วันอังคารที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
วันจันทร์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
วันอาทิตย์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
วันเสาร์ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
วันศุกร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
วันพุธที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
ยูเนสโกฉลองวันวิสาขะอธิการบดีมจรบรรยายพิเศษ
เว็บไซต์มจรรายงานว่า กรุงปารีส ฝรั่งเศส 20 พฤษภาคม 2554: พระธรรมโกศาจารย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย พร้อมคณะได้เดินทางไปยังกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เพื่อบรรยายพิเศษในโอกาสที่องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเนสโกร่วมกับกลุ่มประเทศเอเซียแปซิฟิก ประจำยูเนสโก (ASPAC) 48 ประเทศ พร้อมใจกันจัดเฉลิมฉลอง วันวิสาขบูชา วันสำคัญสากลของโลก โดยมีประเทศที่ได้รับเชิญให้เป็นวิทยากรบรรยายที่ห้องประชุมสำนักงานใหญ่ องค์การยูเนสโก 6 ประเทศ 6 ประเทศ ได้แก่ อินเดีย ศรีลังกา ปากีสถาน จีน กัมพูชาและไทย จัดประชุมวิชาการเรื่อง “Contributions of Buddha’s Teaching to Universality, Humanism and Peace” เพื่อฉลองวาระครบรอบ 2,600 ปีการตรัสรู้ของสมเด็จพรสัมมาสัมพุทธเจ้า ณ สำนักงานใหญ่องค์การยูเนสโก กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดยมีนายวีรพันธุ์ วัชราทิพย์ เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงปารีส ถวายการต้อนรับ
การจัดประชุมวิชาการครั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงวัฒนธรรม ได้อาราธนา พระธรรมโกศาจารย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เป็นผู้บรรยายในนามประเทศไทย ในฐานะที่มีบทบาทด้านการจัดประชุมชาวพุทธนานาชาติเนื่องในวันวิสาขบูชาโลกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการเข้าร่วมบรรยายในครั้งนี้ ถือเป็นวาระสำคัญในการส่งเสริมบทบาทของประเทศไทยในเวทีระหว่างประเทศ โดยเฉพาะในปีนี้ ประเทศไทยได้เป็นประธานกลุ่มเอเซียแปซิฟิกในยูเนสโกและเป็นสมาชิกคณะกรรมการมรดกโลก
การประชุมเริ่มขึ้น เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุมขององค์การยูเนสโก โดยนายวีรพันธ์ วัชราทิพย์ เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงปารีส ในฐานะประธานกลุ่มเอเชียแปซิฟิก ได้กล่าวสุนทรพจน์ หลังจากนั้น ทูตานุทูตจากประเทศสมาชิกได้ขึ้นแสดงปาฐกตามลำดับ
พระธรรมโกศาจารย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในฐานะผู้แทนประเทศไทย ได้บรรยายใจความว่า “พระพุทธศาสนาที่มีคุณูปการต่อประชาคมโลก ในฐานะที่เป็นศาสนาแห่งสันติภาพ ชาวโลกให้ความสำคัญต่อพระพุทธศาสนา ดังจะเห็นไดจากการที่องค์การสหประชาชาติได้ยกย่องให้วันวิสาขบูชาเป็นวันสำคัญสากลของโลก และในปีนี้ก็มีวาระพิเศษคือครบรอบ 2,600 ปี แห่งการตรัสรู้ขององค์สมเด็จพรสัมมาสัมพุทธเจ้า กระทั่งประเทศกลุ่มเอเชียแปซิฟิกได้กำหนดจักการเฉลิมฉลองที่สำนักงานใหญ่องค์การยูเนสโกในวันนี้ นับเป็นประวัติศาสตร์ของวงการพระพุทธศาสนาที่ได้แสดงบทบาทที่สำคัญให้ชาวโลกได้ประจักษ์ แต่สิ่งที่ทุกฝ่ายต้องคำนึงถึง คือการนำหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาไปสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมเพื่อให้สังคมได้มีสันติภาพอย่างแท้จริงโดยการให้ทุกฝ่ายช่วยกันเผยแผ่หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาให้กว้างขวางออกไป ประเทศไทยได้ให้ความสำคัญในด้านนี้ โดยการได้รับฉันทามติจากชาวพุทธทั่วโลกให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดประชุมชาวพุทธนานาชาติเนื่องในวันวิสาขบูชาวันสำคัญสากลของโลก โดยเฉพาะในปีนี้ ที่ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดงานดังกล่าวขึ้นระหว่างวันที่ 12-14 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีชาวพุทธจากนานาประเทศเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 5,000 คน ถือเป็นความยิ่งใหญ่ของการพระพุทธศาสนาที่ปรากฏต่อสายตาชาวโลกดังเหตุการณ์การประชุมชาวพุทธทั่วโลกที่ผ่านมาที่ประเทศไทย”
ในการฉลองวาระครบ 2,600 ปี แห่งการตรัสรู้ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ห้องประชุมของสำนักงานใหญ่องค์การยูเนสโกในครั้งนี้ นางอิรินา โบโกวา ผู้อำนวยการใหญ่องค์การยูเนสโก ผู้อำนวยการใหญ่องค์การยูเนสโก ได้เข้าร่วมและกล่าวปาฐกถาพิเศษให้กับชาวพุทธในประเทศกลุ่มเอเซียแปซิฟิกกว่า 300 ท่านฟังพร้อมกัน หลังจากการบรรยายของแต่ละประเทศจบลง ผู้เข้าร่วมการประชุมทางวิชาการได้ร่วมแสดงความคิดเห็นแลกเปลี่ยนทัศนคติต่อกันในหลักคำสอนทางพระพุทธศาสนาอย่างกว้างขวาง
ชมภาพเพิ่มเติมได้ที่ http://www.mcu.ac.th/site/news_in.php?group_id=1&NEWSID=7380
