วันอาทิตย์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ร้านก๋วยเตี๋ยววัดดงมูลเหล็กที่ทักษิณชวนไปกินวันนี้

เมื่อวันที่ 23 ส.ค. เวลา 12.45 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคไทยรักไทย เขียนข้อความผ่านเว็บไซต์Twitter@Thaksinlive ระบุว่า“ พรุ่งนี้วันจันทร์ที่ 24 ส.ค. ตอนเที่ยงขอเชิญพี่น้องทวิตเตอร์มาทานก๋วยเตี๋ยวด้วยกันกับผม ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวดงมูลเหล็ก พระราม 7 จะได้คุยกันนะครับ”

เพียงเท่านี้ถ้าผู้ต้องการจะไปตามคำเชิญ หากไม่หาข้อมูลเพิ่มเติมก็คงจะไม่รู้ว่าเป็นร้านไหน เพราะบริเวณวัดดงมูลเหล็กมีร้านก๋วยเตี๋ยวอยู่หลายสิบร้ายด้วยกัน มีทั้งที่เป็นร้านเก่าแก่และร้านที่เพิ่งเปิดใหม่ รสชาติก็แตกต่างกันไป


แต่ถ้าหากเป็นร้านขาประจำของพ.ต.ท.ทักษิณแล้ว เว็บไซต์ http://www.bloggang.com/mainblog ก็ได้เก็บข้อมูลเข้าใจว่าตั้งแต่ปีพ.ศ. 2550 น่าจะเป็นร้าน ต. โภชนา ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ เพราะว่าร้านแห่งนี้มื่อหลายปีที่ผ่านมาร้านนี้ก็ตกเป็นข่าวทางหนังสือพิมพ์รายวันทุกฉบับเพราะพ.ต.ท.ทักษิณได้แวะไปทานก๋วยเตี๋ยว ที่ร้านนี้พร้อมมีภาพแขวนอยู่หน้าร้านด้วยประกอบด้วย

ดังนั้น ถ้าจะไปหากมาจากสะพานพระราม 7 ร้านอยู่ซ้ายมือติดกับปั้ม ESSO จอดรถได้ที่ปั้ม (เสียเงินค่าจอดรถ) ถ้ามาจากแยกวงศ์สว่างให้จอดรถทวัดประชาศรัทธาธรรม แล้วเดินข้ามสะพานข้ามถนนก็จะเจอร้าน ดูแผนที่ที่เว็บไซต์
http://www.bloggang.com/mainblog นำมาประกอบแแล้วจะทำให้สะดวกมากยิ่งขึ้น

ดูแผนที่ประกอบ- http://www.mhanation.net/thaksin2408.html

วันเสาร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2552

อภิสิทธิ์สอนธรรมตอนนี้ยังมีสภาอยู่แต่พรุ่งนี้ไม่รู้

ช่วงที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เดินทางไปช่วยลูกพรรคหาเสียง เลือกตั้งซ่อม ส.ส.สุราษฎร์ธานี ได้ทิ้งปริศนาธรรมข้อไตรลักษณ์คืออนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ให้กับลูกพรรคได้ดวงตาเห็นธรรม

ทั้งนี้ในช่วงหนึ่ง นายอาคม เอ่งฉ้วน ส.ส.กระบี่ ลุกขึ้นถามว่า อยากให้หัวหน้าพรรคพูดให้ชัดว่าสถานการณ์แบบนี้จะไม่มีการยุบสภาใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ตอบแบบทีเล่นทีจริงว่า "ตอนนี้ยังมีสภาอยู่ แต่พรุ่งนี้ไม่รู้" ทำให้ ส.ส.ในที่ประชุมต่างหัวเราะชอบใจ

ถูกต้องเพราะหลักไตรลักษณ์นั้นสรรถสิ่งทั้งหลายมีความไม่แน่นอน เมื่อเกิดขึ้นมาแล้ว เมื่อดำรงอยู่ ในที่สุดก็ย่อยสลายไป เฉกเช่นสภาก็มีวาระอยู่เมื่อครบกำหนดก็ต้องมีการเลือกตั้งเข้ามาใหญ่ หรือไม่ก็มีอุบัติเหตุต้องยุบ เมื่อเหตุปัจจัยครบก็ต้องเป็นไปตามนั้นจะไปบังคับให้เป็นอย่างนั้นอย่างนี้หาได้ไม่

ที่ทุกข์กันอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะมีตัณหา 3 ประการคือ ฝ่ายได้ประโยชน์จากสภานี้ก็มี กามตัณหา และภวตัณหา เพราะมีความสุขไม่อยากให้มีการเปลี่ยนแปลง ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งที่ไม่ได้ประโยชน์ก็วิภวตัณหาอยากให้มีการเปลี่ยนแปลงเพราะไม่ต้องการเข้ามาดำรงภาวะอย่างเช่นฝ่ายแรกบ้าง จึงได้แสดงภาวจิตที่ประกอบไปด้วยโทสะ อุปนาหะ-ผูกโกรธไว้ อย่างที่เห็นกันอยู่แล้วถามว่ามีความสุขหรือไม่ แม้นจะมีเงินเท่าใดแม้นมีภาวจิตเช่นนี้ก็มีความทุกข์ทั้งนั้น

ก็อยู่ที่ว่าใครจะดวงตาเห็นธรรมก่อนกันใครเห็นก่อนก็สุขก่อน ก็ไม่เห็นก็ทุกข์ต่อไปแล้วจะโทษใครเหล่า จงสำรวจดูจิตตัวเองเถิดว่าจริงมะ

ต้องกระตุ้นต่อมพันท้ายนรสิงห์ให้กระหึ่มทั้งแผ่นดิน

ช่วงนี้อยู่ระหว่างกระบวนการตรวจสอบความถูกต้องการล่ารายชื่อถวายฎีกาช่วย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ชื่อว่าเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี ถูกศาลตัดสินจำคุก 2 ปีจากคดีที่ดินรัชดา แทนที่จะยอมรับคำตัดสินรับโทษตามกระบวนการยุติธรรม ตามหลักสากลของประเทศประชาธิปไตยทั่วไปที่ให้ความสำคัญและยอมรับคำตัดสินของศาล แต่พ.ต.ท.ทักษิณหาเป็นเช่นนั้นไม่ กลับเร่ร่อนเป็นสัมภเวสีอยู่ต่างประเทศ เป็นนักโทษหนีคดี

ขณะเดียวกันก็กล่าวให้ร้ายกระบวนการยุติธรรม ขณะเดียวกันสนับสนุนให้กลุ่มคนเสื้อแดงล่าชื่อเพื่อถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้กับตัวเองทั้งๆที่ยังไม่ได้รับโทษ แต่ก็ต้องบอกว่าแปลกหรือไม่พ.ต.ท.ทักษิณไม่ยอมรับคำตัดสินของศาลในคดีที่ดินรัชดาแต่ยอมรับคดีคาร์บอมบ์ลอบสังหารตัวเอง นี้แสดงให้เห็นว่าเป็นการตีความเข้าข้างตัวเองหรือไม่ หรือจะเลือกยอมรับคำตัดสินที่เป็นประโชน์ตัวเองอย่างนั้นหรือไม่ ขณะเดียวกันก็ใช้กระบวนการยุติธรรมที่ตัวเองใส่ร้ายจ้างทนายความฟ้องร้องฝ่ายตรงข้าม

ทำให้นึกถึง "พันท้ายนรสิงห์" เมื่อวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา ที่มีโทษถึงประหารชีวิตเนื่องจากปฏิบัติหน้าที่เป็นนายท้ายเรื่อพระที่นั่งพระเจ้าเสือสด็จประพาสปากน้ำสาครบุรีในครั้งนี้ เมื่อเรือพระที่นั่งไปถึงตำบลโคกขามคลองบริเวณดังกล่าวมีความคดเคี้ยวมาก พันท้ายนรสิงห์พยายามคัดท้ายเรือพระที่นั่งอย่างระมัดระวังแต่ไม่อาจหลบเลี่ยงอุบัติเหตุได้ หัวเรือพระที่นั่งชนกิ่งไม้ใหญ่หักตกลงไปในน้ำ

"พันท้ายนรสิงห์" ยังกราบบังคมยืนยันขอให้ตัดศีรษะตนเพื่อรักษาขนบธรรมเนียมในพระราชกำหนดกฎหมายไว้ ขณะที่พ.ต.ท.ทักษิณมีโทษเพียงจำคุก 2 ปี กลุ่มคนเสื้อแดงเข้าชื่อถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ แล้ววิญญูชนอนุชนรุ่นหลังจะใช้หลักอันใดในการรักษาชาติ ก็ได้แต่ปลงสังเวชอะนะ "กัมมุนา วัตติ โลโก"

