วันจันทร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

"บอล-น้องฟ้า"เปิดใจยอมรับแยกกันก.ค.53


"บอล-น้องฟ้า"เปิดใจยอมรับแยกกันก.ค.53







เรียนภาษาไทใหญ่ด้วยภาษาอังกฤษ

เรียนภาษาจีนกับเที่ยวเมืองสิบสองปันนา





กวางสีสร้างสถาบันขงจื๊อ6แห่งในอาเซียน

สำนักข่าวซีอาร์ไขแห่งประเทศจีนรายงานว่า ลายปีมานี้ เขตปกครองตนเองชนเผ่าจ้วงกวางสีที่มีชายแดนติดกับอาเซี่ยนนั้น ได้ผลักดันการตั้งสถาบันขงจื๊อและเผยแพร่ภาษาจีนในอาเซี่ยน จนถึงปัจจุบัน มหาวิทยาลัยชนชาติส่วนน้อยกวางสี มหาวิทยาลัยครูกวางสี และมหาวิทยาลัยกวางสี ได้ร่วมกันตั้งสถาบันขงจื๊อ 6 แห่งที่ประเทศไทย ลาวและอินโดนีเซีย เพื่อให้บริการประชาชนอาเซียนที่รักภาษาจีนและอยากเรียนรู้วัฒนธรรมจีน กวางสียังจะเปิดสถาบันขงจื๊ออีก 2-3 แห่งในอินโดนีเซียและเวียดนาม ส่งครูอาสาสมัครสอนภาษาจีนไปประจำที่สถาบันขงจื๊อเพื่ออบรมบุคลากรภาษาจีนให้ประเทศต่างๆในอาเซียน

Malaysia media laws raise concern

BearTai Hitech - 27 February 2011 [ ตอนที่ 218 ]

ศูนย์การเรียนรู้ไอซีทีศึกษาดูงานประเทศลาว





ทีวีจีนรายงานจิตรกรรมฝาผนังวัดธิเบต



ดูงานพักค้างโฮมสเตย์ที่บ้านดอกบัวพะเยา

วันอาทิตย์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

นพ.วันชัยเสนอใช้สานเสวนาพุทธวิธีแก้ขัดแย้งไทยเขมร

นพ.วันชัยเสนอใช้สานเสวนาพุทธวิธีแก้ขัดแย้งไทยเขมร

มจรจัดค้นเทคนิคประยุกต์พุทธธรรมแก้วิกฤติโลก

มจรจัดค้นเทคนิคประยุกต์พุทธธรรมแก้วิกฤติโลก

อ่านเขียนภาษาพม่าพระอาจารย์ชนกะชาวพม่าสอน

กาละแมโบราณเชียงคำพะเยา

วันศุกร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

สื่อเทศรายงานไทยจับลักลอบนำเข้างาช้างจากไนจีเรีย


ขณะเดียวกันนางฉวีวรรณ คงเจริญกิจกุล รองอธิบดีกรมศุลกากร พร้อมด้วย นายธนัท สุวัธนเมธากุล ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรตรวจสินค้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนและปราบปราม สำนักงานศุลกากรตรวจสินค้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมงาช้าง จำนวน 118 กิ่ง 50 ท่อน น้ำหนักรวม 1,026.40 กิโลกรัม และนอแรด จำนวน 3 นอ น้ำหนักรวม 2.7 กิโลกรัม มูลค่ารวมประมาณ 52 ล้านบาท เข้าราชอณาจักรไทย โดยการสำแดงเท็จ ว่าเป็นการนำเข้าสินค้าที่ใช้ในประเภทโรงงานอุตสาหกรรม ที่บริเวณชั้น3 อาคารสำนักงานศุลกากรตรวจสินค้าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2554

มจร.จัดถกบทความพุทธธรรมแก้วิกฤติโลก


ระหว่างวันที่ ๒๗ – ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร.) ได้เชิญบุคลากร และนิสิตทั้งส่วนกลาง และส่วนภูมิภาค ตลอดจนนักวิชาการทั่วไปที่สนใจส่งบทความเพื่อนำเสนอในการประชุมนานาชาติ วิสาขบูชาโลก ในหัวข้อ “พุทธธรรมกับการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจ” ประจำปี ๒๕๕๔ เข้าร่วมกิจกรรม “การอบรมเชิงปฏิบัติการการบูรณาการการจัดการความรู้บทความวิชาการนานาชาติ” (ภายใต้โครงการการจัดการความรู้ KM) ณ ห้องประชุม เธียเตอร์ โซน A มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ต.ลำไทร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา

สำหรับการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ มหาวิทยาลัยฯ ได้วางกำหนดวัตถุประสงค์โดยมุ่งเน้น “การแลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่องการเขียนบทความวิชาการ เพื่อพัฒนาให้เกิดความสมบูรณ์และนำเสนอในการประชุมวิชาการนานาชาติ วิสาขบูชาโลก”

นอกจากนี้โครงการดังกล่าวยังบูรณาการโครงการ งบประมาณ รวมถึงกิจกรรมให้ครอบคลุมทั้งเรื่องการสัมมนาทางวิชาการของนักศึกษาระดับดุษฎีบัณฑิต การพัฒนาบทความทางวิชาการจากงานวิจัย โดยใช้เทคนิคการจัดการความรู้มาเป็นเครื่องมือเพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการสัมมนาทางวิชาการนานาชาติ วิสาขบูชาโลกครั้งที่ ๘ ซึ่งจะจัดขึ้นในระหว่างในระหว่างวันที่ ๑๒ – ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๕๔

ดูรายละเอียดที่ http://gotoknow.org/blog/mcukm/428382

อภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์สื่อเทศถึงการเลือกตั้ง



นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวต่างประเทศสำนักข่าว NTDTV ที่รัฐสภาถึงการเลือกตั้งทั่วไป

พม่าเปิดเส้นทางบินตรงย่างกุ้งมุ่งสู่นครวัด

นายโส มารา (So Mara) รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวของกัมพูชา และ นายจอ ทุน ออง (Cho Htun Aung) เอกอัครราชทูตพม่าประจำกัมพูชา ได้เข้าร่วมในพิธีพิธีเปิดเส้นทางบินตรงเส้นใหม่ในวานนี้(23 ก.พ.) และกล่าวในพิธีเปิดว่า เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ทั้งสองประเทศจะมีเที่ยวบินตรงระหว่างกัน และเส้นทางบินนี้มีความสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ที่ไม่เพียงแต่กระชับและขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจเท่านั้น ยังรวมถึงการแลกเปลี่ยนและทำให้ความร่วมมือทางวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวใกล้ชิดกันมากขึ้นด้วย

พาเทียวที่ทำงาน"สุรินทร์"เลขาอาเซียน

วันพุธที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ศิลปะอันล้ำค่าของพม่าในเมืองเชียงใหม่

Second Asian Entertainment Venues Meeting

การใช้Line ToolในโปรแกรมGoogle Skechup



นั่งรถไฟท่องเที่ยวเมืองอุบลราชธานี





วันอังคารที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

เจี๊ยบโชว์ตัวอย่างสามีปรนิบัติภรรยายามป่วยไข้ทางตีสิบ


เจี๊ยบโชว์ตัวอย่างสามีปรนิบัติภรรยายามป่วยไข้ทางตีสิบ

Lisaเจ้าแม่Adsenseแนะนำซอฟแวร์ทำวิดีโอ


Lisaเจ้าแม่Adsenseแนะนำซอฟแวร์ทำวิดีโอ

งานสังสรรค์ปีใหม่พี่น้องไทดำที่เมืองไอว่าสหรัฐ

get="_blank">

งานสังสรรค์ปีใหม่พี่น้องไทดำที่เมืองไอว่าสหรัฐ

แสดงโบราณวัตถุญี่ปุ่นที่เมืองวอร์สอโปแลนด์

แสดงโบราณวัตถุญี่ปุ่นที่เมืองวอร์สอโปแลนด์

วันจันทร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

สาวใหญ่บุกประชิดมาร์คขณะเปิดงาน

งานปอยส่างลอง(บวชเณร)ที่สมุทรสาคร

เนื่องด้วยทางขุมชนไทใหญ่มหาชัย ร่วมกับวัดเทพนรรัตน์ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จะจัดงานประเพณีปอยส่างลอง ในอำเภอเมือง จังวัดสมุทรสาคร โดยจะนำลูกหลานบวชเป็นสามเณรทางพุธศาสนาและขอเชิญพี่น้องไตทุกท่านทุก พื้นที่นำลูกหลานท่านาร่วมบวช หรือเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสืบสาน ประเพณีอันดีงามของชาวไตหรือชาวไทใหญ่ ระหว่างวันที่ 01 – 03 เมษายน 2554 ณ วัดเทพนรรัตน์ ตำบลเทพนรรัตน์อำเภอเมือง จังวัดสมุทรสาคร