วันอังคารที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
ในหลวงทอดพระเนตรระดับน้ำเจ้าพระยา(คลิป)
เมื่อเวลา 15.56 น. วันที่ 24 พฤษภาคม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ จากอาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช ทรงฉลองพระองค์เชิ้ตแขนสั้นสีชมพู ลายกระต่าย พระสนับเพลาสีกากี ฉลองพระบาทสีดำ ไปยังท่าน้ำสมาคมศิษย์เก่าแพทย์ศิริราช ในพระบรมราชูปถัมภ์ โรงพยาบาลศิริราช เพื่อทอดพระเนตรระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา สร้างความปลื้มปีติแก่ประชาชนที่ได้มีโอกาสเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทเป็นอย่างยิ่ง
วันจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
Thailand got talent Finalคิดบวกสิปป์(TGT12)
การแสดงรอบ final ของ TGT12 ทีม "คิดบวกสิปป์" หรือ Thai Classic Dance ที่แนะนำให้โหวต
วันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
วันเสาร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
วันศุกร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
กลุ่มใยกล้วยบ้านป่าฝางเมืองพะเยา
ม.๒ ต.ห้วยแก้ว อ.ภูกามยาว จ.พะเยา
วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
จีน-ไทยถกอาหารปลอดภัยหลังแตงโมบึ้ม
สำนักข่าวซีอาร์ไอทางการของจีนรายงานว่า เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคมนี้ การประชุมกระชับความร่วมมือและแลกเปลี่ยนด้านเศรษฐกิจ การค้าระหว่างจีน-ไทยจัดขึ้นที่เมืองฝูโจว มณฑลฝูเจี้ยน ในประเด็น"ความปลอดภัยของอาหาร" เจ้าหน้าที่จากกระทรวงอุตสาหกรรม สมาคมอุตสาหกรรมอาหารไทย องค์การพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งสหประชาชาติ และเจ้าหน้าที่จากกรมเศรษฐกิจการค้าระหว่างประเทศมณฑลฝูเจี้ยน นักธุรกิจด้านการผลิตอาหารส่วนหนึ่งเข้าร่วมประชุม
นายเฮ่อ วาง หยัง รองอธิบดีเศรษฐกิจการค้าระหว่างประเทศมณฑลฝูเจี้ยนแถลงว่า ปัญหาความปลอดภัยของอาหารได้รับความสนใจเป็นอย่างยิ่ง หลายประเทศกำลังจัดมาตรฐานของอาหารเป็นกำแพงกีดกันเทคโนโลยีการค้าสำหรับประเทศกำลังพัฒนา ดังนั้น การยกระดับคุณภาพของอาหารเป็นภารกิจเร่งด่วนและจำเป็นต้องอย่างยิ่งที่จะทำให้วิสาหกิจผลิตอาหารก้าวไปสู่ระดับสากล
นายอนุสรณ์ เนื่องผลมาก อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่กระทรวงอุตสาหกรรมไทยระบุว่า จีนกับประเทศอาเซียนมีความร่วมมือในด้านอาหาร และการค้าผลิตผลการเกษตรอย่างดี ซึ่งเป็นประสบการณ์สำคัญต่อการพัฒนาในอนาคตต่อไป หวังว่า สองฝ่ายจะขยายร่วมมือในด้านความปลอดภัยอาหารนี้ให้กว้างขึ้น
การประชุมครั้งอยู่ในช่วงที่มีข่าวแตงโมจีนระเบิดพอดี
นายเฮ่อ วาง หยัง รองอธิบดีเศรษฐกิจการค้าระหว่างประเทศมณฑลฝูเจี้ยนแถลงว่า ปัญหาความปลอดภัยของอาหารได้รับความสนใจเป็นอย่างยิ่ง หลายประเทศกำลังจัดมาตรฐานของอาหารเป็นกำแพงกีดกันเทคโนโลยีการค้าสำหรับประเทศกำลังพัฒนา ดังนั้น การยกระดับคุณภาพของอาหารเป็นภารกิจเร่งด่วนและจำเป็นต้องอย่างยิ่งที่จะทำให้วิสาหกิจผลิตอาหารก้าวไปสู่ระดับสากล
นายอนุสรณ์ เนื่องผลมาก อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่กระทรวงอุตสาหกรรมไทยระบุว่า จีนกับประเทศอาเซียนมีความร่วมมือในด้านอาหาร และการค้าผลิตผลการเกษตรอย่างดี ซึ่งเป็นประสบการณ์สำคัญต่อการพัฒนาในอนาคตต่อไป หวังว่า สองฝ่ายจะขยายร่วมมือในด้านความปลอดภัยอาหารนี้ให้กว้างขึ้น
การประชุมครั้งอยู่ในช่วงที่มีข่าวแตงโมจีนระเบิดพอดี
วันพุธที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
It was Russia who supported Cambodia at the UN against Thailand
As UN Security Council Takes Up Ethiopia-Eritrea at Portugal's Request, Empty Thai Cambodia Talk
UNITED NATIONS, May 17 -- Alongside Yemen in this afternoon's Security Council consultations are two other conflicts: Ethiopia and Eritrea, and Thailand - Cambodia.
Portugal requested that the Department of Political Affairs provide the first briefing, based on reports of escalation received from its embassy in Addis Ababa, sources say, and the United States backed Portugal's request.
Numerous Council members were dismissive of the UN briefing about Thailand and Cambodia, given no little role the UN has in resolving that conflict. (Some say that UNESCO granting of a unilateral application for heritage status of border temples helped cause the conflict.)
On Monday evening, two Security Council members' political coordinators told Inner City Press that it was Russia, often described a blocking Council meetings, which provided the initial support for Cambodia's request for a formal meeting.