หลังจากนั้นคำว่า "พันท้ายนรสิงห์" ที่โด่งดังมาในอดีตเป็นอนุสสติเตือนอนุชนรุ่นหลังมีการสร้างเป็นหนังและละครก็หลายครั้ง อย่างเช่นวันที่ วันที่ 11 สิงหาคม 2552 ศ.นพ.วันชัย วัฒนศัพท์ ผู้ทรงคุณวุฒิ สถาบันพระปกเกล้า ได้แสดงความเห็นในบทสัมภาษณ์พิเศษโดย ปกรณ์ พึ่งเนตร เผยแพร่ผ่านทางหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ถึงกรณีการถวายฎีกาช่วยพ.ต.ท.ทักษิณของกลุ่มคนเสื้อแดง

ศ.นพ.วันชัย ได้ระบุว่า "พันท้ายนรสิงห์ คือ ต้นแบบของการมีสำนึกรับผิดชอบ เพราะแม้ว่าพระเจ้าเสือจะพระราชทานอภัยโทษให้ เมื่อเขาซึ่งเป็นนายท้ายเรือคัดท้ายเรือพระที่นั่งชนต้นไม้ แต่พันท้ายนรสิงห์ก็ยืนยันว่าจะรับโทษตามกฎมณเฑียรบาล เพื่อหวังให้เป็นเยี่ยงอย่างของการรักษากฎหมายต่อไป นี่คือหนึ่งในสิ่งที่เรียกว่าธรรมาภิบาล ภาษาอังกฤษเรียกว่า accountability หรือความสำนึกรับผิดชอบ แต่กระนั้น ในความเข้าใจของกลุ่มคนเสื้อแดง เห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่มีความผิด เพราะถูกตัดสินโทษโดยกระบวนการยุติธรรมที่ไม่เป็นธรรม จึงต้องถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ แต่เหตุผลดังกล่าว หมอวันชัย ระบุว่าฟังไม่ขึ้น"

ต่อมาวันที่วันที่ 20 สิงหาคม 2552 นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความ และนายเสงี่ยม บุญจันทร์ เลขาธิการสภาทนายความ แถลงชี้แจงเรื่องการยื่นถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ พ.ต.ท.ทักษิณที่เผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์คมชัดลึกก็ได้มีการยกกรณีของ "พันท้ายนรสิงห์" เป็นตัวอย่างตอนหนึ่งว่า

" กรณีของพ.ต.ท.ทักษิณเป็นคดีอาญาที่ถึงที่สุดแล้วต้องยอมรับระบบศาลยุติธรรม และคำพิพากษาก่อนขอรับพระราชทานอภัยโทษ ผู้รับราชการสนองคุณูปการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ดีย่อมต้องไม่หลีกเลี่ยงความผิดของตน ดังเช่น พันท้ายนรสิงห์ นักการเมืองต้องยอมรับผลแห่งการกระทำของตนเหมือนนานาอารยประเทศ เช่น นายโนห์ มู ฮยอน อดีตประธานาธิบดีประเทศเกาหลีใต้ที่ฆ่าตัวตาย เพราะถูกกล่าวหาว่าครอบครัวคอร์รัปชั่น เมื่ออาสามาบริหารแผ่นดิน หากผิดพลาดทั้งประมาทหรือเจตนาต้องกล้ารับผิด"
ดังนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการกระตุ้นต่อม สำนึกรับผิดชอบหรือ "accountability" เฉกเช่น "พันท้ายนรสิงห์" ให้กระหึ่มทั้งแผ่นดิน สนองพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วันที่ 21 สิงหาคม 2552 ความตอนหนึ่งว่า

"ข้าพเจ้าได้ยินมานานแล้วว่า การทำงานนั้นไม่ใช่ง่ายๆ โดยมากความก้าวหน้าจะต้องอาศัยคนที่มีความรู้ ความรอบรู้ ตั้งใจทำ โดยนำความรู้ของแต่ละภาคส่วนมาใช้ อย่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงอื่นๆ รวมทั้งประชาชน มาร่วมมือกัน โดยไม่มีใครเอาเปรียบกัน อันนี้สำคัญที่สุด เราเชื่อว่าจะทำให้บ้านเมืองก้าวหน้าดี บ้านเมืองจะสามารถพัฒนาขึ้นมาได้ดี โดยเฉพาะในระยะนี้บ้านเมืองของเรา เรียกว่าบ้านเมืองกำลังลุ่มหลง ไม่รู้ว่าจะไปไหน ไปอย่างไร

เราก็รู้สึกเป็นห่วงว่า ประเทศไทยกำลังล่มจม แต่พวกท่านจะทำให้ไม่จมได้ ซึ่งต้องมีการพัฒนาสร้างให้ดีขึ้น สร้างบ้านเมืองให้ก้าวหน้า ประชาชนมีความเจริญ เราก็มีความหวังมีความรู้สึกว่า บ้านเมืองจะไม่ล่มจม เพราะระยะเวลาที่ผ่านมา เรารู้สึกว่า บ้านเมืองเรากำลังล่มจม เพราะต่างคนต่างทำ ต่างคนต่างแย่งกัน ต่างคนต่างไม่เข้าใจว่าทำอะไร แต่ตอนนี้โชคดีที่มีผู้มีความรู้ต่างๆกัน มาร่วมมือกัน บัดนี้ขอยืนยันว่า ถ้าทุกคนที่มีความรู้ ความตั้งใจก็จะสามารถสร้างให้บ้านเมืองให้เจริญก้าวหน้าได้อย่างแท้จริง ขอให้ท่านจงช่วยกันทำให้สำเร็จตามที่มุ่งหวัง"
ทรงพระเจริญ

วันพฤหัสบดีที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ดูคลิปธาตุแท้ทักษิณหนีเอาตัวรอด-เสื้อแดงตายแทน

เป็นวิดีโอคลิปที่ผู้ชมส่งมาให้ ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ผู้ดำเนินรายการ “รู้ทันประเทศไทย” นำออกอากาศทางเอเอสทีวี เมื่อช่วงเย็นวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเปลือยให้เห็นธาตุแท้ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จำเลยและนักโทษคดีทุจริตที่อยู่ระหว่างหลบหนีอเอาตัวรอดไปใช้ชีวิตสะดวกสบายอยู่ต่างประเทศ ปล่อยให้คนเสื้อแดงต่อสู้อย่างยากลำบากและเสี่ยงชีวิตแทน และมีการนำคลิปขึ้นยูทูป

ดูคลิป http://www.mhanation.net/Thaksin2108.html

วันพุธที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2552

รูนยิงลูกที่100ไม่สำเร็จผีแดงพ่ายเบิร์นลีย์0-1

"ไอ้หมูบิน" เวย์น รูนีย์ ลุ้นทำประตูที่ 100 ไม่สำเร็จ เมื่อ "ผีแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด บุกไปพ่าย "ตราผึ้ง" เบิร์นลีย์ ทีมน้องใหม่ 0-1 ขณะที่ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เปิดบ้านเชือด "ช่างปั้นหม้อ" สโต๊ค อย่างท่วมท้น 4 - 0 เก็บ 3 แต้มเป็นผลเสร็จ ด้านสเปอร์สขึ้นนำจ่าฝูงหลังบุกไปถล่ม "เสือลาย" ฮัลล์ อย่างสบายเกือก 5-1

ศึกลูกหนังพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันพุธที่ 19 สิงหาคม มีเตะกันทั้งสิ้น 4 คู่ โดยเวลา 01.45 น. "ผีแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด แชมป์เก่า ที่เกมนัดแรกเปิดบ้านชนะเบอร์มิงแฮมมาอย่างกระท่อนกระแท่น 1-0 ยกพลออกไปเยือนถิ่นเทิร์ฟมัวร์ของ "ตราผึ้ง" เบิร์นลีย์ ทีมน้องใหม่ ที่เกมแรกแพ้สโต๊ค 2-0 เกมนี้หาก เวย์น รูนีย์ ยิงได้ก็จะเป็นประตูที่ 100

เกมเริ่มไปได้เพียง 19 นาที แมนฯ ยูไนเต็ดก็พลาดท่าถูกนำไปก่อน 0-1 หลังจากนั้น ก่อนหมดครึ่งแรกนาทีเดียว “ผีแดง” ได้จุดโทษเมื่อ เบล็ค ยกขาดัก เอฟรา ในกรอบโทษ แต่ ไมเคิล คาร์ริค ดันยิงไปติดเซฟ แยนเซน ทำให้จบ 45 นาทียังต้องตามหลังอยู่

เข้าสู่ครึ่งหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ไม่สามารถที่จะแก้ประตูคืนได้จบเกมพ่าย เบิร์นลีย์ ไป 0-1 ทำให้ รูนีย์ ต้องลุ้นยิงประตูที่ 100 ในเกมต่อไป