งานประเพณีปอยส่างลองที่จะจัดขึันครั้งนี้ เป็นครั้งแรกในจังหวัดสมุทรสาคร จะมีทั้งส่างลอง (สำหรับบวชเป็นสามเณร) และจางลอง (สำหรับบวชเป็นพระภิกษุ) ซึ่งขณะนี้ทางคณะกรรมการได้มีการเตรียมงานกันอย่างคึกคัก โดยองค์ประกอบของงานฯ ถูกกำหนดเน้นตามแบบประเพณีดั้งเดิมของชาวไทใหญ่ ทั้งการแต่งกาย อาหารการกิน ตลอดจนที่พักส่างลอง สำหรับการจัดงานได้รับการสนับสนุนจาก เจ้าอาวาสวัดเทพนรรัต กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตลอดจนพ่อแม่ญาติพี่น้องของผู้ที่จะร่วมบวชเข้าเป็นส่างลองและจางลอง โดยตลอดงาน 3 วัน จะมีการแสดงมหรสพหลายอย่าง รวมทั้งการแสดงวงดนตรี จ้าดไต(ลิเกไทใหญ) และการฟ้อนรำต่างๆ แบบไทใหญ่ที่หาชมได้ยาก ให้ชมฟรี ตลอดงาน
ถ้าหากมีลูกหลานของท่านจะมาร่วมบวชด้วย โปรดติดต่อสอบถามมาได้ที่ ---หลวงพี่อ้วน โทร. 089-1442968, ป้าโหย่ง 089-0560829 และอาจารย์วิฑูรย์ สุนันดิ์ 085-2917546 ก่อนวันที่ 20 มีนาคม 2554

โดยวันศุกร์ที่ 1 เมษายน “วันรับส่างลอง หรือ เอาส่างลอง" ทำพิธีโกนผม วันเสาร์ที่ 2 เมษายน “วันรับแขก” วันแห่ครัวหลู่ - ขบวนแห่ส่างลอง และเครื่องไทยทาน(ขบวนแห่ประเพณีบวชลูกแก้วที่เก่าแก่และงดงามของชาวไทใหญ่) วันอาทิตย์ที่ 3 เมษายน “วันบวช" พิธีบรรพชาส่างลอง ณ.วัดเทพนรรัตน์ ตำบลเทพนรรัตน์ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร

คำว่า "ส่างลอง" เป็นภาษาไทยใหญ่ เกิดจากคำผสมระหว่าง "ส่าง" แปลว่า สามเณร และคำว่า "ลอง" แปลว่า ผู้เป็นใหญ่เหนือมนุษย์หรือเทพบุตร หรือผู้เป็นหน่อเนื้อของผู้วิเศษ คำเต็มคือ "อลอง" เมื่อผสมกับคำว่า "ส่าง" เสียงอะที่อยู่หน้ากร่อนหายไป สันนิษฐานว่าเป็นภาษาพม่าที่นำมาใช้ภาษาไทยใหญ่

อีกนัยหนึ่งคำว่า "ส่างลอง" เทียบได้กับคำว่า "ลูกแก้ว" ในภาษาถิ่นล้านนา ประเพณีทำบุญส่างลอง เรียกว่า ปอยส่างลอง คำว่า "ปอย" คือ งานอันเป็นมงคลยิ่งใหญ่ในการบรรพชา หรือ บวชลูกแก้วของชาวล้านนา

ส่วนประวัติความเป็นมามีกล่าวไว้หลายเรื่อง เรื่องหนึ่งคือ ในสมัยอดีตกาล ณ เมืองหนึ่งมีพระมหากษัตริย์ มีโอรสทรงพระนามว่า "จิตตะมังชา" ครั้นโอรสมีอายุได้ 10 ชันษา พระบิดาก็มุ่งหวังจะให้โอรสได้ผนวชเป็นสามเณร แต่พระองค์ไม่ทรงบังคับแต่อย่างใด ความนี้ล่วงรู้ไปถึง "จิตตมังชาโอรส" จึงได้ตัดสินใจขอผนวชเอง ทำให้พระราชบิดาทรงปลาบปลื้มมาก รับสั่งให้มีการฉลองอย่างยิ่งใหญ่ตลอด 7 วัน 7 คืน ได้แห่ส่างลองจิตตะมังไปรอบเมือง และไปหาพระพุทธเจ้า

นอกจากนี้ชาวไทใหญ่ยังเชื่อว่า การจัดงาน "ปอยส่างลอง" จะได้อานิสงส์มาก ถ้าได้บวชลูกตนเองเป็นสามเณรได้อานิสงส์ 7 กัลป์ถ้าบวชลูกคนอื่นได้อานิสงส์ 4 กัลป์ถ้าได้อุปสมบทลูกตัวเองเป็นพระภิกษุได้อานิสงส์ถึง 12 กัลป์ อุปสมบทลูกคนอื่นเป็นพระภิกษุได้อานิสงส์ 8 กัลป์ ดังนั้นชาวไทยใหญ่ทั้งหลายไม่ว่าจะยากดีมีจน ก็ต้องพยายามจัดงานปอยส่างลองให้ได้

หมอกมูนใหม่ รายงาน

เคทีซีปรับใหญ่สู่โอเพ่นแบรนด์เต็มตัว

เคทีซีประกาศทิศทางธุรกิจปี 2011 ก้าวสู่การเป็นสถาบันการเงินไทยโอเพ่น แบรนด์ (Open Brand) เต็มรูปแบบ หวังเป็นแบรนด์ในใจคนไทย ชู 3 คุณค่าแบรนด์เหนือชั้น Collaboration, Multi Intelligence และ Seeking the New Frontier เปิดให้สมาชิก พันธมิตรทางการค้าและผู้บริโภคทั่วประเทศมีส่วนร่วมสร้างแบรนด์ พร้อมรุกหนักกิจกรรมการตลาดบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล ช่องทางใหม่ออนไลน์และโซเชี่ยล เน็ตเวิร์ค เตรียมเปิดไลฟ์สไตล์ เซ็นเตอร์ จัดกิจกรรมเอาใจสมาชิกรายเซ็กเม้นท์


นายนิวัตต์ จิตตาลาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ทิศทางการทำธุรกิจของเคทีซีในปีนี้ จะมีการปรับตัวแรงทั้งระบบ โดยเริ่มจากการรีเฟรช แบรนด์ ซึ่งเคทีซีเป็นสถาบันการเงินรายแรกๆ ที่ประกาศตัวเองเป็น Membership Company และ Marketing Company ที่ให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก ด้วยเป้าหมายสูงสุดคือการเป็นแบรนด์ในใจของผู้บริโภคคนไทยทั่วประเทศ โดยถ่ายทอดความเป็นแบรนด์ผ่านทุกองค์ประกอบขององค์กร (Brand Elements) ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ บริการและบุคลากรของเคทีซี ภายใต้ 5 คุณค่าของแบรนด์ (Brand Values) มายาวนานกว่า 14 ปี และในปีนี้เคทีซีจึงได้ปรับตัวเพื่อรับกับแนวโน้มตลาดสู่การเป็นโอเพ่นแบรนด์ อย่างเต็มตัว โดยจะเปิดให้ลูกค้า กลุ่มคนต่างๆ ได้มีส่วนร่วมแนะนำและสร้างแบรนด์ร่วมกับเคทีซีผ่านช่องทางต่างๆ โดยเฉพาะโซเชี่ยล เน็ตเวิร์คและออนไลน์ ซึ่งเข้าถึงสมาชิกและกลุ่มคนที่เป็นเป้าหมายเคทีซี”


“โดยได้เปลี่ยนแนวคิดแบรนด์ใหม่หรือ Tag line จาก It’s Real เป็น “we write the stories” ซึ่ง we สื่อถึงความเป็นเคทีซี สมาชิกและคู่ค้าได้ร่วมกันเขียนเรื่องราวต่างๆ มาด้วยกัน ทำให้เคทีซีเป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับ และเราจะร่วมกันสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ บริการหรือแคมเปญการตลาดต่างๆ ไปด้วยกัน เพื่อตอบสนองความต้องการของสมาชิกให้ตรงจุด โดยได้กำหนด 3 คุณค่าแบรนด์ หรือ Brand Value ใหม่ คือ “Collaboration” หมายถึงความร่วมมือระหว่างเคทีซี ลูกค้าและคู่ค้า ทำให้รู้และเข้าใจความต้องการของลูกค้าอย่างลึกซึ้งและถูกต้อง “Multi-Intelligence” เคทีซีทำการวิเคราะห์ศึกษาในเชิงลึกรอบด้าน ทำให้มองเห็นสิ่งใหม่ๆ ในรูปแบบและประโยชน์ที่ดีกว่า ง่ายกว่าให้กับลูกค้า “Seeking for the new frontier” เคทีซีไม่เคยหยุดนิ่งในการมองหาโอกาสใหม่ๆ ทำให้เรื่องราวเป็นที่กล่าวถึงและจดจำอยู่เสมอ”

