วันพฤหัสบดีที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2554
วันพุธที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2554
วันอังคารที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2554
3ก.ค.จะเลือกคนมีวุฒิภาวะหรือตุ๊กตาบาร์บี้ดี
ดูคลิปเหล่านี้ว่าเป็นตุ๊กตาบาร์บี้จริงมะ
กลับไปบ้านเก่าพี่สะไภ้ที่ เขต 3 อ.จตุรัส อ.เนินสง่า อ.บ้านเขว้า อ.ซับใหญ่.. เรียกอ.บ้านเขว้าเป็น อ.บ้านแขว้ง...แถมยังบอกว่าบ้านเดิมคุณปู่ของคุณหญิงพจมานว่าเป็นคนบ้านโคน วันที่ 24 มิ.ย.
ไปเขต 10 ขอนแก่นมีอ.บ้านไผ่ อ.บ้านแฮด อ.พระยืน ว่าที่นายกฯปล่อยไก่เพราะไม่ทำการบ้าน...เรียกชื่ออ.พระยืน เป็นบ้านยิน..เรียกซ้ำอีกเป็นอ.บ้านหยิ่น
ยังพอมีเวลาศึกษาเรียนรู้และปรับตัวเพื่อที่จะได้อยู่ในประเทศนี้อย่างมีความสุขภายใต้การบริหารงานของคุณปู...
เมื่อผู้สมัครมีลักษณะอย่างนี้ทำให้นักข่าวที่ติดตามสบายมาก ไม่ต้องทำอะไรมาก รายงานเพียงว่า ไปที่ไหน และจะไปไหนต่อ ส่วนตรงกลางที่เป็นเนื้อหาการปราศรัยเหมือนเดิม
กลับไปบ้านเก่าพี่สะไภ้ที่ เขต 3 อ.จตุรัส อ.เนินสง่า อ.บ้านเขว้า อ.ซับใหญ่.. เรียกอ.บ้านเขว้าเป็น อ.บ้านแขว้ง...แถมยังบอกว่าบ้านเดิมคุณปู่ของคุณหญิงพจมานว่าเป็นคนบ้านโคน วันที่ 24 มิ.ย.
ไปเขต 10 ขอนแก่นมีอ.บ้านไผ่ อ.บ้านแฮด อ.พระยืน ว่าที่นายกฯปล่อยไก่เพราะไม่ทำการบ้าน...เรียกชื่ออ.พระยืน เป็นบ้านยิน..เรียกซ้ำอีกเป็นอ.บ้านหยิ่น
ยังพอมีเวลาศึกษาเรียนรู้และปรับตัวเพื่อที่จะได้อยู่ในประเทศนี้อย่างมีความสุขภายใต้การบริหารงานของคุณปู...
เมื่อผู้สมัครมีลักษณะอย่างนี้ทำให้นักข่าวที่ติดตามสบายมาก ไม่ต้องทำอะไรมาก รายงานเพียงว่า ไปที่ไหน และจะไปไหนต่อ ส่วนตรงกลางที่เป็นเนื้อหาการปราศรัยเหมือนเดิม
วันจันทร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2554
"ฮุนเซน"สั่งทหารพร้อม-สั่งไทยเคารพผลเลือกตั้งด้วย
เว็ปไซต์ เรดิโอฟรีเอเชียของกัมพูชา รายงานว่า เมื่อวันที่ 27 มิถุนายนที่ผ่านมา สมเด็จฯฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้สั่งให้ทหารที่อยู่แนวหน้าเตรียมพร้อมปกป้องอธิปไตยของกัมพูชา หลังจากไทยได้ประกาศถอนตัวจากคณะกรรมการมรดกโลก
สมเด็จฯฮุน เซน กล่าวว่า "ผมขอสั่งให้ทหารติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเวลาหลังเที่ยงคืน เขา(ฝ่ายไทย)สามารถถ่วงเวลาการเลือกตั้ง ด้วยการทำสงครามตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โปรดอย่าเอากัมพูชาเป็นตัวประกันของการเมืองไทย โปรดดำเนินการเลือกตั้ง และโปรดเคารพต่อผลการเลือกตั้งด้วย"
สมเด็จฯฮุน เซน กล่าวว่า "ผมขอสั่งให้ทหารติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเวลาหลังเที่ยงคืน เขา(ฝ่ายไทย)สามารถถ่วงเวลาการเลือกตั้ง ด้วยการทำสงครามตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โปรดอย่าเอากัมพูชาเป็นตัวประกันของการเมืองไทย โปรดดำเนินการเลือกตั้ง และโปรดเคารพต่อผลการเลือกตั้งด้วย"
วันอาทิตย์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2554
Jazeeraอัลจาซีราสัมภาษณ์พิเศษทักษิณอัพยูทูป