ส่วนเวลา 02.00 น. "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ที่เกมแรกออกไปพ่ายสเปอร์ส 1-2 โดยที่ ราฟาเอล เบนิเตซ ถึงกับออกมาบ่นการตัดสินของกรรมการ ฟิล ดาวน์ ที่ไม่ยอมให้จุดโทษในจังหวะที่ อังเดร โวโรนิน ตัวสำรองของทีม ถูก เบอนัวร์ เอกอตโต้ ของเจ้าถิ่นทำฟาวล์ ว่าเป็นเหตุให้ทีมพ่ายแพ้ จะได้โอกาสแก้ตัวในการกลับมาเปิดถิ่นแอนฟิลด์ รับมือ "ช่างปั้นหม้อ" สโต๊ค

เริ่มไปได้เพียง 4 นาที เฟอร์นันโด ตอร์เรส ยิงให้ลิเวอร์พูลนำเร็วเป็น 1- 0 หลังจากนั้นนาทีที่ 45 จอห์นสัน ยิงให้ลิเวอร์พูลนำเป็น 2- 0 ต่อมานาทีที่ 78 เดียร์ก เคาท์ ยิงให้ลิเวอร์พูลนำห่างเป็น 3 - 0 และก๊อกมายิงประตูที่ 4 ในช่วงท้ายเกม ส่งผลให้ลิเวอร์พูลชนะสโต๊ค 4 - 0

ส่วนอีก 2 คู่ ที่เตะพร้อมกันในเวลา 01.45 น. "ตราลูกโลก" เบอร์มิงแฮม ยิงได้ช่วงทดเจ็บ ชนะ "ปอมปีย์" ปอร์ทสมัธ 1 - 0 ขณะที่ "เสือลาย" ฮัลล์ พ่าย "ไก่เดือยทอง" สเปอร์ส 1- 5 ส่งผลให้สเปอร์ส ขึ้นนำเป็นจ่าฝูงด้วยประตูได้เสียดีกว่า

ไข่มุกแนะศก.พอเพียงเวทีมิสยูนิเวิร์ส09

ใกล้เข้ามาแล้วสำหรับประกวด "มิสยูนิเวิร์ส 2009" จากสาวงาม 84 ประเทศจากทั่วโลก รวมถึง "น้องไข่มุก" ชุติมา ดุรงค์เดช ตัวแทนสาวงามจากประเทศไทย ที่เกาะพาราไดซ์ ประเทศบาฮามาส ซึ่งเป็นหมู่เกาะในทะเลแคริบเบียน มหาสมุทรแอตแลนติก ซึ่งจะมีการตัดสินสุดท้ายวันที่ 24 สิงหาคมนี้ เวลา 08.00 น. ตามเวลาประเทศไทย และจะมีโหวตตำแหน่งมิสโฟโต้จีนิค ผ่านทางเว็บไซต์ http://www.nbc.com/. ด้วย

เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 17 สิงหาคม สาวงามทั้งหลาย ต่างออกมาโชว์หุ่นสวย ในชุดว่ายน้ำที่ประดิษฐ์จากฝีมือคนไทย และอวดโฉมอีกครั้ง ในชุดราตรียาว และเป็นที่น่าชื่นชมก็คือว่าช่วงของการแนะนำตัวนั้น พิธีกรได้แนะนำทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงพร้อมทั้งวัฒนธรรมไทยช่วงที่น้องไข่มุกเดินโชว์บนเวที

หมายเหตุดูคลิปที่ -
http://www.mhanation.net/Universe2008.html

วันอาทิตย์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ธรรมะพารวยทักษิณพาจน(ปัญญา)มัวหาเงิน?

คนไทยคงจะคุ้นเคยกับคำว่า "มีเงินเขาก็นับว่าน้องมีทองเขาก็นับว่าพี่" จึงหากันแห่แหนยกย่องคนที่ร่ำรวยว่าเป็นคนดี และต้องการที่รวยกับเขาบ้าง พากันแสวงหาความรู้ จึงทำหนังสือประเภททำให้รวยและแก้จนออกมาอย่างมากมาย อาทิ "พ่อรวยสอนลูก" โดยไม่ได้สนใจพื้นฐานหรือความเป็นมาของคนรวยคนนั้นเลยว่ารวยมาได้อย่างไร เป็น"สัมมาอาชีวะ"หรือไม่ จนกระทั้งมีทัศนคติรับได้กับคนโกง จึงทำให้หนังสือ "พ่อจนสอนลูก" ขายไม่ค่อยได้

เมื่อพฤติกรรมของคนไทยเบี้ยวๆเช่นนี้ส่งผลให้พระนักเทศน์อย่างพระว. วชิรเมธีได้เขียนหนังสือ "ธรรมะพารวย" เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2551 ชี้แนะแนวทางการประกอบธุรกิจที่เป็นสัมมาทิฐิที่ไม่ผิดศีลธรรมอย่าง พูดง่ายๆก็คือไม่โกงก็รวยได้นั้นเอง และต่อมา อาจารย์อัจฉรา โยมสินธุ์ อาจารย์ประจำภาควิชาการเงิน คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ คอลัมนิสต์ประจำหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ เจ้าของผลงานชิ้นแรก “อ สตางค์ ทุกขัง มรณัง?” ก็ได้ออกหนังสือเรื่อง “ธรรมะพารวย” อีกเวอร์ชั่นหนึ่งก็ได้รับความสนใจจากผู้คนอยากรวยทั้งหลาย และมีสื่อนำมาถ่ายทองอีกแรงหนึ่ง

เมื่อมีผู้มาเสนอแนะทางรวยแบบสัมมาทิฐิเช่นนี้มีหรือที่จะไม่อยากรู้เทคนิคบ้าง จึงได้ค้นคว้าข้อมูล ข้อมูลแรกที่พบก็คือ

"เราไม่มีปัญญาที่จะมีเงินถึงล้านแต่เราก็สามารถทำประโยชน์ อันมีค่าถึงร้อยล้านพันล้านได้ อย่ามัวหาเงินอยู่เลย มาทำประโยชน์กันดีกว่า นั่นคือ ทำให้เพื่อนร่วมโลกของเรา รู้จักดับทุกข์ หยุดเห็นแก่ตัว"
จากหลวงพ่อพุทธทาสภิกขุ


ก็ทำให้รู้สึกอึ้งอยู่เหมือนกัน ทำให้เกือบล้มเลิกที่จะหาข้อมูลต่อไปว่าทั้งสองท่านข้างต้นเสนอแนะอย่างไรบ้าง จะไปหาซื้อหนังสือมาอ่านก็อย่างว่านั้นแหละเพราะ “อ สตางค์" แต่หาเท่าไรก็ไม่พบรายละเอียดของเนื้อหาในหนังสือของโลกไซเปอร์เสียที ก็ไม่เสียหลายเพราะได้คาถาหัวใจเศรษฐีมาถือ "อุ-อะ-กะ-สะ" ก็ต้องศึกษาต่อไปว่า คาถา 4 ตัวนี้หมายถึงอะไร เพราะจะมัวแต่นั่งท่องอยู่คงจะอดตายแน่ ถึงได้รู้ว่า คาถา 4 ตัวนี้ก็คือหลักธรรมเบื้องต้นของฆราวาสที่พระเทศน์อยู่เป็นประจำนั้นเอง

แต่ถึงกระนั้นก็ได้พบบทความทากรุงเทพธุรกิจออนไลน์ ทาง http://www.bangkokbiznews.com มีเนื้อหาที่น่าสนใจรวมถึงมีความเห็นจากอาจารย์อัจฉราด้วยความว่า

Oหมั่นหาความสุขที่ไม่ผูกติดกับเงินทอง

"ดร.สมจินต์ ศรไพศาล" กรรมการผู้จัดการ บลจ.วรรณ บอกว่า ทุกวันนี้รอบตัวเต็มไปด้วยสิ่งยั่วเย้าให้เกิดกิเลสได้ง่าย นั่นทำให้ต้องคิดว่าแล้วจะจัดการกับกิเลสอย่างไร โชคดีที่เขาได้มีโอกาสบวชเรียน ฝึกการจัดการกับความอยาก เพราะเวลาที่เป็นพระ เขาได้ตัดทอนเรื่องยั่วยุกิเลสไปเยอะมาก พระมีโอกาสค่อนข้างดีในการจัดการกิเลสเพราะถูกกรอบบังคับไม่ให้ไปยุ่งกับกิเลสเท่าไหร่