“สำหรับการทำตลาดผลิตภัณฑ์และช่องทางจัดจำหน่ายของเคทีซีในปี 2011 จะอยู่ภายใต้ “we write the stories” เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำในธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้บริโภคของไทย โดยในส่วนของบัตรเครดิตจะเน้นกลุ่มลูกค้ารายได้ 15,000-40,000 บาท ซึ่งมีฐานขนาดใหญ่ และกลุ่มลูกค้ารายได้ 40,000-100,000 บาท ซึ่งมีกำลังซื้อและมีไลฟ์สไตล์เฉพาะตัว และขยายฐานสมาชิกใหม่ผ่านช่องทางธนาคารกรุงไทย ไดเร็คเซลส์ พันธมิตรคู่ค้า และศูนย์บริการลูกค้า “เคทีซี ทัช” นอกจากนี้จะทำการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อศึกษาพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ของลูกค้า เพื่อออกแบบโปรแกรมให้สมาชิกมีการใช้จ่ายผ่านบัตรให้เหมาะกับความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่ม ในขณะที่สินเชื่อบุคคล จะรุกสินเชื่อพร้อมใช้ “เคทีซี แคช รีโวล์ฟ” ผ่านช่องทางธนาคารกรุงไทย ไดเร็คเซลส์และบูธเซลส์ สำหรับผู้มีรายได้ 20,000 บาทขึ้นไป และสินเชื่ออเนกประสงค์ “เคทีซี แคช” จะเน้นทำโปรโมชั่นกับศูนย์บริการลูกค้า “เคทีซี ทัช” เจาะกลุ่มผู้มีรายได้ 15,000 บาท พร้อมรับฟรีของที่ระลึก”

“ในส่วนของกลยุทธ์ช่องทางจัดจำหน่าย เพื่อการขยายฐานสมาชิก จะเน้นผ่านศูนย์บริการลูกค้า “เคทีซี ทัช” ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน การทำบูธเซลส์ ไดเร็คเซลส์ รวมทั้งการทำเอ้าท์ซอร์ส เซลส์ โดยเฉพาะในปีนี้จะให้ความสำคัญกับการขายผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น โดยใช้โซเชี่ยล เน็ตเวิร์ค เป็นเครื่องมือในการสร้างสังคมกับกลุ่มเป้าหมาย ในลักษณะของการให้ความรู้เกี่ยวกับบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคล มีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ และขยายเครือข่ายให้กับกลุ่มที่มีความสนใจในเรื่องดังกล่าว”

“เคทีซียังเน้นการจัดหาสิทธิประโยชน์ต่างๆ เพื่อให้ตรงกับความต้องการของสมาชิก โดยในส่วนของบริการด้านการท่องเที่ยวและสันทนาการ สมาชิกเคทีซีมีการใช้จ่ายผ่านบัตรในหมวดท่องเที่ยวถึง 9,000 ล้านบาท ในปี 2010 หรือโตขึ้น 12% จากปี 2009 หรือคิดเป็น 8.5% ของยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรรวม สำหรับในปี 2011 จะเน้นการสร้างความแข็งแรงให้กับ “เคทีซี เวิลด์” บริการการเดินทางและท่องเที่ยว ตามไลฟ์สไตล์ของลูกค้าเคทีซีในราคาพิเศษ โดยร่วมกับพันธมิตรธุรกิจท่องเที่ยวในการสรรหาสิทธิพิเศษที่โดนใจ เพื่อให้ “เคทีซี เวิลด์” เป็น Everyday Travel Mart ที่ลูกค้านึกถึงเมื่อต้องการเดินทาง โดยสามารถสอบถามข้อมูล ทำรายการจองหรือซื้อบัตรโดยสารเครื่องบิน โรงแรมผ่านช่องทางบริการที่สะดวกกับลูกค้าแต่ละกลุ่ม ทั้งเคทีซี เวิลด์ คอลล์เซ็นเตอร์ / เคทีซี ทัช และเว็บไซท์เคทีซี เวิลด์ นอกจากนี้ จะเดินหน้าการสร้างสังคมออนไลน์ ซึ่งเป็นช่องทางที่เหมาะกับกลุ่มผู้รักการท่องเที่ยว “เคทีซี เวิลด์ คอมมูนิตี้” รวมทั้งการสร้างกิจกรรมการตลาดที่สร้างสรรค์ แปลกใหม่และสนับสนุนพันธมิตรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ได้แก่ งานเที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลก ครั้งที่ 8 และโครงการประกวดโรงแรมบูติกขนาดเล็ก รวมทั้งไลฟ์สไตล์ เวิร์คช้อป”

“นอกจากนี้เคทีซีได้จัดให้มีการนำเสนอสิทธิพิเศษด้านการประกัน ทั้งการดูแลสุขภาพกายและสุขภาพทางการเงินสำหรับสมาชิกบัตรเครดิตและสินเชื่อบุคคลเคทีซีผ่านช่องทางต่างๆ โดยสามารถชำระค่าเบี้ยประกันผ่านบัตรเครดิตหรือใช้คะแนนสะสม รวมทั้งการให้คำปรึกษาการวางแผนการออมเงินและการซื้อประกันทุกประเภท และในกลุ่มสมาชิกพรีเมี่ยมที่กล้าใช้จ่าย มีความเป็นตัวของตัวเอง เราจะร่วมกับพันธมิตรหลากหลายธุรกิจชั้นนำ จัดกิจกรรมพิเศษเพื่อเอาใจสมาชิกกลุ่มนี้ อาทิ ทริปท่องเที่ยวต่างประเทศแบบอันซีน (Unseen) และการตกแต่งบ้านโดยใช้ศิลปะประยุกต์ เป็นต้น”

“เคทีซียังได้ลงทุนในระบบไอทีและเครือข่าย เพื่อตอบสนองแนวโน้มความต้องการของสมาชิก และกลุ่มคนรุ่นใหม่ในการเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการ รวมถึงสามารถโต้ตอบกับแบรนด์เคทีซีผ่านทุกช่องทางสื่อสารได้สะดวกและรวดเร็ว และเร็วๆ นี้ เคทีซีจะมีการเปิด “ไลฟ์สไตล์ เซ็นเตอร์” ที่ทันสมัยที่สุด ด้วยอุปกรณ์เทคโนโลยีทันสมัย โดยจะเชิญชวนพันธมิตรคู่ค้าหมุนเวียนจัดกิจกรรมหลากหลายตามไลฟ์สไตล์ของสมาชิกเคทีซีกว่า 2.2 ล้านบัญชีทั่วประเทศอีกด้วย”

แสดงสินค้าไทยที่พนมเปญประสบผลสำเร็จ

หนังสือพิมพ์ Jian Hua Daily ของกัมพูชารายงานว่า งานแสดงสินค้าไทยประจำปี 2010 ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงพนมเปญ เมืองหลวงของกัมพูชาระหว่างวันที่ 17 – 20 กุมภาพันธ์ สิ้นสุดลงด้วยความสำเร็จ ถึงแม้เมื่อเร็วๆ นี้ กัมพูชากับไทยเกิดการปะทะด้วยกำลังอาวุธหลายครั้งในบริเวณเขาพระวิหาร เขตชายแดนระหว่างสองประเทศ แต่กิจกรรมทางการค้าครั้งนี้ไม่ได้รับผลกระทบ ชาวกัมพูชาจำนวนมากพากันเดินทางไปเลือกซื้อสินค้าไทย เช่นเครื่องสำอาง เครื่องใช้ในครัว อาหาร เป็นต้น

ที่ปรึกษาด้านการพาณิชย์สถานทูตไทยประจำกัมพูชากล่าวว่า งานแสดงสินค้าไทยครั้งนี้ จัดขึ้นที่กรุงพนมเปญด้วยความสำเร็จ แต่ละวันมีคนท้องถิ่นประมาณหมื่นคนมาที่งาน และเลือกซื้อสินค้าไทยจำนวนมาก ผู้มาเที่ยวชมงานปีนี้ไม่น้อยกว่างานปีที่แล้ว

แบไต๋ไฮเทค[ ตอนที่ 217 ]



วันอาทิตย์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

คลิปยูเอ็นจัดพิธียกย่องเมียฮุนเซนอาทรเด็กหญิงมีครรภ์


บล็อกเกอร์ ki-media ชาวกัมพูชา ได้รายงานว่า วันจันทร์ที่ 21 กุมภาพันธ์นี้ นายบัน คีมุน เลขาธิการสหประชาชาติ จะเดินทางไปที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ในพิธีประกาศยกย่องนางบุญ เรนี ภริยาของสมเด็นฮุน เซน นายกรัฐมนตรี ที่ร่วมมือกับเลขาธิการยูเอ็นในการดูแลสุขภาพของเด็กและหญิงมีครรภ์ชาวกัมพูชาแบบไม่เลือกปฏิบัติ ทั้งนี้จะเป็นการจัดแบบเงียบๆไม่การประกาศอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด

สัมผัสวิถีชีวิตชาวไทลื้อสิบสองปันนาที่เชียงคำ

มรดกโลกมรดกของใคร"วสุ-ศรีศักร"





วันเสาร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

อินโด-มาเลย์รับมือกับวิกฤตอาหารไทยยังไม่นำพา

เว็บไซต์ซีอาร์ไอทางการของจีนรายงานว่า เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นแหล่งที่ผลิตและบริโภคธัญญาหารสําคัญที่สุดของโลก ขณะนี้ ต้องเผชิญกับราคาธัญญาหารเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ และอาจจะเกิดวิกฤตธัญญาหารอีก ประเทศผู้ส่งออกธัญญาหารสําคัญในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทยอยกันใช้มาตรการต่างๆ เพื่อรับมือกรณีนี้

มาตรการรับมือกับวิกฤตธัญญาหารของอินโดนีเซียที่เด่นชัดคือ ยกเลิกภาษีนําเข้าสินค้ากลุ่มธัญญาหาร