นักข่าวสำนักข่าวอัลจาซีราสัมภาษณ์พิเศษพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่ดูไบ และมีการเผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์ยูทูป วันที่ 26 มิ.ย.นี้ว่า ไม่มีความพยายามที่จะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี โดยน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาว ผู้สมัครส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 ของพรรคเพื่อไทย มีคุณสมบัติเป็นนายกรัฐมนตรีได้ เพราะมีประสบการณ์บริหารงานในภาคธุรกิจ ซึ่งหากพรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้ง
อันดับแรกจะฟื้นคืนความสงบสู่ประเทศไทย เพราะประเทศไทยเสียเวลามามากแล้ว และอยากให้คนไทยลืมอดีตเพื่อร่วมกันขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า ไม่อยากให้ประเทศแตกแยกอีก และตนก็ไม่คิดแก้แค้นเรื่องที่ถูกปฎิวัติโค่นอำนาจ ขอยึดกระบวนการปรองดอง ที่จะต้องมีองค์กรกลางมาเป็นผู้นำในการดำเนินการ อย่างไรก็ตาม เรื่องการนิรโทษกรรมนั้น พ.ต.ท.ทักษิณระบุว่า หากจะมีขึ้นก็ควรใช้กับทุกๆฝ่าย
วันเสาร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2554
สุวิทย์ทวิตแจ้งไทยถอนตัวจากมรดกโลกแล้ว
แม้น กก.มรดกโลกเลื่อนพิจารณาแผนพัฒนาพระวิหารออกไปอีก แต่ติดปัญหาในถ่อยคำของมติเลื่อนกรณีเขมรเสนอบูรณะพระวิหารเป็นการด่วน นายสุวิทิย์ คุณกิิตติ หวั่นไทยเสียแดนจึงต้องการให้มีการปรับแก้ถ่อยคำ หากไม่เป็นผิดถอนตัวแน่
ล่าสุด นายสุวิทย์ ได้ทวิตข้อความผ่านเวบไซต์ทิวตเตอร์ ความว่า "ผมและคณะ นำประเทศไทยถอนตัวจากการเป็นสมาชิกมรดกโลกแล้วครับ"
คลิปยิ่งลักษณ์ปราศรัยปล่อยไก่อาทิอ.บ้านเขว้าเป็น อ.บ้านแขว้ง
กลับไปบ้านเก่าพี่สะไภ้ที่ เขต 3 อ.จตุรัส อ.เนินสง่า อ.บ้านเขว้า อ.ซับใหญ่.. เรียกอ.บ้านเขว้าเป็น อ.บ้านแขว้ง...แถมยังบอกว่าบ้านเดิมคุณปู่ของคุณหญิงพจมานว่าเป็นคนบ้านโคน
ไปเขต 10 ขอนแก่นมีอ.บ้านไผ่ อ.บ้านแฮด อ.พระยืน ว่าที่นายกฯปล่อยไก่เพราะไม่ทำการบ้าน...เรียกชื่ออ.พระยืน เป็นบ้านยิน..เรียกซ้ำอีกเป็นอ.บ้านหยิ่น
ยังพอมีเวลาศึกษาเรียนรู้และปรับตัวเพื่อที่จะได้อยู่ในประเทศนี้อย่างมีความสุขภายใต้การบริหารงานของคุณปู...
วันศุกร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2554
พท.ผุดป้ายหยุดฟาดฟันบอกพวก-ตัวเองหรือยัง
วันที่ 23 มิ.ย.พรรคประชาธิปัตย์ปราศรัยใหญ่ที่สี่แยกราชประสงค์ ท่ามกลางการคัดค้านของมวลสมาชิกเสื้อแสดงและพรรคเพื่อไทย แต่อย่างไรก็ตามการปราศรัยของพรรคประชาธิบัตย์ก็ผ่านไปโดยไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น
และวันนั้นเองพรรคเพื่อไทยก็ได้เปิดป้ายมีข้อความประมาณว่า "เราเป็นคนไทยด้วยกันหยุดฟาดฟันหันหน้ามาปรองดองกันดีกว่า" ได้ติดตามพื้นที่จุดสำคัญในกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะที่เห็นคือตลอดถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ซึ่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้หยิบยกมาปราศรัยด้วย
วันต่อมาพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯก็ได้ทวิตเตอร์ผ่าน "ThaksinLive"โดยให้ทุกฝ่ายลืมอดีต
"ใครที่ผมอาจทำให้ไม่สบายใจ ไม่พอใจ ไม่ชอบใจ หรือขัดใจ มาในอดีตจนถึงปัจจุบัน ผมขอโทษและขออภัย ส่วนคนที่ด่าผม ทำร้ายผม วิจารณ์ผม ผมให้อภัยไม่ขอถือโทษโกรธกัน ไม่แก้แค้น ไม่ล้างแค้น เราต้องก้าวข้ามอดีตเพื่อพาประเทศก้าวหน้าไปด้วยกันให้ได้ เราต้องไม่ถอยหลังและย่ำอยู่กับที่อีกแล้วครับ