“ผมพบว่าวิธีกำจัดกิเลสอย่าง่ายๆ คือลองคิดว่า เราทานอาหารไม่ได้ทานเพื่อความหรืออร่อยเพลิดเพลินเป็นหลัก แต่ทานเพื่อให้มีชีวิตอยู่ให้ร่างกายแข็งแรง เวลากินยาก็ไม่ได้กินเพียงเพื่อให้สวยหรือผอมขึ้น แต่กินเพื่อกำจัดโรคภัยไข้เจ็บ เวลาแต่งตัวก็ไม่ได้ดึงดูดให้คนมองว่าสวย แต่แต่งกายเพื่อห่มคลุมร่างกายไม่ให้หนาว ลักษณะนี้ทำให้เราเข้าถึงจุดประสงค์ของการใช้ชีวิตที่แท้จริง นั่นเป็นวิธีบริหารจัดการชีวิต ลดกิเลส ไม่ให้พาตัวเองไปอยู่ภายใต้กิเลสมากเกินไป”

ดร.สมจินต์บอกว่า ที่จริงแล้วเวลามีโอกาสไปชอปปิ้งเขาเองก็มีความสุขไม่ต่างจากคนอื่น แต่เวลาจะซื้อต้องคิดว่าเราซื้อเพราะอะไร ซื้อเพราะราคาถูกหรือเปล่า เช่นเวลาลดราคา หรือนาทีทอง คนก็จะไปรุมกัน บางทีซื้อไปแล้วก็ไม่ได้ใช้

“หลักในการซื้อของๆ ผม ยึดตามหลักของวอร์เรน บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลกและผู้เชี่ยวชาญทางการเงิน เขาบอกว่าเวลาจะซื้อของ ให้ถามคำถามสำคัญ 2 ข้อ 1.ซื้ออะไรดี 2.ราคาเท่าไหร่จึงจะเหมาะสม ถ้าเราแค่ไปเดินเล่นพอเห็นอะไรถูกใจก็ซื้อ นั่นคือส่วนใหญ่จะไปติดกับดักของกิเลส เพราะราคาถูกเลยซื้อมา ทั้งที่ไม่ได้เกิดจากความต้องการที่แท้จริง แต่ถ้าเราแยกได้ว่าอะไรจำเป็น อะไรอยากได้ เราก็จะไม่ติดกับดักของกิเลส”

กรรมการผู้จัดการ บลจ.วรรณบอกว่า คนเราควรจะตั้งอยู่บนความพอเหมาะพอควร ใช้ของอย่างคุ้มค่า มีความสุขจากการชอปปิ้งได้ แต่ต้องซื้อของที่คุณภาพดี ดูดี ไม่ต้องหรูหราก็ได้ เพราะค่าของความหรูหรามันแพงมาก แต่ก็ไม่ใช่ซื้อแต่ของราคาถูกลองสังเกตว่า ถ้าเราซื้อของถูกใช้ได้แค่ครั้งสองครั้งหรือแค่ครั้งเดียวก็ขาดแล้ว ไม่คุ้ม

การรบรากับกิเลสนั้น อยู่ที่ว่าถ้าเรารู้ว่าเรามีความสุข เราจะบริหารกิเลสได้ ตราบที่เราไม่รู้ว่าเรามีความสุขหรือไม่ เราจะจัดการกับกิเลสไม่ได้ สิ่งสำคัญคือต้องหาความสุขที่ไม่ผูกติดกับกิเลสและเงินทอง เพราะเมื่อไหร่ที่ปล่อยให้เกิดความอยากมากเข้าก็ต้องดิ้นรนหาเงินมาเพื่อปรนเปรอความอยาก บางครั้งทำให้เราต้องพยายามหาเงินด้วยความไม่ถูกไม่ควร

“ผมขอโค้ดคำพูดของนายแพทย์ท่านหนึ่งที่เคยพบเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว ท่านบอกผมแค่สั้นๆ ว่า Less is More แนวคิดนี้สำคัญมากสำหรับชีวิต ลองสังเกตว่าเวลาเราไปโรงแรม จะพบว่าห้องสวยกว่าที่บ้าน เพราะมีของน้อย มีแต่ของที่จำเป็นต้องใช้ ไม่รกตา

แนวคิดนี้ ยังทำให้พบว่า มีของถูกที่ดีกว่าของแพงตั้งเยอะ หรือบางครั้งของฟรีมีค่ากว่าของที่ต้องใช้เงินซื้อ การจะก้าวข้ามกิเลสและสิ่งที่ผูกติดกับเงินทองได้ คือต้องรู้เห็นคุณค่าของสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ถ้าเราเข้าใจสิ่งเหล่านี้ คงจัดการกับกิเลสได้ง่ายขึ้น และหาความสุขได้ง่าย"

หลายคนอาจสงสัยว่า กิเลสแมเนจเม้นท์ จัดการแล้วต้องอยู่แบบจนๆ หรือเปล่า ที่จริงแล้วไม่ใช่ โดยส่วนตัวของ ดร.สมจินต์คิดว่าการจัดการกิเลสในระดับที่พอดี ตัวอย่างที่ดีคือบัฟเฟตต์คือ เขาพอเพียงในการจับจ่าย และการใช้ชีวิต แต่ไม่เคยพอเพียงในการทำงาน ผลงานของเขาจะต้องได้งานที่ดี และเมื่อได้เงินมาต้องคืนแก่สังคม

ดร.สมจินต์ยังบอกว่า การสร้างรายได้ของคนทั่วไปมักถูกขับเคลื่อนด้วยกิเลส ที่จริงเราสามารถขับเคลื่อนด้วยความรัก เช่น รักในงานชิ้นนั้นๆ เมื่อรักก็จะทำงานให้มีคุณค่า

“เช่นตัวอย่างของผมเป็นฟันด์ แมเนเจอร์ งานของผมคือบริหารเงินให้ลูกค้า ให้เงินต้นยังอยู่ และมี[คำไม่พึงประสงค์]กผลงอกเงยต่อไป เราต้องบริหารเงินอย่างดี และเมื่อแนะนำได้อย่างถูกต้อง ลูกค้าไว้วางใจ รายได้ก็จะตามมาทีหลัง”

ดังนั้น การจัดการกิเลสจะทำให้รายจ่ายถูกดูแล ภายใต้รายได้ที่มีอยู่สามารถออมและเอาไปลงทุนได้ การลงทุนนำมาซึ่งความมั่งคั่ง ขณะที่กิเลสของเรายังมีอยู่ ต้องยอมรับว่ายากมากที่เราจะเหลือเงินไปลงทุนได้ง่ายๆ เหมือนการพายเรือทวนน้ำ สมมติว่ามีเงินเดือน 2 หมื่นตั้งใจออมเดือนละ 10% คือ 2 พันบาท แต่ใช้ไปเรื่อยๆ รอให้เหลือเงินออมตอนสิ้นเดือน ทำเท่าไหร่ก็ออมไม่ได้

“ผมมีตัวอย่างสามีภรรยาคู่หนึ่งในอเมริกา ตอนอายุ 50 กว่า พวกเขาเป็นเศรษฐีแล้วเพราะตัดสินใจถูกต้อง ทำให้เป็นเศรษฐีในวันนี้ เขาบอกนายจ้างว่าทุกวันที่เงินเดือนออก ให้เงินเขาแค่ 90% พอ อีก 10% ช่วยลงทุนแทนเขาหน่อย ในระยะ 30 ปีหลังจากนั้น ไม่มีเดือนไหนเลยที่สามีภรรยาคู่นี้ไม่ได้ลงทุน ตลอด 360 เดือนเขาออม

โดยได้ผลตอบแทน 10% อย่างต่อเนื่อง ตอนออกจากงานเขามีเงินสะสมคนละ 20 ล้าน[คำไม่พึงประสงค์]ลลาร์ 2 คนก็เป็น 40 ล้าน[คำไม่พึงประสงค์]ลลาร์ 2 คนนี้จัดการกิเลสในแบบของเขา เพราะรู้ว่าถ้าเจ้านายจ่ายเงินเดือนให้ครบ 100%ก็อาจจะไม่เหลือ มนุษย์ธรรมดาไม่ง่ายที่จะลงทุนอย่างต่อเนื่อง เขาก้าวข้ามความไว้วางใจตัวเอง โดยการลงทุนโดยอัตโนมัติ เราเริ่มต้นจาก 10% ขยับเป็น 15% หรือ 20% ได้ กิเลสน้อยลง ความมั่งคั่งเพิ่มขึ้นสอดคล้องกันเหลือเกินความงดงามในชีวิตก็จะเกิดขึ้น”

Oกิเลสถูกจัดการได้ด้วยการรู้จักตัวเอง

"อัจฉรา โยมสินธุ์" อาจารย์ภาควิชาการเงิน มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ผู้เขียนหนังสือเรื่อง "ธรรมะพารวย" เล่าประสบการณ์การสู้รบกับกิเลสและวิธีจัดการกับมันว่าเป็นธรรมดาของผู้หญิงทุกคนที่ซื้อและช้อปได้ตลอดเวลา สังเกตว่าเดี๋ยวนี้ข้างออฟฟิศจะมีตลาดนัด และผู้หญิงส่วนใหญ่ก็มักจะได้ของหิ้วขึ้นมาด้วย ซึ่งเธอเองก็เป็นหนึ่งในผู้หญิงแบบนั้น ซึ่งบางทีซื้อมาแล้วก็มานั่งคิดว่าไม่จำเป็นเลย ซื้อแบบไม่เคยคิด เพราะเห็นว่าของราคาถูก