อินโดนีเซียเป็นประเทศผู้ผลิตและบริโภคธัญญาหารประเทศหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การขึ้นราคาธัญญาหารทั่วโลกเป็นเหตุให้ราคาสินค้าของอินโดนีเซียเพิ่มขึ้นอย่างมาก ดัชนีราคาผู้บริโภคเพิ่มเรื่อยๆ

ตามสถิติ ดัชนีราคาผู้บริโภคในปี 2010 คือ 6.96% มากกว่าเป้าหมายของรัฐบาลตั้งไวก่อนหน้านี้ คือ 4-6% รัฐมนตรีกระทรวงประสานกิจการเศรษฐกิจอินโดนีเซียกล่าวเมื่อเร็วๆ นี้ว่า เพื่อปรับปรุงการสนองธัญญาหารภายในประเทศ ป้องกันไม่ให้ราคาธัญญาหารเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง คงปริมาณธัญญาหารสํารองให้เพียงพอ รัฐบาลอินโดนีเซียตัดสินใจยกเลิกภาษีนําเข้าข้าวสาร แป้งสาลี ข้าวโพด และอาหารสัตว์ รัฐมนตรีกระทรวงประสานกิจการเศรษฐกิจอินโดนีเซียยังเน้นว่า เพื่อรับมือกับภาวะการณ์ที่ราคาธัญญาหารทั่วโลกพุ่งขึ้นจากปัจจัยสภาพอากาศเลวร้าย รัฐบาลอินโดนีเซียจะใช้หลายมาตรการต่อไป ให้ความสําคัญกับการพัฒนาแหล่งต้นนํ้าและนํ้าบาดาลเพื่อการเกษตร เขากล่าวว่า รัฐบาลอินโดนีเซียได้กําหนดเป้าหมายการผลิตข้าวสารในปีนี้ไว้ที่ 70 ล้านตัน เพิ่มขึ้นกว่าปี 2010 ประมาณ 4-5% หากสามารถบรรลุเป้าหมายได้ อินโดนีเซียก็ไม่ต้องนําเข้าข้าวสารจากต่างประเทศ แต่ถ้าไม่สามารถบรรลุเป้าหมายดังกล่าว จะส่งผลกระทบต่อการสํารองข้าวสารเพื่อการบริโภคภายในประเทศ

ในอีกด้านหนึ่ง เจ้าหน้าที่กรมการค้าภายในของอินโดนีเซียกล่าวในการสัมมนาเกี่ยวกับการเพิ่มปริมาณการผลิตข้าวสารที่จัดขึ้นโดยกระทรวงเกษตรอินโดนีเซียเมื่อเร็วๆ นี้ว่า เนื่องจากปีที่แล้ว ปริมาณการผลิตข้าวสารลดน้อยลง ไม่สามารถสนองความต้องการในการสํารองข้าวสาร ด้วยเหตุนี้ิ รัฐบาลอินโดนีเซียได้อนุมัติให้กรมการค้าภายในนําเข้าข้าวสาร 1.5 ล้านตัน เพื่อมีข้าวสํารองเพียงพอกับการบริโภคภายในประเทศ
นอกจากนี้ อินโดนีเซียได้เตรียมจัดสรรข้าวโดยในไตรมาสแรกปี 2011จะจัดสรรข้าวสาร 1 ล้านตันให้แก่ประชาชนผู้ยากจน ส่วนข้าวสารที่นําเข้านั้นจะได้รับสินค้าก่อนเดือนมีนาคม ซึ่งได้เซ็นสัญญาซื้อข้่าวสาร 1.23 ล้านตันจากไทยและเวียดนามแล้ว

นี่เป็นมาตรการที่อินโดนีเซียใช้ในการรับมือกับวิกฤตธัญญาหารในปัจจุบัน

ส่วนมาตรการรับมือกับธัญญาหารของมาเลซีย ที่สําคัญก็คือ เปิดฐานปลูกธัญญาหารในต่างประเทศ

หลังจากเกิดวิกฤตธัญญาหารโลกปี 2008 เป็นต้นมา รัฐบาลมาเลเซียเริ่มนโยบาย"ความมั่นคงด้านธัญญาหาร" เพื่อสร้างหลักประกันว่าสามารถสนองธัญญาหารเพื่อการบริโภคภายในประเทศได้ ก่อนหน้านี้ นายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซียประกาศว่า รัฐบาลวางแผนร่วมมือกับหลายประเทศ กําหนดไห้บางพื้นที่ในประเทศที่เกี่ยวข้องเป็นฐานปลูกธัญญาหารของมาเลเซีย การกระทําเช่นนี้ไม่เพียงแต่สามารถเพิ่มปริมาณการผลิตธัญญาหารและการสนองธัญญาหารของมาเลซียเท่านั้น หากยังประหยัดต้นทุนด้วย

นายนาจิบ ราซัคยังกล่าวว่า ยกตัวอย่าง ข้าวเปลือก มาเลเซียไม่สามารถปลูกข้าวเปลือกเพื่อสนองความต้องการภายในประเทศได้ ฉะนั้น รัฐบาลมาเลเซียจึงได้เจรจากับรัฐบาลประเทศอื่นๆ ถึงความเป็นไปได้ในการพัฒนาบางพื้นที่ในต่างประเทศเพื่อปลูกข้าวเปลือก การกระทําอย่างนี้จะทําให้ต้นทุนตํ่ากว่าการพัฒนาพื้นที่เพาะปลูกข้าวเปลือกในมาเลซียเอง

แหล่งข่่าวแจ้งว่า ปัจจุบัน มาเลเซียได้ร่วมมือกับหลายประเทศ เช่น อินโดนีเซีย สร้างฐานปลูกธัญญาหารต่างประเืทศ

นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาถึงความสําคัญของกิจการเกษตรจะพบว่าเป็นกิจการที่สําคัญมากในโครงการปรับเปลี่ยนรูปแบบการพัฒนาเศรษฐกิจของมาเลเซีย รัฐบาลมาเลเซียหวังว่าจะใช้โครงการนี้เพิ่มรายได้และกําลังการผลิตของเกษตรกรในชนบท หวังว่าจะสามารถช่วยเหลือกิจการเกษตรขนาดเล็กหรือกิจการขนาดย่อมให้พัฒนาเป็นกิจการเกษตรขนาดใหญ่หรือกิจการของส่วนรวม

ตามสถิติ ระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนกรกฎาคมปี 2010 ยอดการส่งออกธัญญาหารของมาเลเซียมีประมาณ 20,200 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 12.3% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีที่แล้ว

ศูนย์โอท็อปเชียงคำพี่น้องไทลื้อสิบสองปันนา


ศูนย์เศรษฐกิจชุมชนครบวงจรอำเภอเชียงคำ..เ­ป็นศูนย์รวบรวมผลิตภัณฑ์ OTOP ของกลุ่มผู้ผลิตผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์OTOP ของทุกกลุ่มในพื้นที่อำเภอเชียงคำ ตั้งอยู่ที่หน้าที่ว่าการอำเภอเชียงคำ อ.เชียงคำ จ.พะเยา ติดต่อ คุณบัวเง วงศ์ใหญ่ ประธานศูนย์ฯ

ปี้น้องไทร่วมงาน"ปอยยกย่องครูหมอไตย"แม่อาย



งานประเพณียกยองครูหมอไตย หรืองานเชิดชูเกีรยติ นักประพันธ์ หรือนักปราชญ์ ไทใหญ่ ได้จัดขึ้นในเดือนกมภาพันธ์ ของทุกปี ที่บ้านใหม่หมอกจ๋าม ตำบล ท่าตอน อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ส่วนปี 2554 นี้ เป็นการจัดขึ้นครั้งที่ 35 จะตรงกับวันที่ 16 ถึง 17 กุมภาพธ์ (ขึ้น 13 ค่ำ ถึง 14 ค่ำเดือนสาม) ในงานจะมีการแสดงศิลปวัฒนธรรมของชาวไทยใหญ่ที่หาชมได้ยาก เช่นการฟ้อน กิงกะหล่า ฟ้อนโต จ้าดไต การร้องเพลงไทใหญ่ทั้งสมัยเก่าและสมัยใหม่ การแข่ง ขันต่างๆ อันเกี่ยวกับประเพณีชาวไทใหญ่

งานประเพณียกยองครูหมไตย จัดขึ้นโดยมัวัตถุประสงค์เพื่อจะได้รำลึกถึงบุญคุณ ของครูบาอาจารย์ ซึ่งเป็นนักประพันธ์ หรือนักกวี ที่มีชื่อเสียง ทั้งหลายของชาวไต (ไทใหญ่) ที่ด้ล่วงลับไปแล้ว เพื่อเป็นการรำลึกถึงบุบคุณท่านเหล่านั้น ซึ่งได้ ประพันธ์ ศิลปวัฒนธรรม และขนบธรรมเนียมประเพณี อันดีงามของชาวไทใหญ่ ภูมิปัญญาพื้นบ้าน ตวามรู้เรื่องราวต่างๆ ไว้ให้กับลูกหลานชนรุ่นหลัง ได้ศึกษาหา ความรู้กัน อีกทั้งจะได้ดำรงรักษาไว่มิให้สาบสูญ