เมื่อคืนนี้มีคนโทรมาหามากหลังจากเขาฟังปชป.ปราศรัย ผมเลยยกคำสอนของท่านพระพุทธทาสฯให้เขาเหล่านั้นฟังว่า "จิตวุ่นปัญญาหาย จิตว่างปัญญามี" สิ่งที่ทำให้จิตมนุษย์วุ่นคือจิตที่หมกมุ่นอยู่กับ ความโลภ ความโกธ ความหลง และถ้าจะทำให้สมองแจ่มใสได้ ก็ต้องปล่อยวาง(detach)สิ่งเหล่านันให้ได้"
ประหยุดเด็นก็คือว่าพรรคเพื่อไทย คนเสื้อแดง และพ.ต.ท.ทักษิณหยุดจริงหรือไม่ เพราะว่า ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทยอันดับก็ได้ออกมาพูดเสมอว่าที่คนเสื้อแดงป่วนการหาเสียงของนายอภิสิทธิ์ว่าไม่สามารถห้ามได้ จึงเกิดคำถามว่า ได้บอกตัวเอง และพวกตัวเองหรือยัง ไม่ต้องเป็นห่วงว่าเราจะหยุดหรือไม่หยุด เพราะ "เรานั้นหยุดนานแล้วแต่ท่านสิหยุดหรือยัง" ที่บอกว่าปล่อยวางปล่อยได้จริงหรือ เพราะคนปล่อยวางจะไม่มีอาการอย่างที่ปรากฏ
จะเห็นได้จากการที่พรรคเพื่อไทยออกแถลงการณ์กล่าวหาพรรคประชาธิปัตย์ใส่ร้าย และนางธิดา ถาวรเศรษฐ รักษาการประธานนปช. ก็กล่าวหานายอภิสิทธิ์ว่า มียุทธศาสตร์การหาเสียงเพื่อแก้ตัว และทำลายพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม
ลองอ่านความเห็นของพระรักเกียรติ รักขิตธัมโม หรือนายรักเกียรติ สุขธนะ อดีต รมช.สาธารณสุข ที่ได้บรรยายเล่าถึงประสบการณ์ส่วนตัวที่เคยเป็นนักการเมืองดาวรุ่ง และเป็นถึงรัฐมนตรี แต่สุดท้ายก็ถูกตัดสินลงโทษในข้อหาทุจริตประพฤติมิชอบในตำแหน่งหน้าในการเสวนาในหัวข้อเรื่อง “ Vote NO มุ่งสู่การปฏิรูปประเทศ” ซึ่งจัดขึ้นโดยกลุ่มกุหลาบสีเหลือง ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ว่า เป็นผลมาจากความลุ่มหลงมัวเมาในอำนาจ จนกลายเป็นกรรมที่ทำให้ตัวเองต้องกลายเป็นดาวร่วงในที่สุด แม้จะหนีคดีอยู่ 1 ปี แต่สุดท้ายก็ยอมรับความผิดมาชดใช้กรรมในคุก 5 ปีจาก 15 ปีที่ศาลตัดสิน
วันนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในตอนนั้นก็เคยโทรศัพท์มาหาและปลอบใจว่าศาลตัดสินอย่างยุติธรรมแล้ว แต่เหตุใดวันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณที่ถูกตัดสินจำคุกในข้อหาเดียวกัน และมีโทษเพียงแค่ 2 ปี กลับหนีไปต่างประเทศ แล้วยังมาทำให้บ้านเมืองวุ่นวายอีกด้วย
“แม้อาตมาจะผิดพลาดเคยทำความผิด เคยอยู่ในเรือนจำใช้กรรมของตัวเอง แต่ก็ถือว่าอาตมายังมีบุญอยู่บ้างที่ออกมาแล้วได้มาอยู่ในร่มกาสาวพัตร์ ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณทำผิดแล้ว ก็มีแต่แก้ตัวว่าไม่เป็นธรรมแล้วหนีไปต่างประเทศ หากพ.ต.ท.ทักษิณคิดที่จะแก้ไขตัวเอง ป่านนี้ยอมมารับโทษ ก็คงได้ปล่อยตัวออกมาแล้ว เพราะโทษแค่ 2 ปีเท่านั้นเอง” พระรักเกียรติ กล่าว
วันพฤหัสบดีที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2554
วันพุธที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2554
ReutersVideo-Thais target UNESCO in temple row
http://www.youtube.com/watch?v=dsiE9t981rA&feature=feedu
เลือกคนชั่ว-โกง-เบิกความเท็จดุจคบคนพาลพาไปหาผิด
เลือกคนดีเป็นเหมือนกับคบบัณฑิตบัณฑิตพาไปสู่ความเจริญ 3 ก.ค.นี้คุณมีสิทธิกำหนดได้ให้ประเทศไปทางใด