“วันหนึ่งนั่งมองที่โต๊ะทำงาน มีที่ทับกระดาษอยู่ 8 อัน ดินสอก็มีเยอะมาก ทั้งที่จริงเวลาใช้ก็ใช้ทีละอัน ตอนนั้นรู้แล้วว่ามีเยอะเกินไป อีกครั้งคือตอนย้ายบ้านก็เก็บของเพื่อเตรียมนำไปบริจาคให้วัดสวนแก้วมารับ ปรากฏว่ามีของที่ไม่เคยใช้เลย เยอะมาก 3 คนพี่น้องผู้หญิงหมดเลย ช้อปเยอะมาก แต่มีหลายชิ้นที่ยังไม่เคยใช้เลย ถ้ารวมมูลค่าแล้วก็มหาศาลมาก ตอนนั้นตกใจ เราซื้อมาแล้วไม่ได้ใช้เยอะขนาดนี้เลยหรือ มองหน้ากันเลยตอนนั้น”

ตอนนั้น เราตั้งปณิธานว่าจากนี้ไป "ถูกแค่ไหนถ้าไม่ได้ใช้ก็ไม่ซื้อ" ท่องให้ขึ้นใจเลย เพราะผู้หญิงมักจะแพ้ของลดราคา พอเห็นป้ายเซลก็แพ้ใจตัวเองตลอด ต่อมาพอเริ่มไม่ซื้อบ่อยขึ้น กลายเป็นว่าเกิดความไม่ค่อยอยากซื้อโดยอัตโนมัติ และใช้ของอย่างคุ้มค่า

“คิดว่า ทุกคนคงต้องหาจุดคลิก ก่อนอื่นเราต้องรู้ตัวเองว่าก่อนว่า เราเป็นใคร เราทำอะไร เรามีรายได้แค่ไหน จากสิ่งที่มีเราควรจะมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ นั่นจะเป็นวิธีจัดการกิเลส ซึ่งกิเลสจะโดนจัดการได้ด้วยการรู้จักตัวเอง เราจะไม่มองว่าตอนนี้คนรอบตัวใช้ไอโฟนหมดแล้ว ฉันต้องเปลี่ยนโทรศัพท์แล้วล่ะ ทั้งที่จริง เราใช้แค่โทรเข้าโทรออกก็พอแล้ว นั่นก็แปลว่าไม่จำเป็นต้องซื้อไอโฟนตามคนอื่น

“ตอนนี้เวลาจะซื้อของ เช่นถ้าจะซื้อรองเท้าซักคู่หนึ่งที่แพงมาก จะคำนวณเลยว่าเราจะต้องใช้ไม่ต่ำกว่ากี่ปี ถ้าเป็นรองเท้าถูกๆ จะไม่ค่อยซีเรียสมาก” “การรู้จักให้” เป็นอีกอย่างหนึ่งที่อัจฉราบอกว่าช่วยลดความอยากได้ เธอเล่าให้ฟังว่า เคยไปเปิดท้ายขายของ โดยนำเสื้อผ้าบางชิ้นจะเอาไปขาย 200 บาท แต่คนซื้อต่อราคาเหลือ 50 บาท

นั่นแสดงว่ามีคนเดือดร้อนและลำบากกว่าเราเยอะ เธอจึงตัดสินใจขายของชิ้นนั้นที่ราคา 30 บาท แต่นั่นทำให้เธอรู้ว่า การให้ช่วยลดความอยาก ลดกิเลส ลดความหรูหราฟุ่มเฟือยไปเยอะ เหมือนที่พระพุทธเจ้าบอก เราต้องกำจัดกิเลสด้วยการให้

อัจฉาราบอกอีกว่า มนุษย์ปรุงแต่งตลอดเวลา กิเลสเกิดดับๆ อยู่ตลอดเวลา กิเลสเกิดขึ้นเยอะเพราะชีวิตทุกวันนี้พ่อแม่เลี้ยงลูกด้วยทีวี เรากำลังดูทีวีมากเกินไป แล้วสิ่งที่ทีวีปรุงแต่งมานั้น เราเห็นละครทุกช่องบอกว่า ถ้ารวยต้องบ้านหลังใหญ่ รถคันโต ทั้งที่จริงความสุขนั้นเราต้องสร้างเอง ไม่มีเงินก็สร้างความสุขได้ แต่ทำยังไงถึงจะจัดการได้ ถ้าให้ยกหลักธรรมซักข้อ คงนึกถึงหลักสำคัญที่ว่า "เราต้องรู้จักตัวเราเอง" ถ้าเรารู้ว่าต้องการอะไร ก็สร้างด้วยตัวเอง ถ้าเอาความสุขไปผูกไว้กับข้าวของเงินทองก็ต้องหาตลอด

Oรู้จักให้และบริจาคช่วยจัดการกิเลส

"กรุณา อักษราวุธ" เล่าถึงกิเลสของเองว่า เธอเองก็มักจะติดบ่วงของแถม ของอร่อย หลังๆ ก็รู้สึกว่าไม่ไหวแล้ว พอตกหลุมบ่อยเข้า วิธีจัดการกับกิเลสก็คล้ายๆ กับอาจารย์อัจฉราคือ "ให้" และ "บริจาค"

เมื่อคราวที่เศรษฐกิจตกต่ำรอบที่ผ่านมา ช่วงนั้นมีความรู้สึกอายเมื่อต้องใช้เงินฟุ่มเฟือย เพราะมีคนเดือนร้อนเยอะ ตกงานเยอะ ตอนนั้นจึงประหยัดพอสมควร ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ จะไปซื้อเสื้ออะไรก็รู้สึกว่าเอาเงินไปทำบุญให้เด็กดีกว่า จึงพบว่ากิเลสลดได้ถ้าเรารู้จักแบ่งปันให้คนอื่น ขนาดวอร์เรน บัฟเฟตต์ผู้รวยที่สุดในโลก แต่เขายังใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหลังเดิม บ้านหลังเล็กๆ แล้วเอาเงินไปบริจาคตั้งเป็นมูลนิธิ เพื่อช่วยเหลือคนอื่น นั่นเป็นสิ่งที่ดีงามของโลก

กรุณาบอกว่า ถ้าคนเราปล่อยปละละเลยให้กิเลสเป็นใหญ่ก็จะ มันก็มากขึ้นเรื่อยๆ มีความอยากไม่มีที่สิ้นสุด

“สำหรับตัวเองแล้ว มีกิเลสอีกอย่างหนึ่งคือตัวเองเป็นคนชอบเที่ยว เวลาเที่ยวก็ซื้อของกลับมา ของรกในบ้านเต็มไปหมด อีกอย่างพอเปิดตู้เสื้อผ้ามาปรากฏว่าเรามีเสื้อผ้าใส่เล่นตัวละ 199 บาทเต็มตู้เลย แต่เสื้อผ้าใส่ทำงานกลับมีน้อยมาก ขอยกตัวอย่างของภรรยาของโอบามา เธอใส่เสื้อผ้าธรรมดามากเลย ชิ้นละ 200 [คำไม่พึงประสงค์]ลลาร์ 100 [คำไม่พึงประสงค์]ลลาร์บ้าง แต่กลับดูดี เห็นมั้ยคนเราไม่จำเป็นต้องใช้ของแพงก็ดูดีได้”

ความจริงการมีความอยากได้อยากมีในบางเรื่องไม่ใช่เรื่องผิด ของทุกอย่างในโลกนี้มีบวกและลบ หนี้ทางบวกก็มี ทางลบก็มี เช่น หนี้ที่กู้เพื่อไปเรียน ก็ถือว่าสร้างอนาคตที่ดี ถ้าเราคิดว่าสามารถชำระคืนได้ ก็ไม่เป็นไร หรือหนี้บ้านก็เป็นหนี้ดี เพราะถือว่าเป็นการสร้างสินทรัพย์ในอนาคตของครอบครัว แต่หนี้ที่เกิ[คำไม่พึงประสงค์]ะไรที่ไม่จำเป็น หรือที่ให้ความสะดวกสบาย นั่นอาจจะเป็นการสร้างกิเลส

Oให้สติช่วยสลายกิเลส

"วิวรรณ ธาราหิรัญโชติ"นายกสมาคมวางแผนการเงินไทย บอกว่า คนเรามักอยากมี อยากได้ อยากเป็น และเพราะความที่เป็นผู้หญิงก็มักจะอยากได้โน่นได้นี่ จุ[คำไม่พึงประสงค์]่อนของเธอคือบางทีมีเวลาน้อย หรือบางทีก็ไม่มีเวลาชอปปิ้ง ทำให้บางทีเมื่อมีโอกาสหรือจังหวะให้ซื้อ และถูกบีบด้วยเวลาที่มีอยู่จำกัด ก็จะซื้ออย่างไม่คิดเท่าไหร่

