำตัวมีเกล็ดและยาวเหมือนงู เนื่องจากไม่มีขาทั้ง 2 ข้างเหมือนคน อิริยาบททั่วไปมักนอนขดตัวคล้ายงู และชูหัวขึ้นอยู่ตลอดเวลา และมีการนำคลิปเผยแพร่ทางเว็บไซต์ยูทูปวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยระบุว่าช่างรับเหมาถ่ายมาจากกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา
ขณะเดียวกันก็มีการวิจารณ์ถึงที่มาที่ไปของคลิปและความเป็นจริงของสัตว์ประหลาดตัวนี้มีอยู่จริงหรือไม่ ชาวบ้านตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา บอกว่า เห็นอยู่บริเวณถ้ำใกล้กับเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ขณะที่พระสุรชัย ญาณทีโม พระลูกวัดพนมสังวาส หมู่ 1 ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ บอกว่าเห็นทหารกัมพูชาพาออกจากถ้ำไปแล้ว บางคนก็บอกว่า คลิปวิดีโอดังกล่าวมีมานานแล้ว และเป็นที่โด่งดังในประเทศลาวมาเป็นเดือน ก่อนจะถูกส่งต่อกันมาเรื่อยๆ
พระบุญนาง พระธุดงค์ชาวกัมพูชา บอกว่า เมื่อ 6 ปีก่อน ไปพบสัตว์ประหลาดตัวนี้อยู่ในถ้ำ กลางป่าใกล้กับเขาพระวิหาร และเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่คู่กับเขาพระวิหารมานานหลายร้อยปี แต่ก็ออกมาให้เห็นไม่บ่อยนัก
พร้อมกันนี้อาจารย์บุญเรือง คัชมาย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์กัมพูชา มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ ได้ระบุว่า ตำนานเล่าขานของขอมโบราณเคยพบ ภาพสัตว์ลักษณะแปลก ๆ และมีการสลักจารึก ตามทับหลังหรือปราสาทของเขมร อาทิภาพ “มะกร” ลักษณะลำตัวเป็นปลา ส่วนหัวเป็นช้าง แต่จากภาพสัตว์ตัวนี้เชื่อว่า อาจมีอยู่จริง เป็นทวยเทพ ที่เฝ้าทรัพย์สมบัติ และน่าจะมีอายุยืนอายุประมาณ 700 ปี แต่ก็ไม่เคยพบเห็น หรือพบจารึกไว้บนทับหลังหรือบนปราสาทขอมโบราณแต่อย่างใด ซึ่งก็ยังไม่สามารถสรุปได้เช่นกัน
แต่ที่น่าสนใจมากไปกว่านั้นก็คือว่าได้พบภาพการแสดงของสัตว์ประหลาดงูหัวคนตัวนี้โดยระบุว่า ตั้งแสดงอยู่ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา โดยมีเด็กนักเรียนระดับอนุบาลมุงดูอย่างสนใจ จากเว็บไซต์สนุกดอดคอมโดยอ้างอิงว่ามาจากเว็บไซต์ http://www.badmintoncentral.com แต่เพื่อเข้าไปดูแล้วไม่สามารถเห็นภาพดังกล่าวแต่อย่างใด แต่ได้พบที่บล็อก http://xn--l3cbs6akjtm8bfs02a.blogspot.com/2009/06/blog-post_9598.html อีกแห่งหนึ่ง
ขณะเดียวกันได้พบคลิปเดียวกันที่นำขึ้นผยแพร่ทางเว็บไซต์ยูทูปแต่มีการอธิบายเป็นภาษาอังกฤษแต่คนนำขึ้นเผยแพร่เป็นคนละคนกัน โดยระบุถึงที่มาว่า สัตว์ประหลาดงูหัวคนตัวนี้ ได้พบที่ประเทศอินโดเนียเซีย แต่จากการฟังสำเนียงการพูดในคลิปแล้วก็มีแนวโน้มเป็นไปได้เช่นกัน หากพบได้ว่าภาษาที่พูดในครับเป็นภาษาใดก็พอจะอนุมานถึงที่มาได้