ในการเลือกตั้งส.ส.ทั่วประเทศไทยวันที่ 3 ก.ค.2554นี้ คงมีหลายคนจะมองว่าก็คงเหมือนกับการเลือกตั้งที่ผ่านๆมา จะไปก็ได้ไม่ไปใช้สิทธิ์ก็ได้ จะเลือกใครหรือไม่เลือกใครก็ได้ โนโหวตดีกว่า หรือเลือกเพราะตัวเองพวกพ้องได้ประโยชน์ โดยไม่ได้คำนึงว่าผลที่จะตามที่จะเกิดขึ้นกับประเทศนั้นเป็นอย่างไร
ตัวเลือกครั้งนี้มีความต่างกันอย่างชัดเจนระหว่างคนดีกับคนชั่วเปรียบเหมือนความขาวกับความดำ บางคนที่เรามองว่าเป็นคนดีอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่เราเห็นหรือเข้าใจก็เป็นได้เพราะมันมีความดำหรือความชั่วซ่อนอยู่ หรืออาจจะมีความคิดว่าหากไม่ได้เป็นคนดีแล้วทำไมยังมีพระแห่แหนหรือให้การสนับสนุนอยู่ ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าพระเองก็มองไม่ออกว่าเขาเป็นคนดีจริงหรือไม่ มองได้แต่เฉพาะเปลือกนอก หรือมองว่าเขาเป็นคนดีเพราะได้รับเศษเนื้อที่เขาโยนมาให้เท่านั้น
การไปลงคะแนนเลือกตั้งก็เท่ากับเป็นการสนับสนุนคนให้เข้าไปทำหน้าที่ ก็เท่ากับเป็นการคบคนได้เช่นเดียวกัน ดังคำพระท่านว่า อเสวนา จ พาลานัง บัณฑิตานัญจะ เสวนา เอตัมมังคลมุตตมัง คือก็คือการไม่เลือกคนชั่วเลือกคนทีเป็นมงคล หรือทำให้ประเทศชาติและตัวเองเจริญ ในฐานะที่เป็นชาวพุทธเวลาทำบุญก็จะได้ยินพระเจริญพระพุทธมนต์บทนี้ ก็สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการเลือกตั้งได้เช่นเดียวกัน
ซึ่งมงคล 2 ประการนี้ก็คือการสอนให้รู้จักคบคน ขอนำพุทธภาษิตมาประกอบให้เห็นเป็นตัวอย่างดังนี้ คบคนเช่นใด ย่อมเป็นคนเช่นนั้น คบคนเช่นใดเป็นมิตร เขาก็เป็นคนเช่นนั้น เพราะการอยู่ร่วมกันย่อมเป็นเช่นนั้น
ควรคบมิตรที่ดี แม้ในมิตรก็ไม่ควรไว้ใจ ผู้คบคนเลว ย่อมพลอยเลวไปด้วย อย่าสมาคมกับคนพาลซึ่งเป็นดังศัตรูทุกเมื่อ โจรพาลอยู่ในที่ใด บัณฑิตไม่ควรอยู่ในที่นั้น คบคนดี ก็พลอยมีส่วนดีด้วย
เมื่อคบคนที่ดีกว่า ตัวเองก็ดีขึ้นมาฉับพลัน ผู้เที่ยวสมาคมกับคนพาล ย่อมเศร้าโศกสิ้นกาลนาน คนเป็นมิตรแต่ปากก็มี ไม่ควรไว้ใจคนพูดพล่อยๆ ไม่ควรไว้ใจคนเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว คนจำพวกที่งามแต่ภายนอก ภายในไม่สะอาด มีบริวารกำบังตัวไว้ ก็ยังแสดงบทบาทอยู่ในโลกได้ คนห่อกฤษณาด้วยใบไม้ แม้ใบไม้ก็หอมไปด้วยฉันใด การคบกับนักปราชญ์ก็หอมไปด้วยฉันนั้น คนห่อปลาเน่าด้วยใบหญ้าคา แม้หญ้าคาก็พลอยเหม็นเน่าไปด้วยฉันใด การคบกับคนพาลก็เป็นคนพาลฉันนั้น
ผู้ไม่คบหาคนชั่ว ย่อมได้รับสุขแต่ส่วนเดียว อยู่ในพวกข้าศึกศัตรูเพียงคืนเดียวหรือสองคืน ก็เป็นทุกข์ คนที่ทำดีแต่ภายนอก ภายในมักไม่บริสุทธิ์ มีศัตรูเป็นบัณฑิต ดีกว่ามีมิตรเป็นคนพาล เพียงเห็นกันชั่วครู่ชั่วยาม ไม่พึงไว้วางใจ
คนพาล ถึงอยู่ใกล้บัณฑิต จนตลอดชีวิต ก็ไม่รู้แจ้งธรรม เสมือนทัพพี ที่ไม่รู้รสแกง ไม่ควรไว้ใจคนที่ทำชั่วมาแล้ว ไม่ควรไว้ใจคนที่พูดพล่อยๆ ไม่ควรไว้ใจคนที่เห็นแก่ตัว (คนที่มีปัญญาแต่เพื่อประโยชน์ของตัว) ถึงคนที่ทำสงบเสงี่ยมเกินไป ก็ไม่ควรไว้ใจ
พึงมองเห็นคนมีปัญญาที่ชอบชี้โทษ พูดจาข่มขี่ เสมือนเป็นผู้บอกขุมทรัพย์ พึงคบคนที่เป็นบัณฑิตเช่นนั้นแหละ เมื่อคบคนเช่นนั้นย่อมมีแต่ดี ไม่มีเสียเลย ปราชญ์ย่อมแนะนำสิ่งที่ควรแนะนำ ไม่ชวนทำสิ่งที่มิใช่ธุระ การแนะนำดี เป็นความดีของปราชญ์ ปราชญ์ถูกกล่าวว่าโดยชอบก็ไม่โกรธ ปราชญ์ย่อมรู้วินัย การสมาคมกับปราชญ์จึงเป็นการดี