“This is actually bullets across borders, what the Security Council was formed for,” one of them said, contrasting it to recent Council action on Libya, and talks without action on “internal” conflicts in Yemen and Syria.
Another joked that if the Thai - Cambodia conflict were in Africa, the UN would be all over it.
Meanwhile, as the Council ended one of its Tuesday morning sessions, President Gerard Araud as has become his practice refused to take questions. He even read a press statement on Haiti -- only in French -- and refused to take questions on it.
Portugal's Ambassador Cabral consented to speak on camera, about North Korea sanctions. He dodged questions about what he called the “independent” panel.
Inner City Press asked him about reports that one of the experts on the panel, at the behest of the government of his country, was refusing to sign off on the report. “I've heard that,” Cabral said, then maintained again that these sanctions panel members are independent. There are allegations flying all in directions. Watch this site.
By Matthew Russell Lee
Inner City Press
UNITED NATIONS, May 17 -- Alongside Yemen in this afternoon's Security Council consultations are two other conflicts: Ethiopia and Eritrea, and Thailand - Cambodia.
Portugal requested that the Department of Political Affairs provide the first briefing, based on reports of escalation received from its embassy in Addis Ababa, sources say, and the United States backed Portugal's request.
Numerous Council members were dismissive of the UN briefing about Thailand and Cambodia, given no little role the UN has in resolving that conflict. (Some say that UNESCO granting of a unilateral application for heritage status of border temples helped cause the conflict.)
On Monday evening, two Security Council members' political coordinators told Inner City Press that it was Russia, often described a blocking Council meetings, which provided the initial support for Cambodia's request for a formal meeting.
“This is actually bullets across borders, what the Security Council was formed for,” one of them said, contrasting it to recent Council action on Libya, and talks without action on “internal” conflicts in Yemen and Syria.
Another joked that if the Thai - Cambodia conflict were in Africa, the UN would be all over it.
Meanwhile, as the Council ended one of its Tuesday morning sessions, President Gerard Araud as has become his practice refused to take questions. He even read a press statement on Haiti -- only in French -- and refused to take questions on it.
Portugal's Ambassador Cabral consented to speak on camera, about North Korea sanctions. He dodged questions about what he called the “independent” panel.
Inner City Press asked him about reports that one of the experts on the panel, at the behest of the government of his country, was refusing to sign off on the report. “I've heard that,” Cabral said, then maintained again that these sanctions panel members are independent. There are allegations flying all in directions. Watch this site.
By Matthew Russell Lee
Inner City Press
จีนผวาสารเคมีค้างผลไม้หลังแตงโมระเบิด
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันพุธ (18 พ.ค.) ว่าปรากฏการณ์ประหลาดในไร่แตงโมประมาณ 280 ไร่ ในเมืองตันหยาง มณฑลเจียงซู ทางตะวันออกของจีน เสียหายย่อยยับ เมื่อผลแตงโมเกิดปริแตก หลังจากเกษตรกรผู้ปลูก ฉีดพ่นฟอร์คลอเฟนูรอน ซึ่งเป็นสารเร่งขนาดผลไม้นั้น ถูกมองว่าเป็นอีกสัญญาณหนึ่งที่ชี้ว่าภาคเกษตรกรรมของจีน เสพติดการใช้สารเคมี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังคงล้มเหลวในการกำกับดูแล
"ธัญญ่า-เป็ก"ยันหย่ายอมถอนฟ้อง"พิงค์กี้"