ดูคลิปและภาพที่ - http://www.mhanation.net/snake2006.html
ขณะเดียวกันก็มีการวิจารณ์ถึงที่มาที่ไปของคลิปและความเป็นจริงของสัตว์ประหลาดตัวนี้มีอยู่จริงหรือไม่ ชาวบ้านตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา บอกว่า เห็นอยู่บริเวณถ้ำใกล้กับเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ขณะที่พระสุรชัย ญาณทีโม พระลูกวัดพนมสังวาส หมู่ 1 ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ บอกว่าเห็นทหารกัมพูชาพาออกจากถ้ำไปแล้ว บางคนก็บอกว่า คลิปวิดีโอดังกล่าวมีมานานแล้ว และเป็นที่โด่งดังในประเทศลาวมาเป็นเดือน ก่อนจะถูกส่งต่อกันมาเรื่อยๆ
พระบุญนาง พระธุดงค์ชาวกัมพูชา บอกว่า เมื่อ 6 ปีก่อน ไปพบสัตว์ประหลาดตัวนี้อยู่ในถ้ำ กลางป่าใกล้กับเขาพระวิหาร และเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่คู่กับเขาพระวิหารมานานหลายร้อยปี แต่ก็ออกมาให้เห็นไม่บ่อยนัก
พร้อมกันนี้อาจารย์บุญเรือง คัชมาย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์กัมพูชา มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ ได้ระบุว่า ตำนานเล่าขานของขอมโบราณเคยพบ ภาพสัตว์ลักษณะแปลก ๆ และมีการสลักจารึก ตามทับหลังหรือปราสาทของเขมร อาทิภาพ “มะกร” ลักษณะลำตัวเป็นปลา ส่วนหัวเป็นช้าง แต่จากภาพสัตว์ตัวนี้เชื่อว่า อาจมีอยู่จริง เป็นทวยเทพ ที่เฝ้าทรัพย์สมบัติ และน่าจะมีอายุยืนอายุประมาณ 700 ปี แต่ก็ไม่เคยพบเห็น หรือพบจารึกไว้บนทับหลังหรือบนปราสาทขอมโบราณแต่อย่างใด ซึ่งก็ยังไม่สามารถสรุปได้เช่นกัน
แต่ที่น่าสนใจมากไปกว่านั้นก็คือว่าได้พบภาพการแสดงของสัตว์ประหลาดงูหัวคนตัวนี้โดยระบุว่า ตั้งแสดงอยู่ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา โดยมีเด็กนักเรียนระดับอนุบาลมุงดูอย่างสนใจ จากเว็บไซต์สนุกดอดคอมโดยอ้างอิงว่ามาจากเว็บไซต์ http://www.badmintoncentral.com แต่เพื่อเข้าไปดูแล้วไม่สามารถเห็นภาพดังกล่าวแต่อย่างใด แต่ได้พบที่บล็อก http://xn--l3cbs6akjtm8bfs02a.blogspot.com/2009/06/blog-post_9598.html อีกแห่งหนึ่ง
ขณะเดียวกันได้พบคลิปเดียวกันที่นำขึ้นผยแพร่ทางเว็บไซต์ยูทูปแต่มีการอธิบายเป็นภาษาอังกฤษแต่คนนำขึ้นเผยแพร่เป็นคนละคนกัน โดยระบุถึงที่มาว่า สัตว์ประหลาดงูหัวคนตัวนี้ ได้พบที่ประเทศอินโดเนียเซีย แต่จากการฟังสำเนียงการพูดในคลิปแล้วก็มีแนวโน้มเป็นไปได้เช่นกัน หากพบได้ว่าภาษาที่พูดในครับเป็นภาษาใดก็พอจะอนุมานถึงที่มาได้
ดูคลิปและภาพที่ - http://www.mhanation.net/snake2006.html
วันพฤหัสบดีที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2552