นอกจากนี้จะมองใช้หลักกาลมสูตร 10 ประการในการพิจารณาในการลงคะแนน ไม่เลือกเพราะเขาเคยให้เงินให้ทอง ให้การช่วยเหลือโดยมีผลประโยชน์แอบแฝงหรือไม่ ต้องคิดให้ดี ไม่เช่นนั้นจะพาชาติอับจน พัง
วันอังคารที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2554
วันจันทร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2554
ปชป.ผุดป้ายใหม่มาร์คโชว์เดี่ยวขายเวทีโลก
ได้ทั่วใจกลางกรุงเทพมหานครตั้งแต่วันที่ 20 มิ.ย.แต่ก็ไม่วายมีคนทำลาย
วันเสาร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2554
วันศุกร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2554
วันพฤหัสบดีที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2554
วันพุธที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2554
วันอังคารที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2554
วันจันทร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2554
งานรำลึกเสียชีวิต19ปีพุ่มพวงแต่งหุ่นชุดแดง
ขณะเดียวกันภายในวัดทับกระดาน ต.บ่อสุพรรณ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ได้มีการแต่งหุ่นพุ่มพวง ดวงจันทร์ ด้วยชุดแดงด้วย
วันอาทิตย์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2554
วันเสาร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2554
"บิ๊กหอย"ชูดร.ศุภชัยนั่งนายกฯแก้ของแพง
"บิ๊กหอย"วนัสธนา สัจจกุล หรือชื่อเดิม ธวัชชัย หัวหน้าพรรคพลังคนกีฬา หมายเลข 36 ได้เปิดเพจส่วนตัวไว้พบปะพูดคุยกับแฟน ใช้ชื่อ @วนัสธนา บิ๊กหอย สัจจกุล ประกาศขอเป็นรัฐมนตรีกีฬา ผลักดันการกีฬาไทยให้เดินหน้าทัดเทียมต่างประเทศ
ขณะเดียวกัน "บิ๊กหอย" ก็ได้โหมติดป้ายประชาสัมพันธ์แนวคิดของพรรคติดทั่วกรุงแทนที่จะเป็นป้ายใหญ่โตเหมือนกับพรรคทั่วไป กลับเป็นป้ายเล็กขนาดกว้าง 1 ฟุตยาว 2ฟุตกว่าเท่านั้นถือว่าประหยัดดี แต่ในเนื้อหาของป้ายนั้นนอกจากยกตัวเองเป็นรมต.กีฬาแล้ว ยังได้ชูดร.ศุภชัย พานิชภักดิ์ เลขาธิการอังก์ถัด นั่งนายกฯแก้ปัญหาของแพง ก็เก๋ไปอีกแบบ
วันศุกร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2554
วันพฤหัสบดีที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2554
วันพุธที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2554
วันอังคารที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2554
ขสมก.ตื่นเมล์39ชนคนดับเตือนคนขับระวัง
จากเหตุการณ์ที่รถประจำทางสาย 39 สีฟ้าขาว หมายเลขข้างรถ 39-21 ทะเบียน 12-0043 กรุงเทพมหานคร วิ่งระหว่าง ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต-อนุสาวรีย์ชัยฯ พุ่งชนป้ายรถประจำทางพังเสียหาย ที่บริเวณป้ายรถประจำทาง ทางขึ้นสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสะพานควาย ถนนพหลโยธินขาออก แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน นั้น
ส่งผลให้เจ้าหน้าที่แนะนำการเดินรถของ ขสมก.ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ได้ยกมาเป็นอุทธรณ์เตือนคนขับและขอความร่วมมือประชาชนได้แจ้งเบาะถึงพฤติกรรมของคนขับรถโดยสารประจำทางที่ไม่เหมาะสม เพื่อจะได้ขจัดออกจากระบบ