วันครูหมอลิ่กไต"
ความหมายของคำว่า “ครูหมอ” ในภาษาไต หรือไทใหญ่ อาจเปรียบเทียบกับ ภาษไทยได้ว่า หมายถึงนักปราชญ์ผู้ที่รอบรู้ มีความชำนาญในศิลปะ วิชาการต่างๆ จนสามารถนำมาถ่ายทอด อบรม สั่งสอนให้ลูกหลานและ เป็นตำรับตำราไว้ ให้แก่ อนุชนรุ่นหลังได้ บุคคลเช่นนั้น เรียกว่า “เจ้าครูหมอ”

ครูหมอไต เป็นคำเรียกครูอาจารย์ หรือผู้มีความเชี่ยวชาญ ชำนาญในการคิดค้น ภูมิปัญญา ปรัชญา คำสอนที่เป็นประโยชน์แก่คนทั่วไป
วันครูหมอลิ่กไต หรือ “วันยกย่องครูหมอไต” (วันไว้ครู) หรือเชิดชู ครูบาอาจารย์ ซึ่งเป็นนักประพันธ์ หรือนักกวี ที่มีชื่อเสียงทั้งหลายของชาวไต ที่ได้ล้วงลับไปแล้ว เพื่อจะได้รำลึกถึงบุญคุณท่านเหล่านั้น ที่ได้ประพันธ์ ศิลปวัฒนธรรม และ ขนบ ธรรมเนียมประเพณี ภูมิปัญญาพื้นบ้าน ความรู้เรื่องราวต่างๆ ไว้ไห้กับ ลูกหลานได้ ศึกษาหาความรู้ อีกทั้งจะได้รักษาไว้มิไห้สาบสูญ

ความเป็นมาวันครูหมอลิ่กไต
วันที่ อนุมัติ
วันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2511 (ค.ศ. 1968)
วันที่หนึ่ง (แรมหนึ่งค่ำ) เดือนหก จุลศักราช 1330
สถานที่ ที่ทำการ “ปี่ฎะก้าด” (พระไตรปิฏก) คณะกรรมการกลางอนุรักษ์วรรณคดี และวัฒนธรรมไต เมืองต่องจี (ต้นตี), เมืองหลวงของ รัฐฉาน (เมืองไต)


อนุมัติว่า วันที่หนึ่ง (ขึ้นหนึ่งค่ำ) เดือนสิบสอง ของทุกๆปี เป็นวัน “ครูหมอลิ่กไต”
อนุมัติโดย
คณะกรรมการกลางอนุรักษ์วรรณคดี และวัฒนธรรมไต แห่งรัฐฉาน (เมืองไต)
เหตุผลที่ได้คัดเลือก วันที่หนึ่ง (ขึ้นหนึ่งค่ำ) เดือนสิบสอง
ในบรรดานักประพันธ์ นักกวี หรือ “ครูหมอลิ่กไต” ของชาวไต ที่มีชื่อเสียง ที่ถึงแก่อนิจกรรมไปแล้วนั้น เท่าที่ค้นพบหาหลักฐานได้ เป็นบุคคลสำคัญ รุ่นหลัง (ประมาณ 500 ปีหลัง) เท่านั้น ได้แก่


เจ้าธรรมะติ่นนะ ( พ.ศ. 2085-2184)
เจ้ากางเสอ ( พ.ศ. 2331-2425)
เจ้ากอหลี่ ( พ.ศ. 2391-2454)
เจ้านางคำกู่ ( พ.ศ. 2397-2461)
เจ้าหน่อคำ ( พ.ศ. 2400-2439)
เจ้าอมาตย์หลวง เมืองหนอง (พ.ศ. 2398-2449)
เจ้าวอระแคะ ( พ.ศ. 2433-2491)
เจ้าปัญญาโภคะ ( พ.ศ. 2435-2514)


ในบรรดา (8) ท่านนี้ (6) ท่านแรก เป็นบุคคลที่ได้รับคัดเลือกก่อนเป็นครั้งแรก ส่วน (2) ท่านหลังได้รับคัดเลือกเพิ่มเดิมภายหลัง ใน(6) ท่านแรกนั้น ยกเว้น เจ้าหน่อคำ ที่เหลือ (5) ท่าน บังเอิญเป็นบุคคลที่เกิดในเดือนสิบสองทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นจึงได้คัดเลือกเอา เดือนสิบสองเป็นเดือนของ “ครูหมอลี่กไต”

สาเหตุที่ได้คัดเลือกเอา วันที่หนึ่ง(ขึ้นหนึ่งค่ำ) ก็เพราะว่า ในบรรดา (6) ท่านแรกนั้น เจ้ากางเสือ เป็นบุคคล ที่มีผลงานที่เกี่ยวกับวัฒนธรรมไตมากที่สุดเท่าที่ค้นพบ ในผลงานของท่านนั้น จะมีทั้งบทประพันธ์ และบทกวี ด้านวรรณกรรม วรรณคดีของท่านมากมาย อย่างเช่น เกี่ยวกับบทคำสอนต่างๆ, หนังสือเกี่ยวกับ โหราศาสตร์ , พุทธประวัติ, นิทานคำกลอน, บทละคร, เพลงยาว, บทประพันธ์ เกี่ยวกับสร้างความกล้าหาญ, พิชัยสงคราม, ด้านประวัติศาสตร์ไตเป็นต้น เท่าที่ค้นพบผลงานของท่านมีถึงเกือบ (200) เรื่องที่เดียว ผู้รู้บางท่านกล่าวว่ามีถึง (405)เรื่องก็มี เพราะฉะนั้น จึงได้คัดเลือกเอา วันที่หนึ่ง(ขึ้นหนึ่งค่ำ) เดือนสิบสอง ซึ่งเป็นวันเกิดของท่านเป็น ”วันครูหมอลิ่กไต” พี่น้องชาวไตทุกหนแห่งจึงได้จัดงานทำบุญรำลึกถึง คุณงามความดี ของ “เจ้าครูหมอลิ่กไต” เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

จุดมุ่งหมาย
วันครูหมอลิ่กไต เป็นวันที่ชนชาติไตได้เสาะแสวงหา ครูหมอ ผู้ที่มีความรู้ ความ ชำนาญ ในความรู้สาขาต่างๆ เพื่อนำมาเชิดชูยกย่อง ให้ปรากฏ ให้เห็นกันทั่วหน้า สำหรับครูหมอผู้ล่วงลับไปแล้วนั้นก็ได้รับการทำบุญกุศลอุทิศส่วนบุญให้ มีการ ทำทานให้ เช่นการสร้าง สะพาน ศาลา ถนน ทางเดิน โรงพยาบาล เป็นต้นโดยมี การเขียนชื่อครูหมอลิ่กไตกำกับไว้ สำหรับครูหมอที่ยังมีชีวิตอยู่ก็จะได้ให้ท่านเป็นที่รู้จักกันทั่ว เชิญท่านมารับการ ปรนนิบัติ เชิดชูยกย่อง ให้ปรากฏแก่ท่านทั้งหลาย การกระทำดังกล่าว เป็นภาระ หน้าที่ ของชาวไตทุกคน และเพื่อไม่ให้ ความรู้ ศิลปะ วัฒนธรรม อันดีงามต่างๆ ที่มีมาครั้งดั้งเดิมนั้นสูญหายไป ตรงกันข้าม ควรให้มีการฟื้นฟู ปรับปรุง ดำรงรักษา สืบทอดแพร่ขยาย ให้แก่อนุชนรุ่นหลัง ให้ได้เรียนรู้กัน ประเพณีงานเชิดชูเจ้าครูหมอลิ่กไตจึงได้ถูกจัดขึ้นกัน ในวันที่หนึ่ง(ขึ้นหนึ่งค่ำ) เดือนสิบสอง ของทุกๆปี ตามหัวเมืองใหญ่ต่างๆทั่วรัฐฉาน

สำหรับงานประเพณีครูหมอลิ่กไต ในประเทศไทยนั้น ได้จัดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ ของทุกปี ที่บ้านใหม่หมอกจ๋าม ตำบลท่าตอน อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นหมู่บ้านชาวไต หมู่บ้านดังกล่าว เดิมได้จัดงาน "ปอยครูหมอลิ่กไต" ตามหัว เมืองใหญ่ต่างๆในรัฐฉาน แต่หลังจากปี 2522 เป็นต้นมาได้ย้ายมาจัด ฉลอง ให้ตรงกับวันมาฆบูชา (วันขึ้น 15 ค่ำเดือนสาม)ของทุกๆปี เพื่อความสะดวกแก่พีืน้องชาวไต ในประเทศไทย