นายสัณชัย เองตระกูล หรือ "เป็ก" กับ นางธัญญาเรศ หรือ "ธัญญ่า" แถลงข่าวยอมถอนฟ้องที่เรียกเงิน 124 ล้านบาท และ 20 ล้านบาท กับ "พิงค์กี้"สาวิกา ไชยเดช แต่ยืนยันยังหย่า ณ ร้านบีบีคลินิก ทองหล่อ กทม.วันที่ 18 พ.ค.
วันอังคารที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
วันจันทร์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
วันอาทิตย์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
ไทยฉลองโบสถ์วัดกูเมืองอุดรมีชัยกัมพูชา
ชาวไทยเดินทางไปฉลองโบสถ์วัดกู เมืองอุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ที่สร้างด้วยเงินส่วนใหญ่เป็นเงินหลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ จากก จ.สุรินท์ วันที่ 19 เมษายน 2551
วันพฤหัสบดีที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
สังฆราชเขมรเทิดในหลวงนำธรรมพัฒนาประเทศ
เมื่อเวลา 09.00น. วันที่ 12 พ.ค. ที่ห้องประชุมอาคาร มวก. 48 พรรษา มหาวชิราลงกรณ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา มีการประชุมชาวพุทธนานาชาติ เนื่องในวันวิสาขบูชาโลก ประจำปี 2554 ซึ่งมีสมเด็จพระสังฆราช ประมุขสงฆ์ และพระสงฆ์ กว่า 1,000 รูป และพุทธศาสนิกชนอีกกว่า 700 คน จาก 85 ประเทศทั่วโลกเข้าร่วมประชุม โดยสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ คณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นประธานในการต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุม
พระธรรมโกศาจารย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาฯ ในฐานะประธานกรรมการดำเนินการจัดประชุมชาวพุทธนานาชาติ กล่าวว่า ช่วงเช้าของการประชุมผู้นำชาวพุทธนานาชาตินั้น ช่วงของการกล่าวสุนทรพจน์ได้มีการกล่าวชื่นชมพระบาทสมเด็จอยู่หัว เช่น สมเด็จพระสังฆราชเทพวงศ์ และสมเด็จพระสังฆราชบัวคลี่ จากประเทศกัมพูชา ได้กล่าวชื่นชมพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงประยุกต์ใช้หลักธรรมในการพัฒนาประเทศ ขณะเดียวกัน นายมหินทา ราชปักษา ประธานาธิบดีของศรีลังกา ได้ส่งสาสน์เข้าร่วมประชุม โดยมีใจความยกย่องพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงใช้พุทธธรรมในการพัฒนาประเทศ พร้อมทั้งได้ถวายพระพรเนื่องในวโรกาสเจริญพระชนมายุ 84 พรรษา ด้วย
ต่อมาเวลา 13.00น. มีพิธีเปิดการประชุมอย่างเป็นทางการ โดยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จแทนพระองค์ไปทรงเป็นประธานเปิดการประชุมชาวพุทธนานาชาติ
วันพุธที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
Robbie Williams อึ้ง!เมื่อเจอ"เบลล์"นันทิตา
Robbie Williamsพูดถึง"เบล"นันทิตาผู้เข้าประกวดThailand's Got Talent ในรายการ Take That - Life4You
ดอน ปรมัตถ์วินัยถวายคำแนะนำพระธรรมทูต
นายดอน ปรมัตถ์วินัย อดีตเอกอัครราชทูตและผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติถวายคำแนะนำพระธรรมทูต
วันอังคารที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
พุทธวจนสนทนา-เรื่องแก้กรรม
พระอาจารย์คึกฤทธิ์ โสตฺถิผโล พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี และแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต สนทนาธรรมในหัวข้อเรื่อง รู้เช่นเห็นชาติ รู้แจ้งเห็นจริง และกฏแห่งกรรมในวันเสาร์ที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๕๒ เวลา ๑๓.๓๐ ๑๖.๐๐ น. ณ เสถียรธรรมสถาน
AlJazeera-Thai PM calls early elections
AlJazeera - Thailand is entering another period of political uncertainty. Abhisit Vejjajiva, the prime minister, has dissolved parliament and called for an early general election on July 3.
หึงโหด!ยิงหนุ่มเฝ้าร้านเกมส์A&U CAFEดับ
นายวสินหรือคิว แซ่อึ้ง อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1016/22 ซอยเทอดไทย 22 แขวงตลาดพลู เขตธนบุรี กทม. ลูกจ้างดูแลร้านเกมส์ A&U CAFE เลขที่ 1217 ถนนเทอดไทย ปากซอย 29 แขวงตลาดพลู เขตธนบุรี กทม. ถูกยิงเสียชีวิตในร้านเมื่อเวลา 05.30 น.วันที่ 10พ.ค. คามปมชู้สาว
วันจันทร์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
วันอาทิตย์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
Report on Thai ASEAN fashion
Fashion Fair and Bangkok International Leather Fair 2011 held during April 20-25 at Impact Arena, Muang Thong Thani in Bangkok .
วันเสาร์ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