ส่งผลให้เจ้าหน้าที่แนะนำการเดินรถของ ขสมก.ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ได้ยกมาเป็นอุทธรณ์เตือนคนขับและขอความร่วมมือประชาชนได้แจ้งเบาะถึงพฤติกรรมของคนขับรถโดยสารประจำทางที่ไม่เหมาะสม เพื่อจะได้ขจัดออกจากระบบ
วันจันทร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2554
วันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2554
“ใหม่”เปิดตัว“ดอกแก้ว”เสียววูบผ้าแถบหลุด
ฉากนี้สาว “ใหม่” อยู่ในชุดใส่ผ้าถุงและผ้าแถบคาดอกแบบสาวชาวป่า พอเริ่มถ่ายสาวใหม่โพสท่าเล่นน้ำอยู่บนโขดหินกลางน้ำตก สวยหวาน น่ารัก น่ามอง ที่ซู้ด..ด กล้องจับภาพใหม่เกล้าผมปักปิ่นให้เห็นความเซ็กซี่ ก่อนจะลงน้ำไปแหวกว่ายในน้ำ ทุกท่วงท่ามีเสน่ห์สวยงามราบรื่น จนผู้กำกับสั่งให้ใหม่ขึ้นจากน้ำเท่านั้น งานเข้าทันที! แหม..ผ้าแถบที่ชุ่มน้ำ ทำท่าจะหลุด สาวใหม่กรี๊ดลั่น! รีบคว้าไว้กับอก อู้ย..เสียว ทีมงานฝ่ายเสื้อผ้ารีบช่วยมัดให้แน่นหนา เฮ้อ..รอดตัวไป
วันเสาร์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2554
พระเทพโพธิวิเทศพระธรรมทูตสายอินเดีย-เนปาลมรณภาพ
พระเทพโพธิวิเทศ (ทองยอด ภูริปาโล ป.ธ. ๙, Ph.D.) อดีตเจ้าอาวาสวัดไทยพุทธคยา ประเทศอินเดีย อดีตหัวหน้าพระธรรมทูตสายประเทศอินเดีย-เนปาล และอดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ได้ถึงแก่มรณภาพลงเมื่อวันเสาร์ที่ ๒๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ เวลา ๐๙,๐๙ น. ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ อันเนื่องจากการติดเชื้ออย่างรุนแรงในกระแสเลือด เนื่องมาจากมะเร็งในต่อมน้ำเหลือง สิริอายุ ๘๓ ปี ๑๙ วัน ปัจจุบัน ตั้งศพบำเพ็ญกุศลตั้งแต่วันที่ ๓๐ พฤษภาคม ถึงวันที่ ๑๙ สิงหาคม เวลา ๑๙.๐๐ น. ณ พระตำหนักสมเด็จพระสังฆราช วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
โดยเหตุที่พระเทพโพธิวิเทศ (ทองยอด ภูริปาโล ป.ธ. ๙, Ph.D.) เป็นพระมหาเถระที่กอปรคุณูปการต่อมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย คณะสงฆ์และสังคมไทย และต่อพระพุทธศาสนา ในฐานะพระธรรมทูตสายต่างประเทศมาเป็นเวลายาวนาน เป็นที่เคารพรักและศรัทธาของชาวพุทธทั้งชาวไทยและต่างประเทศ
โดยเหตุที่พระเทพโพธิวิเทศ (ทองยอด ภูริปาโล ป.ธ. ๙, Ph.D.) เป็นพระมหาเถระที่กอปรคุณูปการต่อมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย คณะสงฆ์และสังคมไทย และต่อพระพุทธศาสนา ในฐานะพระธรรมทูตสายต่างประเทศมาเป็นเวลายาวนาน เป็นที่เคารพรักและศรัทธาของชาวพุทธทั้งชาวไทยและต่างประเทศ
วันศุกร์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2554
ร่วมกตัญญูจับมือ"มจร"สร้างรพ.มหาจุฬาฯ
เว็บไซต์"มจร"รายงานว่า มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย กำหนดประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์อาคารพยาบาลมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในวันที่อาทิตย์ ที่ ๕ มิถุนายน ๒๕๕๔ เริ่มเวลา ๐๙.๓๐ น. เป็นต้น ณ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ถนนพหลโยธิน กิโลเมตรที่ ๕๕ ตำบลลำไทร อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มูลนิธิร่วมกตัญญู นำโดยคุณรัตนา สมสกุลรุ่งเรือง ประธานมูลนิธิเป็นเจ้าภาพในการก่อสร้าง เวลา ๑๑.๐๐๐ น. ถวายภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุ-สามเณร จำนวน ๑,๐๐๐ รูป มีพระธรรมโกศาจารย์ อธิการบดี มหาจุฬาฯ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ๐๓๕-๒๔๘-๐๐๐ ระหว่างเวลา ๐๙.๓๐ - ๑๗.๐๐ น. ในวัน เวลา ทำการของมหาวิทยาลัย
