วันศุกร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2554

100ปีกรมศิลป์ชมลายศิลป์พระคเณศสมุดข่อย

เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2554 ที่พระที่นั่งอิศราวินิจฉัย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รมว.วัฒนธรรมเป็นประธานเปิดงาน “100 ปีกรมศิลปากร ขอพรพระคเณศ” พร้อมเปิด นิทรรศการพิเศษ “พระคเณศ เทพแห่งศิลปากร” โดยนายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า เนื่องในวันอนุรักษ์มรดกไทย ประจำปี 2554 กรมศิลปากรได้อัญเชิญพระคเณศ จากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ 11 แห่ง จำนวน 32 รายการ มาจัดแสดงรวมกัน ณ พระที่นั่งอิศราวินิจฉัย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เป็นครั้งแรกของประเทศ เพื่อให้ประชาชนสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต และครอบครัว โดยจะเปิดให้เข้าชมและสักการะได้ ตั้งแต่วันที่ 2-24 เม.ย. ที่สำคัญ ทุกวันอาทิตย์จะเปิดโอกาสให้ประชาชน นำเครื่องสักการะประเภทข้าวตอกดอกไม้มาขอพรเป็นกรณีพิเศษด้วย



พระคเณศที่นำมาแสดงดังกล่าวประกอบด้วยศิลปะอินเดีย ศิลปะลพบุรีพุทธศตวรรษที่ 16 เป็นต้น ศิลปะอยุธยา ล้านนา และรัตนโกสินทร์ รวมถึงภาพวาดลายวิจิตรลงในสมุดข่อยงดงามยิ่ง

นายเอนก สีหามาตย์ รองอธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า นอกเหนือจากการจัดแสดงพระคเณศแล้ว กรมศิลปากรยังได้จัดกิจกรรม เนื่องในเทศกาลสงกรานต์ เพื่อสืบทอดประเพณี และธรรมเนียมปฏิบัติของคนไทยที่สืบทอดมาอย่างช้านาน และเพื่อเป็นการเสริมสิริมงคลตามแบบแผนประเพณีไทย โดยจะเปิดให้ประชาชนเข้าพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เพื่อเข้าชมนิทรรศการพิเศษ และไหว้พระ ณ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ เนื่องในเทศกาลสงกรานต์ ตั้งแต่วันที่ 13-15 เมษายน โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม

นายเอนก กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังได้มีกิจกรรมพิเศษ ด้วยการอัญเชิญพระพุทธรูปหยกฝีมือช่างฟาแบร์เช่ ซึ่งเป็นช่างฝีมือชั้นสูงที่ผลิตผลงานถวายราชวงศ์ไทยตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และการสรงน้ำพระเคราะห์ 9 พระองค์ ตามแบบของเจ้าฟ้าอิศราพงศ์ ใช้ในการพระราชพิธีหลวง ประกอบด้วย พระอาทิตย์ ทรงราชสีห์ พระจันทร์ ทรงม้า พระอังคาร ทรงมหิงสา พระพุธ ทรงคชสาร วันพฤหัสบดี ทรงกวาง วันศุกร์ ทรงโค วันเสาร์ ทรงพยัคฆ์ พระราหู ทรงพญาครุฑ และ พระเกตุ ทรงนาค เพื่อเปิดให้ประชาชนเข้าสรงน้ำ ณ ศาลาสำราญมุขมาตย์ ภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร พร้อมชมนิทรรศการเรื่อง ศกสงกรานต์ และประวัติพระพุทธรูปฟาแบร์เช่ และพระเคราะห์ ด้วย ทั้งนี้กรมศิลปากร มีความประสงค์อันยิ่งใหญ่ ที่ปรารถนาให้เทพยดาผู้มีฤทธิ์อำนาจช่วยเหลือป้องกัน และป้องกันทุกข์ภัยพิบัติทั้งปวง นำซึ่งความสุขในวันขึ้นปีใหม่ไทย รวมทั้งยังเป็นการเสริมสร้างบารมีให้ดวงชะตาดีเด่น เพื่อนำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้าของชีวิตของคนไทยทั้งในปัจจุบันและอนาคต

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Google