พบตัวประหลาดหัวเหมือนคนลำตัวเป็นงู
เป็นคลิปที่ช่างรับเหมาไปถ่ายมาจากกรุงพนมเปญ ประเทศเขมร ซึ่งเป็นตัวประหลาดหัวเหมือนคนลำตัวเป็นงู นี้เข้ามาติดกับดักนายพรานในเขตป่าชายแดนไทย-เขมร ขณะนี้ยังมีชีวิตอยู่จริง ซึ่งสร้างความฮือฮาให้กับชาวจังหวัดศีรสะเกษ และมีการนำคลิปนั้นเผยแพร่ทางเว็บไซต์ยูทูปวันที่ 18 มิ.ย.นี้
ดูคลิปที่ - http://www.mhanation.net/snake1806.html
วันอาทิตย์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2552
ซูซาน บอยล์เริ่มทัวร์คอนเสิร์ตแล้วที่เบอร์มิงแฮม
ซูซาน บอยล์ สาวใหญ่ชาวสก็อตต์วัย 48 หลังจากที่เธอพลาดท่าแพ้คะแนนเสียงโหวตจากทางบ้านให้กับทีมนักเต้น "ไดเวอร์ซิตี้ " ในการแข่งขันรายการประกวด "บริเทนก็อต ทาเล้นท์ " ประเทศอังกฤษ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา และเครียดจนต้องเข้ารักษาที่คลินิค แต่หลังจากเธอหายสมบูรณ์แล้วก็ได้เริ่มคอนเสิร์ตกับ "บริเทนก็อต ทาเล้นท์ " เริ่มแรกที่เมืองเบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษ เมื่อวันศุกร์ที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยมีผู้เชียร์เธออย่างล้นหลาม
ดูคลิป-http://www.mhanation.net/Susan1506.html
ดูคลิป-http://www.mhanation.net/Susan1506.html
วันเสาร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2552
"น้องนัท"ณภัสวรรณนางงามนักธรรมเอก
ผู้ที่ได้เห็นหัวข้อนี้แล้วคงจะจิตนาการกันไปต่างๆนานา บ้างคนอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องของหญิงสาวคนหนึ่งที่เข้ามาประกวดนางงามเวทีใดเวทีหนึ่ง โดยที่มีฐานความรู้ที่เคยเรียนปริยัติธรรมะจนสามารถสอบได้ระดับนักธรรมชั้นเอก เพราะระยะหลังมีการรณรงค์ให้นักเรียนนักศึกษาเรียนนักธรรมและมีการสอบ
หรือบ้างคนอาจจิตนาการเป็นมากกว่านั้นก็คือ อาจจะเป็นเรื่องของพระหรือสามเณรที่มีพฤติกรรมเข้าลักษณะพระตุ๊ดเณรแต๋ว และมีการประกวดกันเป็นการภายใน
ความคิดทั้งสองทางนี้ก็มีส่วนถูกอยู่บ้างแต่ไม่ตรงนัก แต่ที่กล่าวถึงนี้เป็นชีวิตของ "น้องนัท" ณภัสวรรณ ชลกร วัย 21 ปี จากเมืองเชียงใหม่ ที่เข้าประกวดมิสทิฟฟานีปี 2009 ที่ผ่านมา จนสามาถได้ตำแหน่งรองอันดับสองมาครอง คนส่วนใหญ่จะรู้ประวัติของเธอเพียงแคผลการประกวดและพื้นฐานความรู้ของเธออยู่ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 และปัจจุบันี้กำลังศึกษาอยู่
แต่จุดประกายกรุงเทพธุรกิจได้เจาะลึกวิถีชีวิตของเธอจึงทำให้ได้ทราบพื้นฐานของเธอมากขึ้น