สำหรับอาคารพยาบาลเป็นอาคารประยุกต์สมัยใหม่ สร้างด้วยวัสดุสมัยใหม่ โปร่ง ประกอบด้วยห้องพยาบาล ห้องพักผู้ป่วย ห้องตรวจรักษา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นสถานพยาบาลพระสงฆ์ ชาวบ้าน ในมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และปริเวณใกล้เคียง คาดว่าจะใช้เวลาในการก่อสร้างประมาณไม่นาน
ปัจจุบันมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เป็นที่รองรับพระสงฆ์ และฆราวาส มาศึกษาในระดับปริญญาตรี ปริญญาโท ปริญญาเอก และมีพุทธศาสนิกชนมาปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน และโรงเรียนต่างๆ จากกรุงเทพมหานคร และใกล้เคียง ในแต่ละเดือน มากกว่า ๒๐,๐๐๐ คน มาศึกษา ปฏิบัติธรรม และเข้าค่าย เป็นประจำทุกเดือน ทั้งนี้ยังไม่รวมญาติโยมที่มาทำบุญอีกจำนวนมาก
เมื่อคนมาหมู่มากโรงพยาบาลจึงมีความจำเป็น เพราะโรงพยาบาลหรือยาเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ การที่มูลนิธิร่วมกตัญญู โดยคุณรัตนา สมสกุลรุ่งเรือง ประธานมูลนิธิ พร้อมด้วยคณะกรรมการได้เป็นเจ้าภาพสร้างอาคารพยาบาลครั้งนี้ จึงเป็นการสร้างปัจจัยเครื่องอาศัยของบรรพชิต (ปัจจัย ๔) นั่นคือ สถานพยาบาล/สถานที่รักษาโรค จึงเป็นการสร้างทานบารมีที่ยิ่งใหญ่ ถาวร ไม่เพียงแต่เป็นประโยชน์ต่อพระภิกษุสามเณรเท่านั้น ยังเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องและประชาชนพื้นที่ใกล้เคียงอีกด้วย
มูลนิธิร่วมกตัญญู เป็นองค์กรที่ทำงานเพื่อช่วยเหลือสังคม บรรเทาสาธารณะภัย มีอาสาสมัครช่วยงานทั่วประเทศ ช่วยเหลือสังคม ประเทศชาติ โดยไม่เลือกเชื้อชาติและศาสนา นอกจากจะช่วยเหลือสังคมด้านอื่นๆ แล้ว ยังสร้างถาวรวัตถุอีกจำนวนมาก และในวันที่ ๕ มิถุนายน ๒๕๕๔ จะสร้างอาคารพยาบาลเพื่อเป็นสถานพยาบาลอีกด้วย
สำหรับมูลนิธิร่วมกตัญญูมีประวัติความเป็นมาดังนี้
เมื่อครั้งสมัยสงครามบูรพา เหนือน่านฟ้าบางกอก ถูกถล่มด้วยฝูงบินบี ๒๙ ของฝ่าย ตรงข้ามบินมาโปรย "ฝนเหล็ก" ทำให้ผู้คนบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก ช่วงนั้น คุณสมเกียรติ สมสกุลรุ่งเรือง ซึ่งอยู่ในวัยประมาณ ๑๓-๑๔ ปี เป็นเด็กวิ่งส่งกาแฟ อยู่ย่านท่าเตียน ได้เห็นคนตายเพราะถูกระเบิดมากมายหลายศพ ตอนแรกๆ ออกไปดู เพราะความอยากรู้อยากเห็นตามประสาเด็กๆ เมื่อเห็นมากๆเข้าก็รู้สึกอดสังเวชใจไม่ได้ หลังๆ เลยออกไปช่วยเก็บศพกับเขาบ้าง แต่ก็ยังกล้าๆกลัวๆเหมือนกัน จนกระทั่ง เมื่อเก็บมากๆ เข้าจนรู้สึกเป็นการทำงานที่เป็นกุศล (จากเหตุการณ์ในครั้งนั้นเองที่เป็นแรง บันดาลใจให้คิดถึงการตั้งมูลนิธิขึ้น) และจากการที่ออกไปช่วยเก็บศพในครั้งกระนั้น เป็นเหตุให้คุณสมเกียรติได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิดเข้าที่ขา ซึ่งนึกว่าต้องตายเสียแล้ว แต่เคราะห์ดีที่ได้รับการรักษาจากทหาร