“ปรากฏว่าซื้อมาเยอะจนบ้านรกมาก เพราะซื้อมาแล้วไม่ได้ใช้ กิเลสกองอยู่เต็มบ้าน หรืออย่างบางทีเดินทางไปต่างประเทศ ก็จะซื้อของเยอะมาก เพราะคิดว่าเราทำงานมาเหนื่อย ซึ่งตราบใดที่เราหาเงินได้ด้วยความสุจริต เราก็คงต้องจับจ่ายบ้าง แต่ควรจับจ่ายให้พอดี มีกิเลสอย่างรู้ตัว รู้ว่าทำไมถึงซื้อเยอะ เพราะบางทีพอเราทำงานหนักมาก แต่ไม่มีเวลาช้อป พอมีจังหวะซื้อเราก็ซื้ออย่างหักโหม

แต่เมื่อไหร่ที่มีเวลาเยอะ เราก็ทยอยซื้อได้ การปล่อยให้เวลามาจำกัดหรือบีบบังคับ หรือปล่อยให้สถานการณ์บางอย่าง เช่นช่วงลดราคาต้องเร่งซื้อ หรือการเดินทางไปต่างประเทศว่าอาจจะไม่ได้กลับมาอีก ซื้อไปเถอะ เงื่อนไขพวกนี้ทำให้ซื้ออย่างไม่คิด”

วิวรรณบอกว่า ทางแก้อย่างแรกคือมีสติให้มากที่สุด ก่อนจะซื้ออะไร ต้องคิดก่อนว่าจะจำเป็นมั้ย หรือซื้อแล้วจะได้ใช้งานหรือไม่ สำคัญที่สุด เมื่อรู้ว่ากิเลสมีเยอะต้องมีคนช่วยดึง เช่นกรณีของเธอจะมีสามีคอยดึง คือมีกฎว่าถ้าไม่กำจัดของเดิม ห้ามซื้อของใหม่เข้าบ้าน หากใครที่ไม่มีสามีหรือภรรยา จะใช้พี่น้องพ่อแม่หรือลูกคอยเหนี่ยวรั้งเวลาที่เรามีกิเลสมากไป

“ที่จริงมีอีกหลายวิธีที่จะกำจัดกิเลส เช่นการบริจาค เพราะกิเลสต้องแก้ด้วยการสละ หรือสำหรับคนที่รู้ตัวว่าชอบซื้อ แนะนำว่า ใช้วิธีซื้อฝากคนอื่น คือเราได้เลือกซื้อของอย่างที่เราชอบ แต่เป็นการซื้อฝากคนอื่น แบบนี้ เราก็ได้ช้อป และได้บำบัดการชอบชอปปิ้งของตัวเองด้วย แต่ต้องไม่ลืมว่าสติสำคัญที่สุดสำหรับคนกิเลสเยอะ”

วิวรรณสรุปว่า คนเราควรจะใช้เงินอย่างรู้คุณค่า และไม่สำคัญว่ารายได้จะมากหรือน้อย แต่เงินเดือนเท่าไหร่ก็รวยได้ รวยหรือจนต่างกันที่ คนรวยหาเงินได้มากกว่าที่ใช้ คนจนใช้มากกว่าที่หาได้ นอกจากนี้ ยังต้องเก็บออมเพิ่มขึ้น และเมื่อมีหนี้ต้องจ่ายก็ให้ชำระคืนหนี้ที่มีอัตรา[คำไม่พึงประสงค์]กเบี้ยสูงก่อน และเลือกซื้ออย่างฉลาด ใช้เงินให้เป็น นอกจากนี้ต้องประหยัด ไม่ได้แปลว่ากระเหม็ดกระแหม่ไม่ใช้เงิน แต่ใช้อย่างรู้คุณค่า

หวังว่าข้อคิดในการจัดการกิเลสจากกูรูการเงินทั้ง 4 ท่าน จะช่วยให้เห็นหนทางในการกำจัดกิเลสที่ซ่อนอยู่ในตัวเราทุกคน

เพียงเท่านี้ก็คงจะอนุมานได้ว่าเป็นเพราะอะไรถึงต้องตั้งหัวข้อเช่นนี้ เพราะเหตุนี้ถึงไม่ยอมก้มหัวให้กับคนรวยแต่ไม่มีธรรมงัย...อิอิ




วันศุกร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ซูซาน บอยล์ถ่ายแบบขึ้นปกนิตยสารไฮโซเทียบฮอลลีวู้ด

หายหน้าหายตาไปนานสำหรับ ซูซาน บอยล์ คุณป้าเฉิ่มเสียงเสน่ห์ ดังจากการประกวดร้องเพลงในรายการ Britain?s Got Talent อังกฤษ คลิปทุบสถิตยูทูป แม้นว่าที่สหรัฐจะมีการจัดประกวด ก็ยังไม่มีผู้ที่ทาบรัศมีความโด่งดังของเธอได้

ถึงอย่างไรก็ตามก็มีการเคลื่อนไหวของเธออยู่เป็นระยะๆ ล่าสุดเดลี่เมล์ของอังกฤษ รายงานเมื่อวันที่ 6 ส.ค.ว่า ซูซาน บอยล์ ได้ถ่ายแบบแฟชั่นให้กับนิตยสารฮาร์เปอร์ บาร์ซาร์ เวอร์ชั่นสหรัฐอเมริกา ฉบับเดือนกันยายน 2552 โดนจับแปลงโฉมสุดไฮโซ จนป้าซูซานกล่าวว่า “ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนเป็นนักแสดงฮอลลีวูดจริงๆ ทำผมฉันซะสวยเลย”

ลอร่า บราวน์ บรรณาธิการแผนกเรื่องพิเศษ ได้ให้สัมภาษณ์กับทางรายการ Today Show ของ NBC ถึงเบื้องหลังการถ่ายแบบครั้งนี้ว่า ความคิดของการถ่ายแบบครั้งนี้ก็ธรรมดามาก คืออยากให้เห็นเธอในรูปแบบสง่างาม หรู และอ่อนไหว ตนคิดว่า ซูซาน บอยล์ เริ่มชินกับการเป็นดารา การออกทีวีและให้ถ่ายภาพ


คลิป - http://www.mhanation.net/Susan0808.html

วันพฤหัสบดีที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2552

พระราชินีพระราชทานคำขวัญวันแม่แห่งชาติ

สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานคำขวัญวันแม่แห่งชาติ ปี 2552 ความว่า

แผ่นดินนี้ปู่ย่าตายายสร้าง เคยทอดร่างลงถมถิ่นแผ่นดินแม่

ขอลูกไทยรักษามั่นไม่ผันแปร เป็นไทยแท้มิใช่ไทยแต่ในนาม

open GI JOE films in Thailand

This weekend sees PPI launch the summer 2009’s last major day-and-date tent-pole, Stephen Sommer’s GI JOE: THE RISE OF COBRA. The action film launches day-and-date with the US in 36 international markets, including Japan (where the film saw its world premiere last week – July 27) as well as UK/Ireland, France, Spain, Russia, Austria, Belgium, Hungary, Poland, Switzerland (F & G), Turkey, Ukraine, UAE, Lebanon, Others Middle East, Australia, New Zealand, China, Korea, Hong Kong, Indonesia, Malaysia, Philippines, Singapore, Taiwan, Thailand, Mexico, Brazil, Argentina, Chile, Colombia, Ecuador, Panama, Peru and Venezuela.

GI JOE is based on the popular Hasbro brand of action figures, which has seen a spin-off animated TV show and movie and comic-books. Lorenzo di Bonaventura (TRANSFORMERS franchise) produces. The film stars Channing Tatum, Rachel Nichols, Marlon Wayans, Sienna Miller, Ray Park, Joseph Gordon-Levitt, Dennis Quaid, Christopher Eccleston, Byung-hun Lee, Said Taghmaoui, Arnold Vosloo and Adewale Akinnuoye-Agbaje.