"น้องนัท" ก่อนหน้านี้เคยบวชเป็นสามเณรมาก่อนทางภาคเหนือ และเรียนนักธรรมและบาลีเหมือนกับพระสามเณรทั่วไปที่เข้ามาบวช และดูเหมือนว่าเธอจะมีสติปัญญาดีพอสมควรเพราะว่าสามารถเรียนและสอบนักธรรมตรี โท เอก ได้โดยไม่ตกเลย ซึ่งการเรียนและสอบนักธรรมของพระและสามเณรนั้นจะมีการสอบวัดผลปีละ 1 ครั้ง รูปใดที่สอบได้ก็จะได้เรียนในระดับสูงขึ้นไป หากรูปใดสอบไม่ได้ต้องสอบซ้ำชั้นในปีต่อไป บางรูปต้องใช้เวลาหลายปีถึงจะสอบได้ในแต่ละชั้นไม่มีการสอบซ่อม
นอกจากนี้ "น้องนัท" ยังสามารถสอบในประเภทบาลีได้อีกด้วย คือสามารถสอบได้ในระดับประโยค 1-2 ซึ่งเป็นระดับแรกของการศึกษาของพระสงค์ประเภทบาลี ซึ่งสูงสุดถือประโยค 9 หาก "น้องนัท" ยังไม่สึกและเรียนบาลีต่อในระดับประโยค 3 ก็เชื่อแน่ว่าจะสอบได้ หาก "น้องนัท" สอบประโยค 3 ได้ เมื่อบวชเป็นพระก็จะมีคำว่า"มหา"นำหน้าชื่อ คือ "พระมหานัท" นี้คือนิคเนม ชื่ออย่างเป็นทางการคือพระมหาณภัสวรรณ และมีฉายาต่อท้าย อย่างเช่น พระมหาณภัสวรรณ ชลกโร หาก"น้องนัท" ยังบวชเป็นเณรอยู่และสอบได้ประโยค 9 ก็ถือว่าได้เป็นนาคหลวงก่อนจะบวชเป็นพระ
หรือ "น้องนัท" ไม่เรียนทางทางบาลีก็สามารถเรียนต่อทางที่มหาวิทยาลัยสงฆ์ 2 แห่งได้ในระดับปริญญาตรีถึงปริญญาเอก แต่ก่อนจะเข้าเรียนระดับปริญญาตรี "น้องนัท"ก็จะต้องสอบบาลีให้ได้ระดับประโยค 6 หรือไม่เช่นนั้นก็จะต้องสอบเทียบหรือเรียนกศน.ให้ได้ ม.6 เสียก่อนถึงจะเข้าเรียนมหาวิทยาลัยสงฆ์ได้
แต่"น้องนัท"จบการศึกษาทางพระเพียงระดับนักธรรมเอกและประโยค 1-2 หลังจากนั้นก็สึกและเรียนต่อจนสามารถเรียนจบ ม.6 และเรียนต่ออยู่ขณะนี้ แม้น"น้องนัท"จะบอกกับจุดประกายว่า "ไม่ได้ทำตามหน้าที่นะคะ แต่เพื่อพิสูจน์ตัวเองว่าถึงเราเป็นแบบนี้ก็อยู่ได้" ก็ตามที
แต่จากการให้สัมภาษณ์ของ "น้องนัท" กับจุดประกาย ทำให้ได้รู้ว่า "น้องนัท" เข้าชีวิตของตัวเองและสังคมรอบข้างและทั่วไปพอสมควร และเชื่อแน่ว่าตลอดเวลา 4 ปีของ"น้องนัท" ในร่มกาสาวพัตร สามารถฝึกให้เธอแข็งแกร่งในระดับหนึ่ง สามารถยืนหยัดอยู่ในสังคมมายาได้อย่างทรนง ไม่ยอมแพ้เมื่อมีปัญหาถึงขึ้นทำร้ายตัวเองเหมือนกันหลายชีวิตจบลงด้วยการหนีปัญหา คิคว่า 4 ปีพอจะเป็นเครื่องบำรุงชีวิตของ"น้องนัท" เพื่อประโยชน์ตัวเอง และเพื่อประโยชน์กับบุคคลอื่นบ้าง เท่านั้นก็ถือว่าชีวิตของ"น้องนัท"ก็มีประโยชน์แล้ว แม้นว่าจะอยู่ฐานะหรือเพศใดก็ไม่สำคัญ
หรือบ้างคนอาจจิตนาการเป็นมากกว่านั้นก็คือ อาจจะเป็นเรื่องของพระหรือสามเณรที่มีพฤติกรรมเข้าลักษณะพระตุ๊ดเณรแต๋ว และมีการประกวดกันเป็นการภายใน
ความคิดทั้งสองทางนี้ก็มีส่วนถูกอยู่บ้างแต่ไม่ตรงนัก แต่ที่กล่าวถึงนี้เป็นชีวิตของ "น้องนัท" ณภัสวรรณ ชลกร วัย 21 ปี จากเมืองเชียงใหม่ ที่เข้าประกวดมิสทิฟฟานีปี 2009 ที่ผ่านมา จนสามาถได้ตำแหน่งรองอันดับสองมาครอง คนส่วนใหญ่จะรู้ประวัติของเธอเพียงแคผลการประกวดและพื้นฐานความรู้ของเธออยู่ระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 และปัจจุบันี้กำลังศึกษาอยู่