แซมมี่คว้ามงกุฎมิสทิฟฟานี่ประจำปี2011
"แซมมี่"ศิรภัสสร อัฒยกร นักศึกษานิเทศศาสตร์ชั้นปีที่ 3 จากมหาวิทยาลัยรามคำเเหง คว้าตำเเหน่งมิสทิฟฟานี่ 2011
วันศุกร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
เหลือง-แดงคอดคอเข้าวัดหนองปืนแตก
วัดหนองปืนแตก ต.สองพี่น้อง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี นายธานินทร์ ชื่นใจ แทรกภาพเหลือง-แดง วัดแก้วสุทธาราม วัดนาพรม งานปูนปั้นวัดสระบัว ไม่ชอบฝรั่ง ศาลาบุญประครอง วัดมหาธาตเมืองเพชร ฐานพระพรหมทางขึ้นเคเบิลคาร์เขาวัง มีงานปูนปั้นอิงการเมืองไทย
วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
งาน90ปีพล.อ.ชาติชายชวนเที่ยวบางนกแขวก
จัดอย่างยิ่งใหญ่สำหรับงาน "90 ปี พลเอกชาติชาย รำลึก…เอกบุรุษ ชาติอาชาไนย Tomorrow Never Dies" ณ ห้องบางกอก คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ เอ 1 ชั้น 22 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ (ถ.พระราม 1) เมื่อวันที่ 6 พ.ค. 2554 เนื่องในวันคล้ายวันถึงแก่อสัญกรรมของ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรี ภายใต้การนำของนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ในฐานะประธานการจัดงานและนายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ ประธานมูลนิธิ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ
"หากท่านยังมีชีวิตอยู่ ปีนี้เป็นปีที่ พล.อ.ชาติชาย จะมีอายุครบรอบ 90 ปี จึงมีแนวคิดจัดงานครั้งนี้ขึ้น เนื่องจาก พล.อ.ชาติชาย เป็นบุคคลสำคัญต่อประวัติศาสตร์ การเมือง และเศรษฐกิจของประเทศไทย" นายสุวัจน์ชี้แจง
ประวัติพล.อ.ชาติชาย
หากพลิกปูมประวัติของพล.อ.ชาติชาย เกิด 5 เมษายน 2465 ณ ตำบลพลับพลาไชย จังหวัดพระนคร เป็นบุตรของจอมพลผิน ชุณหะวัณ กับคุณหญิงวิบูลย์ลักษม์ ชุณหะวัณ และน้อยคนนักจะรู้ว่าท่านนั้นเดิมชื่อ"สมบูรณ์ ชุณหะวัณ"
พล.อ.ชาติชาย เข้ารับการศึกษาที่โรงเรียนเทพศิรินทร์ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า โรงเรียนนายทหารม้า และโรงเรียนยานเกราะกองทัพบก (อาร์เมอร์สคูล) มลรัฐเคนทักกี สหรัฐอเมริกา
เนื่องจากจอมพลผินบิดาได้เข้ามาเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์การเมืองไทยตั้งแต่เปลี่ยนแปลงการปกครองและได้ร่วมในการรัฐประหารในปี พ.ศ.2490 และในปี พ.ศ.2494 ส่งผลให้พล.อ.ชาติชายต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการรัฐประหารขณะมียศเพียงแค่ร้อยตรีและร้อยเอกเท่านั้น หลังจากนั้นได้ถูกแต่งตั้งให้ไปเป็นทูตหลายประเทศ
เมื่อกลับประเทศไทยก็ได้ออกมาเล่นการเมืองเต็มตัว เป็นร่วมผู้ก่อตั้งพรรคการเมือง 2 พรรค และได้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค คือ
พรรคชาติไทย และ พรรคชาติพัฒนา จนสามารถดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2531 เป็นรัฐบาลที่มีผล
งานจนมีชื่อเรียกที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายคือ นโยบาย "เปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า"
และมีชื่อที่เรียกเป็นที่รู้จักทั่วไปว่า "น้าชาติ" มีคำพูดติดปากเมื่อให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า "No Problem" หมายถึง "ไม่มีปัญหา" จนเป็นที่จดจำได้ทั่วไป ซึ่งศิลปินเพลงแอ๊ด คาราบาว ได้นำไปประพันธ์เป็นเพลงล้อการเมืองชื่อ "โนพลอม แพลม"และได้บริหารประเทศจนถึงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2534 และถึงแก่อสัญกรรม เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2541
พล.อ.ชาติชายสมรสกับท่านผู้หญิงบุญเรือน ชุณหะวัณ (สกุลเดิม โสพจน์) มีบุตรชายคือ นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ อดีตสมาชิกวุฒิสภา ส.ส.สัดส่วนพรรคประชาธิปัตย์ และบุตรสาวคือ วาณี ชุณหะวัณ (อดีตภริยานายระวี หงษ์ประภาส มีบุตรสาวชื่อ ปวีณา หงส์ประภาส)
ประวัติจอมพลผิน
หลายคนคงจะเข้าใจกันว่าต้นตระกูล "ชุณหะวัณ" เป็นคนเมืองกรุงคนซอยราชครู แต่มีน้อยคนเช่นกันจะรู้ว่าความจริงแล้วต้นตระกูลเป็นคนบางนกแขวก อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม เนื่องจากจอมพลผินพ่อของพล.อ.ชาติชาตินั้นเกิดที่ตำบลบางนกแขวก เป็นบุตรของนายไข่ และ นางพลับ ชุณหะวัณ ชาวสวนและแพทย์แผนโบราณ ที่มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน 8 คน ดูจากอาชีพของแม่ของจอมพลผินแล้วพ่ออนุมานได้ว่าเป็นคนพื้นที่บางนกแขวกโดยแท้หรือจะเป็นคนพื้นที่ใดน่าตามหาข้อมูลต่อไป