วันพุธที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2552

อาถรรพ์เลข666ฤกษ์ซาตานอภิสิทธิ์ถือพระปราบมารแถลงผลงาน

ทันทีมีการกำหนดชัดเจนว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานแถลงผลงานรัฐบาล 6 พรรค โอกาสทำงานครบ 6 เดือน วันที่ 6 สิงหาคม ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ก็มีการวิพากษ์วิจารณ์กันว่า เป็นวันอัปมงคล เนื่องจากตามหลักโบราณของชาวคริสต์ถือว่า การที่เลข 6 เรียงกัน 3 ตัวพร้อมกันคือ 666 หมายถึงรหัสลับของซาตาน ที่จะกลับมาครองโลกพยายามทำลายพระเจ้าเพื่อที่จะเป็นสถาปนาเป็นพระเจ้าองค์ใหม่ ทำให้โลกถูกความชั่วครอบงำ และความดีจะสูญสิ้นไป

ก็ได้รับการแถลงไขจากนายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ว่า สาเหตุที่รัฐบาลแถลงข่าววันเลข 666 ตัวเช่นนี้ก็เพื่อสะท้อนให้เห็นว่า รัฐบาลพยายามจะกำจัดและต่อสู่ก้บความชั่วร้ายแล้วชนะนำสิ่งที่ดีกว่ากลับคืนมา

ขณะที่นายอภิสิทธิ์ก็บอกว่า "ไม่กลัวเพราะมีพระปราบมารอยู่แล้ว" ด้านนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่ได้ตั้งใจให้กำหนดวันที่ตรงกับรหัสซาตาน แต่เมื่อมันตรงกันก็ดีเพราะจะตรงกับชื่อหนังคือ The Omenจะได้ดังเหมือนหนัง

อย่างไรก็ตามอาถรรพ์เลข 666 ได้เคยวิจารณ์กันมาแล้วเมื่อวันที่ 6 เดือน 6 (มิถุนายนหรือมีนาคมตามปฏิทินของยิว) ปี 2006 ซึ่งเป็นช่วงก่อนที่จะยึดอำนาจปี 2549 ซึ่งนายสนธิ สารธรรม ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับศาสนาคริสต์ ก็ได้กล่าวไว้ว่า "วันนี้ (06/6/2006) อาจจะมีการก่อการร้ายระดับโลก เกิดการจลาจล หรือมีกระแสก่อความไม่สงบครั้งใหญ่ ก็อยากฝากไว้ว่าอย่างมงายจนเกินไป"

ขณะที่อาจารย์เก่งกาจ จงใจพระ หมอดูชื่อดัง ซึ่งเชี่ยวชาญเกี่ยวกับตัวเลข ก็ได้กล่าวในครั้งนั้นว่า สำหรับทางไทยแล้ว เลข 6 ก็คือดาวศุกร์ ซึ่งดาวศุกร์ก็เป็นดาวที่ดี ดังนั้นเลข 6 จึงเป็นเลขที่ดี จะตรงข้ามกันกับความเชื่อของคริสต์ และวันที่ 6 เดือน 6 ปี 2006 นั้น สำหรับปีนี้จะตรงกับวันอังคาร อยู่ในเดือนมิถุนายน ก็ยังถือว่าเป็นวันที่ดี ไม่ร้ายแรงอะไร แต่ไม่เหมาะจะจัดงานมงคลเท่านั้น

แต่ตามหลักพุทธศาสตร์แล้ววันที่ทำดี คิดดี พูดดี นั้นแหละคือวันดี วันเวลา ฤกษ์ยามจะทำอะไรได้

ร้านสหกรณ์กรุงเทพ4สาขาจัดกิจกรรมพิเศษวันแม่

น.ส.ราตรี วิทยากุล ผู้จัดการร้านสหกรณ์กรุงเทพจำกัด สาขาสาขาบางลำพู เปิดเผยว่า เนื่องใน “วันแม่แห่งชาติ” วันที่ 12 สิงหาคม 2552 นี้ ร้านสหกรณ์กรุงเทพจำกัด ทั้ง 4 สาขา คือ สาขาพระปิ่นเกล้า ถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้า แขวงอรุณอมรินทร์ สาขาบางลำพู เขตพระนคร สาขาเอกมัย ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ และสาขาลาดหญ้า ถนนลาดหญ้า เขตคลองสาน

จัดกิจกรรมพิเศษมอบของกำนัลให้แม่มากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่สาขาบางลำพู มีการตรวจวัดสายตาฟรีและแจกแว่นตาให้กับแม่ พร้อมประกวดแข่งขันร้องเพลง”ค่าน้ำนม” ชิงรางวัล และสามารถหาซื้อสินค้าโอท็อปจากกลุ่มแม่บ้าน กระเข้าสุขภาพ ไปไหว้แม่ได้ราคาพิเศษ หรือจะตรวจสอบรายละเอียดได้ที่
http://www.bangkokco-op.com/

วันอังคารที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2552

พันท้ายนรสิงห์ปฏิเสธอภัยโทษขณะทักษิณถวิลหา

แปลกแต่จริงพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ชื่อว่าเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี ถูกศาลตัดสินจำคุก 2 ปีจากคดีที่ดินรัชดา แทนที่จะยอมรับคำตัดสินรับโทษตามกระบวนการยุติธรรม ตามหลักสากลของประเทศประชาธิปไตยทั่วไปที่ให้ความสำคัญและยอมรับคำตัดสินของศาล แต่พ.ต.ท.ทักษิณหาเป็นเช่นนั้นไม่ กลับเร่ร่อนเป็นสัมภเวสีอยู่ต่างประเทศ เป็นนักโทษหนีคดี

ขณะเดียวกันก็กล่าวให้ร้ายกระบวนการยุติธรรม ขณะเดียวกันสนับสนุนให้กลุ่มคนเสื้อแดงล่าชื่อเพื่อถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้กับตัวเองทั้งๆที่ยังไม่ได้รับโทษ

ทำให้หวนนึกถึง "พันท้ายนรสิงห์" หามีพฤติกรรมเช่น พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่ง "พันท้ายนรสิงห์" มีนามเดิมว่า สิงห์ แต่ก่อนท่านก็เป็นนักมวยที่เก่งมากและก็เคยขึ้นชกกับพระเจ้าเสือมาแล้ว แต่ว่าเสมอกัน พระเจ้าเสือรู้สึกประทับใจจึงให้เข้ารับราชการเป็นมหาดเล็ก แล้วเลื่อนขึ้นมาเป็นราชองครักษ์

พันท้ายนรสิงห์ เป็นนายท้ายเรือพระที่นั่งเอกไชยอยู่ในรัชสมัยสมเด็จพระสรรเพชญ์ ที่ ๘ (พระเจ้าเสือ) ได้รับ ยกย่องว่าเป็นผู้มีความซื่อสัตย์สุจริต จงรักภักดีและรักษาระเบียบวินัยยิ่งชีวิต

เรื่องราวของพันท้ายนรสิงห์ปรากฏ อยู่ในพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาฉบับต่างๆ ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ใน พ.ศ.๒๒๔๖ - ๒๒๕๒ สมเด็จพระสรรเพชญ์ ที่๘ ประพาสปากน้ำสาครบุรี (ปัจจุบันคือจังหวัดสมุทรสาคร) เพื่อทรงเบ็ด ด้วยเรือพระที่นั่งเอกไชย มีพันท้ายนรสิงห์เป็นนายท้าย พันท้ายนรสิงห์เป็นชาวบ้านนรสิงห์ แขวงเมืองอ่างทอง การเสด็จประพาสปากน้ำสาครบุรีในครั้งนี้ เมื่อเรือพระที่นั่งไปถึงตำบลโคกขามคลองบริเวณดังกล่าวมีความคดเคี้ยวมาก พันท้ายนรสิงห์พยายามคัดท้ายเรือพระที่นั่งอย่างระมัดระวังแต่ไม่อาจหลบเลี่ยงอุบัติเหตุได้ หัวเรือพระที่นั่งชนกิ่งไม้ใหญ่หักตกลงไปในน้ำ

พันท้ายนรสิงห์รู้โทษดีว่า ความผิดครั้งนี้ถึงประหารชีวิตตามโบราณราชประเพณี ซึ่งกำหนดว่าถ้าผู้ใดถือท้ายเรือพระที่นั่งให้หัวเรือพระที่นั่งหัก ผู้นั้นถึงมรณะโทษให้ตัดศีรษะเสียจึงกราบทูลพระกรุณาน้อมรับโทษตามพระราชประเพณี สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ ๘ ทรงพิจารณาเห็นว่าอุบัติเหตุครั้งนี้เป็นการสุดวิสัยมิใช่ความประมาท จึงพระราชทานอภัยโทษให้ แต่พันท้ายนรสิงห์กราบบังคมยืนยันขอให้ตัดศีรษะตนเพื่อรักษาขนบธรรมเนียมในพระราชกำหนดกฎหมาย เป็นการป้องกันมิให้ผู้ใดครหาติเตียนพระเจ้าอยู่หัวได้ว่าทรงละเลยพระราชกำหนดของแผ่นดินและเพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างสืบไป พระองค์ทรงโปรดให้ฝีพายทั้งปวงปั้นมูลดินเป็นรูปพันท้ายนรสิงห์ แล้วให้ตัดศีรษะรูปดินนั้นเพื่อเป็นการทดแทนกัน แต่พันท้ายนรสิงห์ยังบังคมกราบทูลยืนยันขอให้ประหารตน