แต่จุดประกายกรุงเทพธุรกิจได้เจาะลึกวิถีชีวิตของเธอจึงทำให้ได้ทราบพื้นฐานของเธอมากขึ้น
"น้องนัท" ก่อนหน้านี้เคยบวชเป็นสามเณรมาก่อนทางภาคเหนือ และเรียนนักธรรมและบาลีเหมือนกับพระสามเณรทั่วไปที่เข้ามาบวช และดูเหมือนว่าเธอจะมีสติปัญญาดีพอสมควรเพราะว่าสามารถเรียนและสอบนักธรรมตรี โท เอก ได้โดยไม่ตกเลย ซึ่งการเรียนและสอบนักธรรมของพระและสามเณรนั้นจะมีการสอบวัดผลปีละ 1 ครั้ง รูปใดที่สอบได้ก็จะได้เรียนในระดับสูงขึ้นไป หากรูปใดสอบไม่ได้ต้องสอบซ้ำชั้นในปีต่อไป บางรูปต้องใช้เวลาหลายปีถึงจะสอบได้ในแต่ละชั้นไม่มีการสอบซ่อม
นอกจากนี้ "น้องนัท" ยังสามารถสอบในประเภทบาลีได้อีกด้วย คือสามารถสอบได้ในระดับประโยค 1-2 ซึ่งเป็นระดับแรกของการศึกษาของพระสงค์ประเภทบาลี ซึ่งสูงสุดถือประโยค 9 หาก "น้องนัท" ยังไม่สึกและเรียนบาลีต่อในระดับประโยค 3 ก็เชื่อแน่ว่าจะสอบได้ หาก "น้องนัท" สอบประโยค 3 ได้ เมื่อบวชเป็นพระก็จะมีคำว่า"มหา"นำหน้าชื่อ คือ "พระมหานัท" นี้คือนิคเนม ชื่ออย่างเป็นทางการคือพระมหาณภัสวรรณ และมีฉายาต่อท้าย อย่างเช่น พระมหาณภัสวรรณ ชลกโร หาก"น้องนัท" ยังบวชเป็นเณรอยู่และสอบได้ประโยค 9 ก็ถือว่าได้เป็นนาคหลวงก่อนจะบวชเป็นพระ
หรือ "น้องนัท" ไม่เรียนทางทางบาลีก็สามารถเรียนต่อทางที่มหาวิทยาลัยสงฆ์ 2 แห่งได้ในระดับปริญญาตรีถึงปริญญาเอก แต่ก่อนจะเข้าเรียนระดับปริญญาตรี "น้องนัท"ก็จะต้องสอบบาลีให้ได้ระดับประโยค 6 หรือไม่เช่นนั้นก็จะต้องสอบเทียบหรือเรียนกศน.ให้ได้ ม.6 เสียก่อนถึงจะเข้าเรียนมหาวิทยาลัยสงฆ์ได้
แต่"น้องนัท"จบการศึกษาทางพระเพียงระดับนักธรรมเอกและประโยค 1-2 หลังจากนั้นก็สึกและเรียนต่อจนสามารถเรียนจบ ม.6 และเรียนต่ออยู่ขณะนี้ แม้น"น้องนัท"จะบอกกับจุดประกายว่า "ไม่ได้ทำตามหน้าที่นะคะ แต่เพื่อพิสูจน์ตัวเองว่าถึงเราเป็นแบบนี้ก็อยู่ได้" ก็ตามที
แต่จากการให้สัมภาษณ์ของ "น้องนัท" กับจุดประกาย ทำให้ได้รู้ว่า "น้องนัท" เข้าชีวิตของตัวเองและสังคมรอบข้างและทั่วไปพอสมควร และเชื่อแน่ว่าตลอดเวลา 4 ปีของ"น้องนัท" ในร่มกาสาวพัตร สามารถฝึกให้เธอแข็งแกร่งในระดับหนึ่ง สามารถยืนหยัดอยู่ในสังคมมายาได้อย่างทรนง ไม่ยอมแพ้เมื่อมีปัญหาถึงขึ้นทำร้ายตัวเองเหมือนกันหลายชีวิตจบลงด้วยการหนีปัญหา คิคว่า 4 ปีพอจะเป็นเครื่องบำรุงชีวิตของ"น้องนัท" เพื่อประโยชน์ตัวเอง และเพื่อประโยชน์กับบุคคลอื่นบ้าง เท่านั้นก็ถือว่าชีวิตของ"น้องนัท"ก็มีประโยชน์แล้ว แม้นว่าจะอยู่ฐานะหรือเพศใดก็ไม่สำคัญ
วันอังคารที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2552
สื่อเทศตีข่าวญาติ"เดวิด คาร์ราดีน"ฉุนสื่อไทยแพร่ภาพ