หมายเหตุ - "วันเจ้าครูหมอไต" คือวันที่หนึ่ง (ขึ้นหนึ่งค่ำ) เดือนสิบสอง

"วันปอยยกย่อเจ้าครูหมอไต" อาจไม่ตรงกับ "วันเจ้าครูหมอไต" ก็ได้

www.shaninform.org

หนอนมะพร้าวระบาดถึงสวนนนท์ตายหลายร้อยต้น


หนอนมะพร้าวระบาดถึงสวนนนท์ตายหลายร้อยต้น

วันศุกร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

คนลาวในแผ่นดินไทยสมัยพระนารายณ์ถึงปัจจุบัน

เอ็นจีโอสร้างสรรค์ศิลปะให้กับเด็กร.ร.เสียมราฐ

บทความนี้ที่เขียนโดย Craig Miles เผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์ phnompenhpost.com เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554 ที่กล่าวถึงการอุทิศเวลาของครูศิลปะเอ็นจีโอของประเทศกัมพูชา นามว่า Diep Kiri ที่เข้าไปสอนการวาดภาพให้กับเด็กในโรงเรียน Thaizo จังหวัดเสียมราฐ ด้วยเทคนิคการวาดภาพต่างๆ สร้างความสุขเสียงหัวเราะให้กับเด็กที่เข้ามาเรียน

Diep ไม่ใช่เป็นคนแรกที่อุทิศเวลาเช่นนี้ ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2003 William Gentry ศิลปินชาวอเมริกันผู้ผลิตภาพยนตร์และนักธุรกิจ และได้แรงบันดาลใจจากประวัติศาสตร์ศิลปะของประเทศกัมพูชา จึงได้เขาไปเยี่ยมชมโรงเรียนในจังหวัดเสียมราฐได้เห็นชาวบ้านไม่ได้มีโอกาสที่จะใช้วัสดุศิลปะ จึงเป็นแรงบันดาลใจให้เขาได้ส่งครูสอนศิลปะเข้าไปสอนในโรงเรียนจังหวัดเสียมราฐ

Gentry ยังเป็นประธานผลิตภาพยนต์ ซึ่งตั้งอยู่ในสิงคโปร์ และสถานที่ถ่ายทำก็อยู่ในพื้นที่ประเทศในสิงคโปร์, อินโดนีเซียและอินเดีย และเมื่อว่างจากการทำงานแล้วเขาชอบที่จะลงไปคนในระดับรากหญ้า

"มันเป็นสิ่งที่เย็นสวยและฉันรักความภาคภูมิใจของมัน สิ่งที่เด็กเหล่านี้ต้องการคือความสนใจ นั่นคือสิ่งที่พวกเขาขาด นั่นคือสิ่งที่ผมพยายามที่จะทำในโครงการ ให้พวกเขามีความหวังและความสนใจ" Gentry กล่าวว่าและว่า

การสอนศิลปะให้เด็กเกือบพันทุกเดือนในเจ็ดโรงเรียนที่แตกต่างกัน เด็กมีอิสระที่จะมาและไปตามที่พวกเขาโปรดในชั้นเรียนศิลปะ และโรงเรียน Thaizo ก็เป็นอีกแห่งหนึ่ง โดยเลือกโรงเรียนของรัฐช่วงเวลา 11:00 - 12:00 น.ส่งผลให้มีนักเรียนศิลปะสามารถจบการศึกษาวิทยาลัยในกรุงพนมเปญ

"หากเรามีครูศิลปะมากขึ้นก็จะสามารถเข้าไปสอนในโรงเรียนต่าง โดยตั้งความหวังให้จะให้ทั่วประเทศกัมพูชา เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาแต่ขึ้นอยู่กับเวลามากกว่า"Gentry กล่าวด้วยความมุ่งมั่น

นี้คือผลงานของที่ได้ใชจะมุ่งจะแสดงหารายได้ให้กับตัวเองแต่ยังอุทิศเวลาให้กับสังคมด้วย สร้างเด็กให้มีความสามารถพิเศษขึ้นมา

คลิปคอนเสิร์ตวัฒนธรรมล้านนา–ไทใหญ่เพื่อแรงงานอพยพ

เว็บไซต์ Khonkhurtaiรายงานว่า นางจินตนา สิงห์สุรเมธ ผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์เขต 3 เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ในวันเสาร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2554 สำนักประชาสัมพันธ์เขต 3 กำหนดจัดคอนเสิร์ต “สานวัฒนธรรมพื้นบ้าน...เพื่อแรงงานต่างด้าว” ตามโครงการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจด้านกฎหมายและระเบียบเกี่ยวกับแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง 3 สัญชาติ ประจำปี 2554 โดยในปีนี้ เน้นการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อทุกรูปแบบทั้งสื่อวิทยุ โทรทัศน์และสื่อกิจกรรม เพื่อเป็นการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องตามพระราชบัญญัติกฎหมายและระเบียบต่างๆ ของหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องกับแรงงานอพยพ

ทั้งนี้ ภายในงานชมการแสดงพิธีเปิดชุด “สานสัมพันธ์ 2 วัฒนธรรมพื้นบ้านล้านนา – ไทใหญ่” การแสดงดนตรีจากศิลปินไทใหญ่ที่มีชื่อเสียง “เจิงหาญ” การให้ความรู้ความเข้าใจ "รอบรู้เรื่องแรงงานต่างด้าว” จากวิทยากรสำนักงานจัดหางานจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมตอบคำถามปัญหาแรงงานต่างด้าวโดยพิธีกรไทใหญ่ที่มีชื่อเสียง พร้อมรับของรางวัลมากมาย โดยงานนี้เปิดให้ประชาชนเข้าชมฟรี และจะมีการถ่ายทอดเสียงทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดเชียงใหม่ ระบบ A.M. 1476 KHz เริ่มถ่ายทอดเสียงตั้งแต่เวลา 20.30 น. เป็นต้นไป ผู้สนใจสามารถไปร่วมงานได้ตั้งแต่เวลา 18.00 - 23.00 น. ณ ลานสำนักประชาสัมพันธ์เขต 3 เชียงใหม่ ต.ช้างคลาน อ.เมืองเชียงใหม่

พิพิธภัณฑ์เวียงพยาว(วัดลี)

วันพฤหัสบดีที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

เด็ก14ขวบออกแบบเกมส์ทำเว็บไซต์

วงเสวนาจุฬาฯชี้ไทยรับแผนที่1:2แสนเลิกMOU43ไม่เป็นผล

วงเสวนาจุฬาฯชี้ไทยรับแผนที่1:2แสนเลิกMOU43ไม่เป็นผล



เปิดงานสืบสานประเพณีและของดีบางแพ

มีด10ซม.เสียบคากะโหลกชายยูนนานนาน4ปี



เว็บไซต์ซีอาร์ไอทางการของจีนรายงานว่า ชายชาวมณฑลยูนนานคนหนึ่งได้ต่อสู้กับคนร้ายที่มาปล้นเมื่อ 4 ปีก่อน ทําให้มีดเสียบหักคากะโหลกศีรษะ ช่วง 4 ปีมานี้ เขามีอาการปวดหัวบ่อยๆ เลือดไหลทางปาก มีความลําบากขณะทานอาหารและพูด เมื่อเร็วนี้ โรงพยาบาลอวี่ซี มณฑลยูนนานได้ผ่าตัดอย่างละเอียดและลําบาก ในที่สุดสามารถเอามีดดังกล่าวออกจากกะโหลกศีรษะของเขาได้ด้วยความสําเร็จ หลังผ่าตัด ผู้ชายคนนี้มีสภาพทั่วไปที่ดี และแผลไม่มีเลือดไหล

เคทีซีมอบสิทธิ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟจากแบรนด์หรู


นายวรวุฒิ นิสภกุลธร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจบัตรเครดิต “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในปี 2554 เคทีซีวางกลยุทธ์เพื่อมัดใจสมาชิกกลุ่มที่เรียกว่า “แฟชั่นนิสต้า” คนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ทันสมัย รักและสนใจในเรื่องของแฟชั่น เลือกซื้อสินค้าที่มีคุณภาพและดีไซน์ล้ำสมัย ซึ่งจัดเป็นสมาชิกกลุ่มที่มียอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตสูงกว่าสมาชิกทั่วไป 2 - 3 เท่า เคทีซีจึงได้ร่วมมือกับพันธมิตรแบรนด์หรู อาทิ แกลมร็อค เรย์แบน และคลากส์ มอบสิทธิพิเศษสุดเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับสมาชิกที่ใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซีดังนี้


“แกลมร็อค” นาฬิการะดับโลกดีไซน์ไมอามี่ ฉลองเปิด “แกลมร็อค บูธีค” (Glam Rock Boutique) แห่งแรกในประเทศไทย ณ ชั้น 1 โซนเอเทรียม ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ มอบส่วนลดพิเศษ 25% ให้สมาชิกเคทีซีสนุกกับการเลือกซื้อนาฬิกาหลากหลายคอลเลคชั่น พร้อมเครื่องประดับ และเครื่องหนัง สำหรับทั้งสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี ตั้งแต่วันนี้ – 30 เมษายน 2554 “เรย์แบน” แว่นตาสุดคลาสิคสไตล์อเมริกัน มอบส่วนลดเพิ่ม 5% จากราคาสินค้าราคาพิเศษ พร้อมรับฟรีทันที! เสื้อยืดดีไซน์สุดเก๋จำนวน 1 ตัว เมื่อซื้อแว่นตารุ่นใดก็ได้จำนวน 1 อัน (เฉพาะสาขาที่ร่วมรายการ) ตั้งแต่วันนี้ – 6 มีนาคม 2554 และ “คลากส์” รองเท้าหนังคุณภาพจากประเทศอังกฤษ มอบส่วนลดเพิ่ม 5% จากราคาสินค้าที่ลดแล้ว 30 – 50% (เฉพาะสาขาที่ร่วมรายการ) ตั้งแต่ 26 กุมภาพันธ์ – 6 มีนาคม 2554”