จอมพลผินได้รับการศึกษาชั้นต้นตามแบบเด็กชายไทยสมัยก่อน คือเรียนกับพระที่วัดโพธิ์งามที่อยู่ใกล้บ้านและกลายเป็นวัดประจำตระกูล วัดใหม่สี่หมื่น อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี วัดมหรรณพาราม วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพฯ ต้องฟันฝ่าอุปสรรคนานาจนได้เข้าเรียนในโรงเรียนนายสิบทหารบก กรมทหารที่ 4 จังหวัดราชบุรี เมื่อมีอายุได้ 16 ปีเท่านั้น
จอมพลผินมื่อจบหลักสูตรสามารถสอบไล่ได้คะแนนดีเยี่ยม จึงได้เลื่อนขั้นไปศึกษาต่อในโรงเรียนนายร้อยทหารบกจนจบ และได้พระราชทานยศเป็นนายร้อยตรี ประจำกรมทหารราบที่ 4 ราชบุรี หลังจากนั้นได้เข้าเรียนโรงเรียนเสนาธิการทหารบก เมื่ออายุ 37 ปีได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น "หลวงชำนาญยุทธศาสตร์" และ พ.ศ. 2472 ได้เลื่อนยศเป็นพันตรี
แม้จอมพลผินจะกราบถวายบังคมลาออกจากบรรดาศักดิ์เมื่อ พ.ศ. 2485 แต่ก็ยังรับราชการสืบมาจนได้เป็นผู้บัญชาการทหารบก และได้นำการรัฐประหารยึดอำนาจนายกรัฐมนตรี พล.ร.ต.ถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ พ.ศ. 2490 ได้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเช่นเป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร 2 สมัย ใน พ.ศ. 2496 และ
พ.ศ.2500
วิถีชีวิตของจอมพลผินนั้นนายปองพล อดิเรกสารหลานชายได้นำมาเขียนเป็นหนังสือชื่อ "ทหารชื่อผิน จากพลทหาร...สู่จอมพล" ได้เกริ่นไว้ว่า "ลูกชาวสวนบางนกแขวก จังหวัดสมทุรสงคราม ซึ่งเป็นคนเดียวในประวัติศาสตร์กองทัพไทยที่เริ่มชีวิตทหารจากยศต่ำสุดคือพลทหารไต่เต้าตามลำดับจนได้รับยศสูงสุดเป้นถึงจอมพล"
จอมพลผินสมรสกับคุณหญิงวิบุลลักสม์ ชุณหะวัณ (พ.ศ. 2440 - พ.ศ. 2497) มีบุตร-ธิดา 5 คน คือ คุณหญิงอุดมลักษณ์
ศรียานนท์ (พ.ศ. 2456 -) สมรสกับ พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ นางพร้อม ทัพพะรังสี (พ.ศ. 2458 - พ.ศ. 2542) สมรสกับ นายอรุณ ทัพพะรังสี เป็นมารดาของนายกร ทัพพะรังสี ท่านผู้หญิงเจริญ อดิเรกสาร (22 มกราคม พ.ศ. 2460 - )
สมรสกับ พล.ต.อ.ประมาณ อดิเรกสาร พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ (พ.ศ. 2463 - พ.ศ. 2541) สมรสกับ ท่านผู้หญิงบุญ
เรือน ชุณหะวัณ พูนสุข ชุณหะวัณ (พ.ศ. 2465 - ) และได้สมรสครั้งที่สองกับ นางสุภาพ ชุณหะวัณ มีบุตร 1 คน คือ นาย
ปรากรมศักดิ์ ชุณหะวัณ และเมื่อวันศุกร์ที่ 26 มกราคม 2516 จอมพลผินถึงแก่อสัญกรรมที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เมื่ออายุได้ 82 ปี 3 เดือน 13 วัน
ผลงานของจอมพลผินในพื้นที่บางนกแขวก
จอมพลผินและคนในตระกูล"ชุณหะวัณ" ได้ทนุทำรุงวัดโพธิ์งาม หมู่ที่ 2 ตำบลบางนกแขวก อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม ที่มีเจดีย์ใหญ่บรรจุอัฐิของบรรพบุรุษตระกูลชุณหะวันอยู่ที่วัดให้เป็นวัดประจำตระกูล สานต่อจากบิดาจนได้รับการยกย่องจากกรมศาสนาให้เป็นวัดพัฒนาตัวอย่างประจำอำเภอบางคนที วัดโพธิ์งามแห่งนี้เป็นวัดที่สวยงามวัดหนึ่งในลำน้ำแม่กลอง สมัยหนึ่ง เมื่อพ.ศ.2467 ระหว่างวันที่ 21-24 เมษายน 2467 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จฯโดยทางเรือและได้ประทับแรมที่วัดนี้ด้วย
นอกจากนี้ยังทนุทำรุงวัวัดเจริญสุขารามวรวิหาร จนได้รับการยกย่องเป็นวัดพัฒนาตัวอย่าง เมื่อพ.ศ.2514 สร้างโรงเรียนเมธี หากใครไปเที่ยวบางนกแขวกจะได้พบผลของจอมพลผินมากหมาย ทั้งนี้เพราะจอมพลผินนับได้ว่าเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงของชาวสมุทรสงครามบุคคลหนึ่ง
ประวัติโบสถ์แม่พระบังเกิด
นอกจากบางนกแขวกจำเป็นถิ่นกำเนิดของจอมพลผินที่น่าสนใจแล้ว ผู้ที่ไปเที่ยวบางนกแขวกนอกจากได้พบสถานที่ที่เกี่ยวกับวิถีพุทธแล้วยังจะได้พบวิถีคริสต์ด้วยอย่างเช่นโบสถ์แม่พระบังเกิดหรือ"อาสนวิหารแม่พระบังเกิด" ที่ชาวบ้านเรียกว่า "โบสถ์บางนกแขวก" เป็นโบสถ์คริสต์เก่าแก่อายุกว่า 100 ปี ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำแม่กลอง มีทัศนียภาพสวยงาม โดยเฉพาะช่วงเช้าหรือช่วงเย็นจะมีความงามเป็นพิเศษ ตั้งอยู่ที่หมู่ 7 ต.บางนกแขวก
ทั้งนี้มีความเป็นมาว่า เมื่อปี พ.ศ. 2390 ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว บรรดาสัตบุรุษได้ช่วยกันสร้างโบสถ์ขึ้นในที่