แม้สมเด็จพระสรรเพชญ์ ที่ ๘ จะทรงอาลัยรักน้ำใจพันท้ายนรสิงห์เพียงใดก็ทรงจำพระทัยปฎิบัติตามพระราชกำหนด ดำรัสสั่งให้เพชฌฆาตประหารพันท้ายนรสิงห์แล้วโปรดให้ตั้งศาลสูงประมาณเพียงตา นำศีรษะพันท้ายนรสิงห์กับหัวเรือพระที่นั่งเอกไชยซึ่งหักนั้น ขึ้นพลีกรรมไว้ด้วยกันบนศาล แล้วทรงพระราชดำริว่าคลองโคกขามคดเคี้ยวนักไม่สะดวกต่อการเดินเรือ บางครั้งชาวเมืองต้องเดินเรืออ้อมเป็นที่ลำบากยิ่ง สมควรจะขุดลัดตัดตรง เมื่อขุดเสร็จจึงได้รับพระราชทานนามว่า "คลองสนามไชย" ต่อมาเปลี่ยนเป็น "คลองมหาชัย"ทั้งนี้เพื่อเป็นการรำลึกถึงพันท้ายนรสิงห์ข้าหลวงเดิมซึ่งเป็นคนซื่อสัตย์ มั่นคง ยอมเสียสละชีวิตโดยไม่ยอมเสียพระราชประเพณี กรมศิลปากรได้ดำเนินการจัดสร้างศาลพันท้ายนรสิงห์ขึ้น อยู่ถัดจากศาลเก่าที่พังลงไม่มากนัก โดยกันอาณาบริเวณรอบๆ ศาลไว้ (ที่มา http://www.navy22.com/smf/index.php?topic=15654.0)

พันท้ายนรสิงห์มีโทษถึงประหารชีวิตยังกราบบังคมยืนยันขอให้ตัดศีรษะตนเพื่อรักษาขนบธรรมเนียมในพระราชกำหนดกฎหมายไว้ ขณะที่พ.ต.ท.ทักษิณมีโทษเพียงจำคุก 2 ปี กลุ่มคนเสื้อแดงเข้าชื่อถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ แล้ววิญญูชนอนุชนรุ่นหลังจะใช้หลักอันใดในการรักษาชาติ ก็ได้แต่ปลงสังเวชอะนะ "กัมมุนา วัตติ โลโก"

วันจันทร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2552

อภิสิทธิ์แจกพระพุทธเจ้าปางชนะมารวันเกิดแก้เคล็ด

ทั้งพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ต่างก็เป็นชาวพุทธด้วยกันทั้งคู่ ส่วนใครจะถึงพุทธะหรือดวงตาเห็นธรรมมากน้อยกว่ากันก็ขึ้นอยู่กับกิเลสที่เกาะกุมจิตของแต่ละคน

และก็เป็นธรรมเนียมของคนทั่วไปมักจะจัดงานคล้ายวันเกิดหรือ "เบิร์ดเดย์" อย่างเช่นที่ผ่านมาอย่างเช่น พ.ต.ท.ทักษิณ ก็มีกลุ่มคนเสื้อแดงจัดงานวัน

งานเกิดแซยิดครบรอบ 60 ปีเมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา และในงานก็มีพิธีกรรมทางศาสนาทั่วประเทศ แต่จุดน่าสนใจอยู่ที่วัดแก้ฟ้า อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ได้นิมนตร์พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ จำนวน 109 รูป สวดถอนวิบากกรรม สวดแก้บ่วงกรรม ปลดกรรม สวดบังสุกุลตาย บังสุกุล ให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ เห็นบอกว่ามี
การทำพิธี “หงายบาตร” ด้วย และมีการวิจารณ์กันตามมาว่าเป็นพุทธศาสตร์หรือไสยศาสตร์


ขณะเดียวกันนายอภิสิทธิ์ก็ได้กล่าวในเชิงอวยพรให้กับพ.ต.ท.ทักษิณว่า "ถ้าหากท่านดวงตาเห็นธรรม ก็คงจะมีความสุขมากขึ้น" หลักจากนั้นก็มีการนำข้อความไปโพสต์ในเว็บไซต์ทวิตเตอร์ดังสนั่นตามมา

ส่วนวันเกิดของนายอภิสิทธิ์คือวันที่ 3 ส.ค.ซึ่งครบรอบ 45 ปี เมื่อเวลา 06.00 น. ได้นิมนต์พระจากวัดดาวดึงส์ย่านบางยี่ขัน 9 รูป มาทำพิธีทำบุญตักบาตร ที่บ้านพักในซอยสวัสดี (สุขุมวิท 31) และเป็นที่น่าสังเกตุว่านายอภิสิทธิ์ได้มอบหมายให้แม่บ้านนำพระเครื่อง “พระพุทธเจ้าปางชนะมาร” ใส่มาในตะกร้า
หวายผูกโบว์สีฟ้าและถุงใส่พระเครื่องก็เป็นสีฟ้าเช่นกัน โดยด้านหน้ากล่องพระเครื่องเขียนว่า “พระพลังแผ่นดิน ปกบ้านคุ้มเมือง ชาวประชาไทยร่มเย็นเป็นสุข” นำมาเเจกให้กับทหาร ตำรวจที่เดินทางไปปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัย พร้อมถึงสื่อมวลชนที่ติดตามไปทำข่าวอยู่หน้าบ้านเพื่อเป็นศิริมงคล

นายอภิสิทธิ์ได้กล่าวถึงสิ่งที่อยากได้ในวันเกิดว่า ตนทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี สิ่งที่ต้องการเห็นคือทำอย่างไรให้บ้านเมืองสงบสุขและคนไทยมีความสุข หมายถึงเศรษฐกิจฟื้นตัว สังคมดีขึ้น การเมืองเป็นประชาธิปไตยที่มีวุฒิภาวะ ซึ่งเป็นหน้าที่ของตน แต่ขณะเดียวกัน ถ้าสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้ในปีหน้า ตนก็จะมีความสุข และส่วนตนจะทุ่มเททำงานหนักมากยิ่งขึ้น ส่วนที่คนเสื้อแดงแต่งชุดดำไว้ทุกข์นั้น ใครอยากจะทำอะไรก็ทำได้ทั้งนั้น ไม่มีปัญหา ตนเป็นคนใจกว้างอยู่แล้ว และชั่วที่เดินทางไปร่วมประชุมที่รัฐสภาก็ได้มีผู้แทนจากพรรคร่วมรัฐบาล ส.ส.และส.ว.ได้เข้าอวยพรวันเกิด ซึ่งนายอภิสิทธิ์ได้มอบพระเครื่อง “พระ
พุทธเจ้าปางชนะมาร” เป็นของขวัญทุกคน


ขณะที่กลุ่มคนเสื้อแดงก็ได้จัดกิจกรรมอวยพรวันเกิดให้กับนายอภิสิทธิ์ตามจังหวัดต่างเช่นกัน แต่ผู้ร่วมกิจกรรมจะสวมเสื้อดำ เผาหุ่นจำลอง ตั้งโลงศพไร้ญาติ ประดับด้วยพวงหรีด พร้อมเปิดเพลงมอญร้องไห้สลับกับการรำหน้าโรงศพจำลอง และได้ทำพิธีสะกดวิญญาณลงหม้อปิดผ้ายันต์ จากนั้นได้ทำการแห่โรง
ศพ และหุ่นจำลองนายอภิสิทธิ์ ไปบริเวณแยกพระราม 9 – อสมท. เพื่อทำพิธีเผาพริกเผาเกลือสาปแช่ง และฌาปนกิจ หุ่นและโรงศพจำลอง เป็นเสร็จพิธี


แม้นว่าคนทั่วไปจะมองว่าการกระทำของกลุ่มคนเสื้อแดงครั้งนี้ตั้งอยู่บนฐานจิตของอกุศลจิตที่มีความโกรธครอบงำ แต่คนมีปัญญากลับมองว่านี้เป็นการเตือนสติให้รำลึกถึงมรณสติ แม้นแต่พระพุทธเจ้าก็ยังทรงตรัสว่าพระองค์ทรงรำลึกถึงความตายเนื่องนิตย์ ทำให้ไม่ตั้งอยู่ในความประมาท ประกอบกรรมทำชั่ว
ขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ก็เป็นคนหนักแผ่นดิน หรือมีตำแหน่งก็ไม่มุ่งหน้าโกงกินบ้านเมือง เพราะชีวิตคนเรานั้นไม่แน่นอนจะตายวันตายพรุ่งก็ยังไม่รู้


ดังนั้นใครจะดวงตาเห็นธรรมเนื่องในวันเกิดของบุคคลทั้งสองนี้ก็ขึ้นอยู่กับสติปัญญาของแต่ละบุคคลเถิด

Google