เมื่อสงครามสงบคุณสมเกียรติ ได้ประกอบอาชีพขายของเล็กๆน้อยๆ พอเก็บหอม รอมริบได้เงินพอประมาณ จึงเปิดเป็นร้านขายของชำเมื่อปี ๒๕๐๒ ย่านสลัมคลองเตย โดยมีกรรมกรเป็นลูกค้าประจำ โดยขายแบบลงบัญชี ว่ากันว่าลงกันจนกระทั่งสมุดเปื่อย ซึ่งบางครั้งต้องลงสมุดใหม่โดยรวมเอาบัญชีของเดิมเข้าไปด้วย มีอยู่ครั้งหนึ่งญาติของ กรรมกรเกิดตายขึ้นมาโดยเจ้าตัวไม่มีเงินซื้อโลง ก็มาขอลงบัญชีเพื่อนำเงินไปซื้อโลง คุณสมเกียรติเห็นว่าควรทำบุญ เลยซื้อโลงให้ไปในราคาประมาณ ๗๐-๘๐ บาท
คุณสมเกียรติเห็นว่า นานๆ จะมีคนตายสักครั้ง จึงประกาศตัวด้วยการ บริจาคและทำบุญให้กับศพ โดยการจัดหาโลงศพพร้อมนิมนต์พระมาสวดให้ เสร็จสรรพ ซึ่งตัวคุณสมเกียรติจะเป็นผู้เก็บศพ ยกศพทุกครั้งที่มีคนตาย ซึ่งระยะแรกๆ ก็พอสู้ได้ ต่อมาเมื่อมีคนรู้ข่าวการกุศลนี้ก็มีศพมากขึ้น จึงได้ปรึกษากับคุณรัตนา ผู้เป็นภรรยา ถึงการจัดตั้งมูลนิธิอย่างเป็นรูปธรรม กระทั่งวันหนึ่ง คุณหมอโรจน์ โชติรุ่งเรือง ซึ่งเป็นอาของคุณสมเกียรติ แวะมาเยี่ยมเยียน และปรารภถึงการ อุปถัมภ์คนตายว่า การจัดหาโลงศพเป็นการสร้างกุศลที่ดีจึงขอร่วมด้วย ซึ่งสมัยนั้น คุณโรจน์เปิดร้านขายยารุ่งเรืองเภสัช อยู่แถวประตูน้ำ เมื่อทำไปได้สักระยะหนึ่ง ค่าใช้จ่ายต่างๆเพิ่มขึ้น จนกลัวว่าถ้าหากมีศพมากขึ้นจะทำต่อไม่ไหว จึงปรารภกันว่าน่า จะจัดตั้งมูลนิธิขึ้นเพื่อให้ผู้อื่นได้ร่วมกุศลนี้ด้วย ต่อมาจึงได้ไปจดทะเบียนตั้งเป็นมูลนิธิ ร่วมกตัญญูอย่างเป็นทางการ
เมื่อวันที่ ๒๒ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๑๓ มูลนิธิร่วมกตัญญูได้จดทะเบียน ถูกต้องตามกฎหมาย ภายใต้การจัดตั้งโดยคุณโรจน์ โชติรุ่งเรือง และคณะกรรมการรวม ๑๕ ท่าน ซึ่งมีคุณสมเกียรติ สมสกุลรุ่งเรือง เป็นผู้บริหารงานและคุณรัตนา ภรรยา เป็นเลขาธิการ หลังจากที่คุณโรจน์ได้ถึงแก่กรรม คณะกรรมการบริหารมูลนิธิ จึงได้ยื่นขอเปลี่ยนใบอนุญาตจัดตั้งมูลนิธิร่วมกตัญญู มาเป็นชื่อคุณสมเกียรติ สมสกุลรุ่งเรือง ประธานกรรมการเมื่อวันที่ ๒๐ มีนาคม ๒๕๓๐ ปัจจุบันมีคุณรัตนา สมสกุลรุ่งเรื่อง
เป็นประธานมูลนิธิ
มูลนิธิร่วมกตัญญู มีที่ทำการถาวรประกอบด้วยอาคารสำนักงานใหญ่สูง ๗ ชั้น และศาลเจ้าท่ตั้งขององค์เทพ เป็นที่เคารพสักการะบูชา อันมีพ่อเขาตกองค์ที่ ๓, พระโพธิสัตว์กวนอิม, พ่อปู่เปี่ยม สาริกบุตร และองค์เทพอีกหลายองค์เป็นต้น ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า ๔ ไร่ บริเวณกิโลเมตรที่ ๑๒ ถนนบางนา-ตราด ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ทั้งนี้งบประมาณในการก่อสร้างและตกแต่งทั้งหมดล้วนมาจากแรงศรัทธาของประชาชนที่บริจาคให้มูลนิธิฯ มาโดยตลอดนั่นเอง วัตถุประสงค์ของมูลนิธิฯ ในการจัดสร้างอาคารสำนักงานและศาลอันเป็นที่ตั้งขององค์เทพแห่งนี้ ก็เพื่อใช้เป็นสถานที่ฝึกอบรมเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยของมูลนิธิฯ เก็บรักษาอุปกรณ์ เครื่องมือสำหรับการกู้ภัยต่าง โลงศพ ข้าวสาร อาหารแห้ง และอื่นๆ ตลอดจนเป็นสถานที่รวบรวมจิตใจ ของประชาชนผู้มีจิตศรัทธาในการช่วยเหลือสังคมที่เดินทางมาบริจาคและนมัสการองค์เทพอีกด้วย
วันพฤหัสบดีที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2554
วันพุธที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2554
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)