หลังการเสียชีวิตของ"เดวิด คาร์ราดีน" วัย 73 ปี ดาราฮอลลีวู้ดชื่อดัง ที่ในห้องพักโรงแรมย่านถนนวิทยุเหนือ กรุงเทพมหานคร และมีสื่อหนังสือพิมพ์ไทยฉบับหนึ่งได้มีการเผยแพร่ภาพเหตุการณ์แม้นว่าอาจจะเป็นภาพกราฟฟิกก็ตาม สร้างความไม่พอใจให้กับญาติของ"เดวิด"อย่างมาก และสื่อต่างประเทศโดยเฉพาะในเว็บไซต์ยูทูปได้มีการวิจารณ์ถึงการเผยแพร่ดังกล่าว จนกระทั้งสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติของไทยได้ออกมาท้วงติงแล้ว
หมายเหตุดูคลิป-http://www.mhanation.net/David1006.html
หมายเหตุดูคลิป-http://www.mhanation.net/David1006.html
วันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2552
ทึ่งเด็ก11ขวบจบดอกเตอร์แล้วแถมเกรด4
"โมเช่ ไค คาวาลิน" (Moshe Kai Cavalin) ลูกครึ่งอิสราเอล(พ่อ)-ไต้หวัน ด้วยวัยเพียง 11 ขวบ ก็สามารถจบปริญญาเอก สาขาดาราศาสตร์ จากอีสต์ ลอสแองเจลีส คอลเลจ และยังคว้าเกียรตินิยมเกรดเฉลี่ย 4.0 มาครองอีกด้วย
ดูคลิป-http://www.mhanation.net/Cavalin0906.html
ดูคลิป-http://www.mhanation.net/Cavalin0906.html
แก๊งอั้งยี่เก็บ"เดวิด คาร์ราดีน"ทนายเผยฝ่ายcnn
"ลาร์รี คิง"พิธีกรรายการทอล์กโชว์ สถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็น(cnn.com) ได้มีการนำเสนอถึงการเสียชีวิตของ"เดวิด คาร์ราดีน" (david carradine) วัย 73 ปี ดาราฮอลลีวู้ดชื่อดัง ที่เสียชีวิตภายในห้องพักโรงแรมผย่านถนนวิทยุเหนือ กรุงเทพมหานคร อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้เชิญนายมาร์ก เกรากอส ทนายความของครอบครัวคาร์ราดีน มาร่วมรายการพร้อมกับระบุว่า การตายของ "เดวิด" น่าจะเป็นการฆ่าปิดปากจากแก๊งอั้งยี่ใต้ดิน แบบเดียวกับกรณีของ บรูซ ลี ดารากังฟูชื่อดังของจีน เพราะ "เดวิด" กำลังพยายามที่จะเปิดโปงการทำงานของแก๊งกังฟูลับแห่งหนึ่ง
ดูคลิปรายการที่ http://www.mhanation.net/David0806.html
ดูคลิปรายการที่ http://www.mhanation.net/David0806.html
วันพฤหัสบดีที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2552
David Carradine"เดวิด คาร์ราดีน"ดาราฮอลีวู้ดผูกคอตายปริศนา
"เดวิด คาร์ราดีน" ดาราฮอลลีวู้ดระดับอดีตพระเอกรุ่นเก่า วัย 73 ปี พร้อมกับกองถ่ายทำภาพยนตร์ได้เข้าพักโรงแรมย่านลุมพินี ตั้งแต่วันที่ 2 มิ.ย. วันที่ 3 มิ.ย. ทีมงานถ่ายทำได้ไปกินเลี้ยงที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านสาทร แต่นายเดวิดไม่ได้ไปร่วมด้วย วันที่ 4 มิ.ย. แม่บ้านของโรงแรมได้เปิดประตูเข้าไปทำความสะอาด พบเป็นศพลักษณะผูกคอตาย เปลือยกาย กึ่งนั่งกึ่งนอน อยู่ในตู้เสื้อผ้า จึงแจ้งตำรวจ สน.ลุมพินี ทราบดำเนินการสอบสวน (ดูคลิป-http://www.mhanation.net/David0406.html)