ดินของฟรังซิสโก ไล้ ชาวจีนที่ศรัทธาในศาสนาคริสต์ เมื่อแรกสร้างโบสถ์เป็นเรือนไม้ หลังคามุงจาก ตั้งชื่อตามสีแดงที่ทาโบสถ์ว่า "วัดศาลาแดง" บางคนก็เรียก "วัดรางยาว" ตามชื่อคลองส่งน้ำของชลประทานซึ่งอยู่บริวเวณวัดที่ชาวจีนขุดต่อกับแม่น้ำแม่กลองเพื่อนำ น้ำมาทำสวนผัก ขณะนั้นมีสัตบุรุษประมาณ 200 คน เมื่อจำนวนสัตบุรุษเพิ่มมากขึ้นจึงย้ายโบสถ์มาอยู่ที่ปากคลองดำเนินสะดวกในปี พ.ศ.2393 ตั้งชื่อใหม่ว่า "วัดแม่พระบังเกิด" เนื่องจากทำเลดี มีคลองดำเนินสะดวกเป็นเส้นทางคมนาคมทางน้ำที่สำคัญติดต่อกับกรุงเทพฯได้สะดวก
ในปี พ.ศ. 2433 ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว บาทหลวงเปาโลซัลมอน มิชชันนารี หรือคุณพ่อเจ้าอาวาส ได้สร้างโบสถ์หลังปัจจุบันขึ้น โดยได้รับสนับสนุนทั้งจากฝรั่งเศส และคณะมิสซังในปารีสกรุงโรมของประเทศอิตาลี่ รวมทั้งสัตบุรุษในกรุงเทพฯ ส่วนวัสดุของวัดหลังเก่าได้ถูกนำไปสร้างไว้ที่คลองขวางล่าง โดยมีนามชื่อว่า "วัดพระแม่องค์อุปถัมภ์" หรือที่ชาวบ้าน เรียกว่า "วัดใน"
ทั้งนี้เพราะอาสนวิหารแม่พระบังเกิดเคยเป็นศูนย์กลางของชาวคริสต์ นิกายคาทอลิกภาคตะวันตกและภาคใต้ ดังนั้นจึงมีการตกแต่งโบสถ์อย่างวิจิตรสวยงามกว่าโบสถ์ของนิกายอื่นอย่าง โปรเตสแตนต์ โบสถ์มีขนาดใหญ่ตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมแบบกอทิก (Gothic) มียอดแหลมของอาคารพุ่งขึ้นไปบนฟ้า ซึ่งเป็นลักษณะเด่นของสถาปัตยกรรมแบบนี้
ภายในเป็นห้องโถงกว้างขวางประดับด้วยภาพเขียน กระจกสี (Stained Glass) จากฝรั่งเศส แต่ละมุมประดับด้วยรูปปั้นสีทองอร่ามองค์พระเยซูและรูปของนักบุญสำคัญต่างๆ ที่ดูมีเอกลักษณ์ มีเรื่องเล่าของพระนางมารีพรหมจารีย์จากพระคัมภีร์ และภาพของบรรดานักบุญชายหญิง มีรูปปั้น ธรรมาสนเทศน์ อ่างล้างบาป ขาเทียนลักาณะต่างๆ และรูปแกะสลักบรรยายเกร็ดประวัติในพระคัมภีร์คริสต์ศาสนา
ข้างโบสถ์เป็นปากคลองดำเนินสะดวก ซึ่งมาบรรจบกับแม่น้ำแม่กลอง ทำให้เกิดชุมชนริมน้ำบางนกแขวกขึ้นข้างโบสถ์นั้นเอง ชุมชนนี้เคยเฟื่องฟูเมื่อหลายสิบปีก่อน ทุกวันนี้ยังเหลือร่องรอยให้เห็น เช่น ห้องแถวร้านค้าปลูกขนานไปกับแม่น้ำ ปัจจุบันเป็นที่อยู่อาศัยมากกว่าค้าขาย นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นชมบรรยากาศริมน้ำได้ จะเรียกหาโอเลี้ยง ชาดำเย็นตามร้านที่ยังเปิดขายอยู่ดับกระหายก็เยี่ยม
ต่อมาในปี พ.ศ. 2537 สังฆมณฑลราชบุรีได้ทำการบูรณะ ซ่อมแซมวัดครั้งใหญ่ เพื่อฉลองครบ 100 ปี และมีพิธีเปิดอย่างเป็นทาง
การเมื่อวันที่ 11 ก.พ. 2439 ดังนั้น อาสนวิหารพระแม่บังเกิดแห่งนี้ จึงเป็นโบสต์ที่สวยงาม และเก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย
ระยะการเดินทางจากบ้านปลาทับทิมแม่กลองรีสอร์ทไปที่ อาสนวิหารแม่พระบังเกิด ระยะทางแค่ 300 เมตร ใกล้เพียงนิดเดียวและลานข้างหน้าทางเข้าอาสนวิหารแม่พระบังเกิดยังมีตลาดนัด ที่ใหญ่ที่สุดในตำบลบางนกแขวก มีผลไม้สดๆออกตามฤดูกาลจากชาวสวนนำมาจำหน่ายกันที่นี้ด้วย การเข้าชมควรติดต่อขออนุญาตจากบาทหลวงผู้รับผิดชอบก่อนล่วงหน้า
ชุมชนชาวคริสต์บางนกแขวก
พอจะอนุมาณได้ว่าชุมชนชาวคริสต์บางนกแขวก มีพัฒนาการมาตั้งแต่รัชกาลพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่บรรดาสัตบุรุษได้ช่วยกันสร้างโบสถ์ขึ้นในที่ดินของฟรังซิสโก ไล้ ชาวจีนที่ศรัทธาในศาสนาคริสต์ เมื่อแรกสร้างโบสถ์ขึ้นเป็นครั้กแรกและพัฒนามาเป็น"อาสนวิหารแม่พระบังเกิด"ที่สวยงานอย่างทุกวันนี้ และมีชุมชนชาวคริสต์อาศรัยอยู่บริเวณด้วยรอบอย่างหนาแน่น จนกระทั้งมีดาบตำรวจวสันต์ สุวรรณฉวี(นามสกุลเดี่ยวกับว่าที่ร้อยตรีไพโรจน์) ดำรงตำแหน่งประธานชุมชนวัดคริสต์ หมู่ที่ 7 ในเขตเทศบาลตำบลบางนกแขวก มีวิสาหกิจชุมชนแม่บ้านวัดคริสต์บางนกแขวก เลขที่ 31 หมู่ที่ 7 ภายใต้การนำของนายอุดม ถนอมแหยม
อย่างไรก็ตามเกี่ยวกับวิถีชีวิตของชุมชนชาวคริสต์บางนกแขวกนี้ "รุ่งนภา พราหมณ์วงศ์" ขณะที่เป็นนักศึกษาปริญญาโท มหาวิทยาลัยศิลปากร ได้ทำวิทยานิพนธ์เรื่อง "การธำรงชาติพันธุ์ของชุมชนชาวจีนคาทอลิกผ่านพิธีศพ : กรณีศึกษาชุมชนคาทอลิก บ้านบางนกแขวก" มีรศ.ปรานี วงษ์เทศ เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา โดยมีบทคัดย่อดังนี้
"การวิจัยนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ กระบวนการ ปรับตัวทางสังคมวัฒนธรรมต่อสภาพแวดล้อมท้องถิ่น และบทบาทของคริสต์ศาสนาที่มี ต่อวิถีชีวิตในชุมชนชาวจีนคาทอลิกบ้านบางนกแขวก ที่จังหวัดสมุทรสงคราม โดยศึกษาผ่านพิธีศพของชาวจีนคาทอลิก ซึ่งมีรูปแบบพิธีกรรมแตกต่างจากพิธีศพของ คริสตชนทั่วไป