วันจันทร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2552
ชีวิตซูซาน บอยล์หลังได้ที่สอง"บริเทนก็อต ทาเล้นท์"
ซูซาน บอยล์ สาวใหญ่ชาวสก็อตต์วัย 48 หลังจากที่เธอพลาดท่าแพ้คะแนนเสียงโหวตจากทางบ้านให้กับทีมนักเต้น "ไดเวอร์ซิตี้ " ในการแข่งขันรายการประกวด "บริเทนก็อต ทาเล้นท์ " ประเทศอังกฤษ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามคลิปของ ซูซาน บอยล์ของยังเป็นที่สนใจและสำนักข่าวต่างๆก็รายงานผลพร้อมกับชีวิตของ ซูซาน บอยล์ อย่างต่อเนื่อง อย่างล่าสุด ซูซาน บอยล์ ต้องถูกนำตัวส่งไปยังคลีนิคไพรเออรี่ ในกรุงลอนดอน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 31 พ.ค. เพราะความอ่อนเพลีย
อย่างไรก็ตามแม้นว่า ซูซาน บอยล์ จะได้รับผลการโหวตได้ที่สองของรายการนี้ แต่มีการคาดการณ์ว่า ซูซาน บอยล์ กำลังจะมีรายได้มากถึง 8 ล้านปอนด์หรือราว 440 ล้านบาทในปีหน้าจากการเซ็นสัญญาออกหนังสือหรือภาพยนตร์เกี่ยวกับชีวประวัติของเธอ
นอกจากนี้ ซูซาน บอยล์ จะยังมีรายได้ทั้งจากลิขสิทธิ์ภาพ และการออกรายการทางโทรทัศน์อีกนับไม่ถ้วน และ ซูซาน บอยล์ กำลังจะเริ่มฝึกซ้อมในสัปดาห์นี้เพื่อเตรียมออกอัลบั้ม และจะเดินทางไปกรุงปราก สาธารณรัฐเช็คในเดือนหน้าเพื่อร่วมบันทึกการแสดงร่วมกับวงออเคสตร้า ซิมโฟนีแห่งชาติของสาธารณรัฐเช็ค
พร้อมกันนี้ ไซมอน โคเวลล์ เจ้าของบริษัทไซโค ในเครือโซนี่ บีเอ็มจี หนึ่งในกรรมการรายการนี้ได้เตรียมจะนำเธอข้ามไปสหรัฐ ซึ่งบอลย์กลายเป็นที่รู้จักไปแล้ว และเตรียมจะเซ็นสัญญาให้เธอเป็นนักร้องของค่ายโซนี่ด้วย
ดูคลิปที่ http://www.mhanation.net/Susan0206.html
อย่างไรก็ตามแม้นว่า ซูซาน บอยล์ จะได้รับผลการโหวตได้ที่สองของรายการนี้ แต่มีการคาดการณ์ว่า ซูซาน บอยล์ กำลังจะมีรายได้มากถึง 8 ล้านปอนด์หรือราว 440 ล้านบาทในปีหน้าจากการเซ็นสัญญาออกหนังสือหรือภาพยนตร์เกี่ยวกับชีวประวัติของเธอ
นอกจากนี้ ซูซาน บอยล์ จะยังมีรายได้ทั้งจากลิขสิทธิ์ภาพ และการออกรายการทางโทรทัศน์อีกนับไม่ถ้วน และ ซูซาน บอยล์ กำลังจะเริ่มฝึกซ้อมในสัปดาห์นี้เพื่อเตรียมออกอัลบั้ม และจะเดินทางไปกรุงปราก สาธารณรัฐเช็คในเดือนหน้าเพื่อร่วมบันทึกการแสดงร่วมกับวงออเคสตร้า ซิมโฟนีแห่งชาติของสาธารณรัฐเช็ค
พร้อมกันนี้ ไซมอน โคเวลล์ เจ้าของบริษัทไซโค ในเครือโซนี่ บีเอ็มจี หนึ่งในกรรมการรายการนี้ได้เตรียมจะนำเธอข้ามไปสหรัฐ ซึ่งบอลย์กลายเป็นที่รู้จักไปแล้ว และเตรียมจะเซ็นสัญญาให้เธอเป็นนักร้องของค่ายโซนี่ด้วย
ดูคลิปที่ http://www.mhanation.net/Susan0206.html
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)