จากการศึกษาพบว่า พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ของชุมชนชาวจีนคาทอลิกบ้าน บางนกแขวก สะท้อนให้เห็นความต่อเนื่องของกระบวนการเผยแพร่คริสต์ศาสนาในสังคมไทย และการผสมผสานความหลากหลายทางสังคมวัฒนธรรมภายใต้บริบทของสังคมไทยซึ่งนำไปสู่การสร้างอัตลักษณ์ของชาวจีนคาทอลิก
บูรณาการทางสังคมวัฒนธรรมของชาวจีนคาทอลิบ้านบางนกแขวกเกิดจากการมี ปฏิสัมพันธ์กับกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ในสังคมไทย ชาวจีนคาทอลิกกลุ่มนี้ได้ใช้ คริสต์ศาสนาเป็นเครื่องมือเลื่อนสถานภาพทางสังคมเศรษฐกิจ และใช้แสดงความ ความแตกต่าง เพื่อแบ่งแยกกลุ่มของตนออกจากกลุ่มชาติพันธุ์อื่น พิธีศพของชาวจีนคาทอลิกบ้านบางนกแขวกสะท้อนสำนึกทางชาติพันธุ์ของกลุ่ม ซึ่งถูกปิดกั้นการแสดงออกทางความเชื่อดั้งเดิม เพราะขัดต่อหลักคริสต์ศาสนา
ดังนั้นชาวจีนคาทอลิกจึงได้ปรับพิธีกรรมตามความเชื่อดั้งเดิมเรื่องการ นับถือ และการปฏิบัติต่อวิญญาณบรรพบุรุษของชาวจีนให้สอดคล้องกับพิธีกรรมทางคริสต์ ศาสนา ทำให้พิธีศพของชุมชนชาวจีนคาทอลิกแห่งนี้มีลักษณะพิเศษและเป็นรูปแบบ พิธีกรรมเฉพาะกลุ่ม ในด้านความสัมพันธ์ทางสังคมชาวจีนคาทอลิก บ้านบางนกแขวกแบ่งแยกตนเอง เป็นคนละพวกกับชาวจีนกลุ่มอื่น โดยใช้ศาสนาเป็นเครื่องแสดงอัตลักษณ์ทางชาติ พันธุ์
อย่างไรก็ตาม การแสดงตนของชาวจีนคาทอลิกขึ้นอยู่กับสถานการณ์และบริบท ในช่วงเวลาหนึ่ง หากสถานการณ์สร้างแรงบีบคั้นให้เกิดความรู้สึกว่ากำลังสูญเสีย สิทธิและผลประโยชน์ แล้วสำนึกทางชาติพันธุ์ก็จะแสดงออกมาเพื่อปกป้องตนเอง"
ประวัติตำบลบางนกแขวก
เมื่อก่อนตำบลบางนกแขวก ใช้ชื่อว่าตำบลบ้านโพธิ์งาม มาเปลี่ยนเป็นตำบลบางนกแขวก เพราะว่ามีนกแขวกมาอาศัยอยู่ในตำบลโพธิ์งาม เลยทำให้ชาวบ้านเปลี่ยนชื่อเป็นตำบลบางนกแขวก และใช้สัญลักษณ์นกแขวกเป็นสัญลักษณ์ของตำบล ภายหลังเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ขึ้น ญี่ปุ่นเอาระเบิดมาทิ้งที่ประตูน้ำบางนกแขวกเพื่อไม่ให้ขนถ่ายน้ำมันผ่านทาง ประตูน้ำ แต่ก็ไม่ได้เกิดความเสียหายอะไร เพราะมีองค์หลวงพ่อโตศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพของชาวบางนกแขวกคอยดูแล มีก็แต่บ้านเรือนเสียหายบ้างเล็กน้อย ส่วนปากคลองบางนกแขวกติดกับวัดคริสต์มีเจ้าพ่อดูแลบางนกแขวกชื่อ นายกังวาล วีระปรีชานนท์ ได้เสียชีวิตไปแล้ว
สภาพทั่วไปของตำบล :พื้นที่ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในพื้นที่ราบลุ่ม ริมฝั่งแม่น้ำ ดินมีความอุดมสมบูรณ์ เหมาะแก่การเพาะปลูก มีแม่น้ำลำคลองไหลผ่าน พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นสวนผลไม้ยกร่อง
อาณาเขตตำบล :ทิศเหนือ ติดกับ ตำบลสี่หมื่น อำเภภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี ทิศใต้ ติดกับ ตำบลบางคนที อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม ทิศตะวันออก ทิศตะวันตก ติดกับ ตำบลบางยี่รงค์ อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม
นับได้ว่าพื้นที่ตำบลบางนกแขวกมีจุดที่ชวนได้เที่ยวชมได้แพ้อัมพวาเลยที่เดียว
วันพุธที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
พระธรรมโกศาจารย์เทศน์เรื่องประวัติศาสตร์ไทย
ปาฐกถาธรรม โดยพระธรรมโกศาจารย์ แด่ พระธรรมทูตสายต่างประเทศทั่วโลก ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ ที่วัดไทยพุทธคยา ประเทศอินเดีย
วันอังคารที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
วันจันทร์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
วันอาทิตย์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2554
ทีวีปากีสถานแพร่ภาพbin Ladenถูกปลิดชีพ
สถานีโทรทัศน์ จีอีโอ ของปากีสถาน ได้แพร่ภาพใบหน้าเปื้อนเลือดของบิน ลาเดน หลังจากสหรัฐประกาศว่าเขาถูกสังหาร เช่นเดียวกับสถานีโทรทัศน์ช่องอื่น ๆ ที่แสดงให้เห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยหนวดเคราสีดำ โดยไม่มีสีขาวหรือสีเทาแซม เหมือนกับภาพบันทึกวีดีโอ
ตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ ที่ถูกเผยแพร่ก่อนหน้านี้ ภาพโดยรวมแสดงให้เห็นเขามีรอยเลือดที่หน้าผากและขมับซ้าย ตาขว้างขาปิด ปากเผยอเห็นฟัน ศีรษะผิดรูปแสดงให้เห็นว่าเขาถูกยิงที่ศีรษะ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)