วันพุธที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

รายงานSocial Mediaในจีนมีปัญหาหลังอียิปต์ประท้วง

เว็บอีบุ๊คด้านพระพุทธศาสนา+ปรัชญาของดร.สมพาร พรมทา


ศาสตราจารย์ ดร. สมภาร พรมทา ภาควิชาปรัชญา คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เปิดเว็บเพื่อทำหนังสือ อีบุ๊ค เพื่อให้นักศึกษาและผู้สนใจวิชาการทางพระพุทธศาสนา ได้เข้าไปดาวน์โหลดหนังสือที่ท่านเขียน ท่านใดสนใจก็ตามลิงค์นี้ไปได้เลยหรือจะคัดลอกไปเพิ่มไว้ในเมนู Favorites ได้ตามประสงค์ได้ที่

Link: http://www.stc.arts.chula.ac.th/WisdomMag/

เพลงจีนฉากความงามแห่งเมืองยูนนาน

จูบมารธอนพัทยายอดคลิกกระฉุนเกือบแสน

เอแบคโพลเผยโจ๋ไม่รู้"มาฆบูชา"วันไหน

เอแบคโพลเผยผลสำรวจเยาวชน 65.4% ไม่รู้ว่าวันไหนเป็นวันมาฆบูชา ส่วนหลักธรรมสำคัญ โอวาทปาฏิโมกข์ มีคนรู้จักแค่ 27.7% แต่เยาวชนส่วนใหญ่ ยังให้ความสำคัญกับการทำบุญในวันสำคัญทางพุทธศาสนา ด้าน "ค้าภายใน" ออกสุ่มตรวจชุดสังฆทาน ป้องกันฉวยโอกาสขึ้นราคา และใช้สินค้าไม่ได้มาตรฐาน

(16ก.พ.) นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการศูนย์เครือข่ายวิชาการเพื่อสังเกตการณ์และวิจัยความสุขชุมชน (ศูนย์วิจัยความสุขชุมชน) มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เอแบค) เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่อง ความรู้ ความเข้าใจของเด็ก-เยาวชนไทยเกี่ยวกับวันมาฆบูชา และความตั้งใจที่จะทำกิจกรรมต่างๆ ในวันมาฆบูชา กรณีศึกษาตัวอย่างเยาวชนอายุ 12-24 ปีที่พักอาศัยอยู่ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จำนวน 1,325 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 10-12 กุมภาพันธ์ 2554 โดยผลการสำรวจ พบว่ามีเพียงร้อยละ 34.6 ทราบและระบุได้ถูกต้อง ว่าวันมาฆบูชาตรงกับวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ขณะที่เยาวชนร้อยละ 65.4 ไม่ทราบว่าเป็นวันไหน

สำหรับผลสำรวจเมื่อสอบถามการรับรู้ในหลักธรรมคำสอนที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงในวันมาฆบูชานั้น พบว่ามีตัวอย่างเพียง ร้อยละ 37.3 เท่านั้นที่สามารถระบุได้อย่างถูกต้องว่าคือ “โอวาทปาฏิโมกข์” ในขณะที่ตัวอย่างประมาณ 2 ใน 3 คือร้อยละ 62.7 ไม่ทราบ/ระบุไม่ถูกต้อง ประเด็นที่น่าสนใจอย่างยิ่ง คือ เมื่อได้สอบถามต่อไปว่าหลักธรรมโอวาทปาฏิโมกข์ หมายถึงอะไรนั้นพบว่า มีอยู่เพียงร้อยละ 27.7 เท่านั้นที่สามารถสรุปใจความสำคัญของหลักธรรมดังกล่าวได้อย่างถูกต้องว่าหมายถึง “การทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้บริสุทธิ์” นอกจากนั้นคือร้อยละ 12.9 ระบุความหมายของโอวาทปาติโมกข์ในแบบอื่นๆ อาทิ หมายถึง การเดินทางสายกลาง การดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาท ความละอายและเกรงกลัวต่อบาป ในขณะที่ร้อยละ 51.0 ระบุถูกทุกข้อที่กล่าวมา และร้อยละ 8.4 ระบุไม่ทราบว่าหมายถึงอะไร

สำหรับกิจกรรมที่จะทำในวันมาฆบูชาที่จะมาถึงนี้ พบว่า ร้อยละ 72.2 ระบุจะทำบุญตักบาตร ร้อยละ 50.9 ระบุร่วมพิธีเวียนเทียน ร้อยละ 42.0 ระบุใช้เวลาอยู่กับครอบครัว และรอง ๆ ลงมา คือ ถวายสังฆทาน ทำความสะอาดบ้านเรือน ปล่อยนก ปล่อยปลา บริจาค ทำทานสงเคราะห์ผู้อื่น เข้าวัดฟังธรรม นั่งสมาธิ เจริญภาวนา และช่วยงานชุมชน/สาธารณะ เป็นต้น ส่วนพฤติกรรมที่เยาวชนไทยตั้งใจจะลด ละ เลิกในวันมาฆบูชาที่จะมาถึงนี้ ได้แก่ เลิกนิสัยการพูดไม่ดี เช่น พูดปด โกหก นินทาว่าร้าย พูดส่อเสียด ไร้สาระ เป็นต้น ลดการดื่มเหล้า เลิกสูบบุหรี่ เลิกเล่นการพนัน/อบายมุข เลิกลักเล็กขโมยน้อย เลิกขี้เกียจ เลิกใช้ยาเสพติด เลิกทำสิ่งผิดกฎหมาย เลิกทะเลาะวิวาทกับคนอื่น/ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน เป็นต้น

ที่น่าพิจารณา คือ สิ่งที่เยาวชนไทยต้องการให้รัฐบาลดำเนินการเพื่อส่งเสริมงานด้านพระพุทธศาสนา พบว่า ร้อยละ 65.7 ระบุจัดให้มีงานนิทรรศการ/กิจกรรมทางศาสนาในวันสำคัญเป็นประจำ ร้อยละ 32.9 ระบุรณรงค์ให้กลุ่มเยาวชนหันมาสนใจ และเข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาให้มากขึ้น อาทิ ทำบุญตักบาตร สวดมนต์ ถือศีล 5 เป็นต้น ร้อยละ 15.5 ระบุจัดสรรงบประมาณในการบำรุงรักษา ศาสนสถานต่างๆ ร้อยละ 1.5 ดูแลพระภิกษุ/สามเณรไม่ให้ทำผิดศีลธรรม และร้อยละ 1.4 ระบุอื่น ๆ อาทิ การรักษาความปลอดภัยภายในวัด/ให้จัดกิจกรรมในวัดให้มากขึ้น เป็นต้น

กลุ่มเด็กและเยาวชนไทยที่ให้ความสำคัญกับวันมาฆบูชามากกว่าวันวาเลนไทน์ มีจำนวนมากกว่า กลุ่มเด็กที่ให้ความสำคัญกับวันวาเลนไทน์มากกว่าวันมาฆบูชา คือ ร้อยละ 43.2 ต่อร้อยละ 6.4 อย่างไรก็ตาม ร้อยละ 27.3 ให้ความสำคัญเท่ากันทั้ง 2 วัน และร้อยละ 23.1 ไม่มีความเห็น

นายนพดล กล่าวเพิ่มเติมว่า จากผลการสำรวจครั้งนี้ พบว่า ความรู้ความเข้าใจและการให้ความสำคัญของเด็กและเยาวชนต่อวันมาฆบูชาอยู่ในเกณฑ์น้อย และเมื่อพิจารณาด้านการประพฤติปฏิบัติตนทางศาสนาแล้วพบว่าอยู่ในเกณฑ์ที่น่าเป็นห่วงเพราะเด็กมีความตั้งใจน้อยมากในเรื่องการเข้าวัดฟังเทศน์ ฟังธรรม และการนั่งสมาธิเจริญภาวนา

นอกจากนี้ เด็กบางส่วนตั้งใจจะ ลด ละ เลิก สิ่งที่ไม่ดีไม่งามในวันมาฆบูชา แต่ก็มีโอกาสสูงที่จะกลับไปทำผิดซ้ำอีก เพราะสภาพแวดล้อมชุมชน สถานศึกษา สื่อมวลชน การโฆษณา กลุ่มเพื่อน ความเคยชิน และครอบครัว เป็นปัจจัยชี้ชวนนำที่มีอิทธิพลสูงต่อการตัดสินใจของเด็กและเยาวชนกลุ่มนี้ จึงเรียกร้องให้รัฐบาลชุดปัจจุบันและผู้ใหญ่ในสังคมให้ความสำคัญกับระบบคุณธรรม หลักศาสนาของทุกศาสนา กระตุ้นให้เด็กและเยาวชนแปลงความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง เสริมความตระหนักและจิตสำนึก สู่แนวทางปฏิบัติในกลุ่มเด็กและเยาวชนอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน

ขณะเดียวกัน สื่อมวลชนเป็นสถาบันที่สำคัญและมีผลชี้นำชี้แนะที่สร้างสรรค์ให้กับกลุ่มเด็กและเยาวชนได้อย่างมาก สถาบันสื่อมวลชนจึงน่าที่จะช่วยกันรณรงค์ให้เด็กและเยาวชนหันมาสนใจวันสำคัญทางศาสนา และแสดงออกซึ่งพฤติกรรมที่ดีไม่ใช่มีแต่เพียงความตั้งใจเท่านั้น นอกจากนี้กลุ่มพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครูอาจารย์ทั้งหลายควรใช้โอกาสวันมาฆบูชานี้ทำให้ความตั้งใจของเด็กและเยาวชนบรรลุถึงกิจกรรมที่ดีได้

นอกจากนี้ โรงเรียนและชุมชนควรจัดสร้างบรรยากาศของการทำความดีให้เกิดขึ้นโดยมีกลุ่มเด็กและเยาวชนเป็นกำลังสำคัญในการทำกิจกรรมต่างๆ เช่น การทำบุญตักบาตรร่วมกัน การทำกิจกรรมสาธารณประโยชน์เพื่อโรงเรียนและชุมชน เป็นต้น ผลที่ตามมาก็คือ เด็กและเยาวชนของสังคมน่าจะสามารถบรรลุถึงความสำเร็จในการทำกิจกรรมที่ดีตามหลักคำสอนของพระพุทธศาสนาได้อย่างยั่งยืนต่อไป ดร.นพดล กล่าว

ผู้บริหารมจร.เข้าร่วมสัมมนาSocial Network

เว็บไซต์มจร.รายงานว่า เมื่อวันที่ ๑๕ ก.พ. ผู้บริหารมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย นำโดย พระมหาไพรัชน์ ธมฺมทีโป ผู้อำนวยการสำนักงานอธิการบดี รักษาการผู้อำนวยการกองกลาง พร้อมคณะ จำนวน ๘ รูป เข้าร่วมสัมมนามหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ (ทอมก.) ในหลักสูตร Social Network กับการเพิ่มประสิทธิภาพการพัฒนางานเลขานุการและงานธุรการยุคใหม่ ณ โรงแรมเซนจูรี่ พาร์ค กรุงเทพมหานคร ซึ่งจัดโดยมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ใช้ระยะเวลาสัมมนา ๒ วัน (๑๕-๑๖ ก.พ. ๕๔)

การสัมมนาครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมสัมมนา จำนวน ๑๕๓ รูป/คน จากมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ ๑๔ แห่ง คือ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยทักษิณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยบูรพา มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระเจ้าเกล้าธนบุรี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ มหาวิทยาลัยพะเยา และมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ โดยมุ่งหวังให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้การจัดการและการควบคุมการบริหารสำนักงาน เพื่อพัฒนาวิธีการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น และเพื่อให้เกิดระบบเครือข่ายความร่วมมือในการพัฒนาคน และพัฒนางานของมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐต่อไป

พม่าห้ามทัวร์ไทยเข้าเชียงตุงหลัง"ชวน"ดอดเที่ยว


ภาพเมื่อปี 2551

เว็บไซต็ Khonkhurtai รายงานวันที่ 16 กุมภาพันธ์ความว่า ตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ. เป็นต้นมา กองทัพภาคสามเหลี่ยมพม่า มีบก.อยู่ที่เมืองเชียงตุง รัฐฉานภาคตะวันออก ได้มีคำสั่งห้ามรถทัวร์จากประเทศไทย เดินทางข้ามจากอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ผ่านท่าขี้เหล็กไปยังเมืองเชียงตุงได้อีก โดยทางกองทัพภาคไม่ได้ชี้แจงถึงสาเหตุการสั่งห้ามในครั้งนี้

ขณะที่แหล่งข่าวผู้ใกล้ชิดเจ้าหน้าที่ระดับสูงของพม่าเปิดเผยว่า การสั่งห้ามรถทัวร์จากไทยเกิดขึ้นหลังจากนายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมคนสนิทเดินทางเข้าไปเที่ยวเมืองเชียงตุง เมื่อวันที่ 23 ม.ค. ที่ผ่านมา โดยอดีตนายกรัฐมนตรีได้พักค้างที่เมืองเชียงตุงหนึ่งคืนก่อนเดินทางกลับ

"การเดินทางไปเมืองเชียงตุงของนายชวนทำให้เจ้าหน้าที่ในท้องที่ถูกตำหนิจากเบื้องบน โดยกล่าวหาว่า เจ้าหน้าที่ในท้องที่ไม่มีการตรวจเช็คและแจ้งให้เบื้องบนทราบ" แหล่งข่าวกล่าว

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่พม่าประจำด่านตรวจมักไม่มีการเข้มงวดนักท่องเที่ยวจากไทยที่เดินทางไปกับรถทัวร์ขนาดใหญ่ ซึ่งหากผู้นำทาง หรือ ไกด์ลงไปแจ้งจำนวนนักท่องเที่ยวต่อเจ้าหน้าที่ ทางเจ้าหน้าที่จะไม่มีการขึ้นตรวจเช็คบนรถอย่างละเอียด และเชื่อว่า คณะทัวร์ของนายชวน หลีกภัย อาจไม่ได้ถูกตรวจเช็คบุคคลจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและเจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจ ทำให้สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวเมืองเชียงตุง และเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ของพม่าในพื้นที่ถูกตำหนิ

แหล่งข่าวเผยว่า นายชวนพร้อมคณะได้เดินทางไปสักการะพระธาตุจอมทอง และวัดหัวโข่ง สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเมืองเชียงตุง จากนั้นได้เดินทางเที่ยวชมตลาดเมืองเชียงตุง ซึ่งระหว่างนั้น มีผู้คนที่จำนายชวนได้จากการดูโทรทัศน์ของไทยต่างสะกิดให้กันดูด้วยความดีใจ ขณะที่บางคนได้หยิบกล้องถ่ายถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึกด้วย โดยคณะทัวร์ของนายชวน ได้เดินทางกลับในวันที่ 24 ม.ค. ซึ่งหลังจากคณะทัวร์ของนายชวนเดินทางกลับ ทางแม่ทัพภาคเชียงตุงถึงได้ทราบเรื่อง

วันอังคารที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ปีใหม่ไต2105อ.น้ำคำจ.หมู่แจ้รัฐฉานตอนเหนือ

จลาจลวงร็อก"เดฟโทนส์"มะกันเบี้ยวแสดง



เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 15 กุมภาพันธ์ เกิดเหตุจลาจลบริเวณธันเดอร์โดม เมืองทองธานี หลังแฟนเพลงชาวร็อกที่ชื่นชอบวงเดฟโทนส์ (DEFTONES) วงอัลเทอเนทีฟร็อกเมทัลรุ่นแรกๆ จากอเมริกา เกิดความไม่พอใจที่คอนเสิร์ต Singha Corporation Presents DefTones Live In Bangkok 2011 ที่ถูกยกเลิกอย่างกะทันหัน

จุฬาฯ จัดถก"ฝ่าวิกฤตชายแดนไทยเขมร"

เวลา 13.00 น.วันที่ 16 ก.พ.คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ จัดเสวนาวิชาการ "รัฐศาสตร์ภาคประชาชน "ฝ่าวิกฤตชายแดนไทยเขมร" โดย ศ.ดร.ธงชัย วินิจจะกูล อาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยวิสคอนซิน-เมดิสัน สหรัฐฯ และ รศ.ดร.สุรชาติ บำรุงสุข อาจารย์ภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ที่ห้องประชุมมาลัยหุวนันท์ ตึก 3 คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ

รายงานตีสิบเยี่ยมศรีหนุ่ม เชิญยิ้ม









จัดทัศนศึกษาสานสัมพันธ์วัฒนธรรมอาเซียน

ท่ามกลางการปะทะบริเวณชายแดนไทย - แขมร์ขณะที่ประชาคมอาเซียน ที่ชาวอุษาคเนย์พยามให้เกิดขึ้นในปี 2558 สำนักยงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ร่วมมือสโมสรมิตรภาพวัฒนธรรมสากลสมาคมนักกลอนแห่งประเทศไทย และคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคามจัด เยาวชนอาเซียนร่วมทัศนะศึกษาและสานสายสัมพันธ์วัฒนธรรมอาเซียนครั้งที่ 1 ณ มหาวิทยาลัยมหาสารคามระหว่างวันที่ 24-26 กุมภาพันธ์ นี้

World Record Kissing Marathon

ชมบรรยากาศสภาพม่าพร้อมเสียงร้องของสตรี

พัฒนาชุมชนพะเยาเสนอสถาบันเงินทุนแม่ใส



สภารัฐฉาน(ชั่วคราว)จัดประชุมประจำปีครั้งที่3


เว็บไซต์TAIFREEDOMรายวานว่า เมื่อวันที่ 10 – 12 กุมภาพันธ์ 2554 สภารัฐฉาน (ชั่วคราว) - Shan State Congress (Provisional) จัดการประชุมประจำปี (ครั้งที่ 3 ) ขึ้น ณ บริเวณพื้นที่ชายแดน ไต – ไทย แห่งหนึ่ง มีตัวแทนกลุ่มสมาชิกและกลุ่มสังเกตการณ์เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง การประชุมในปีนี้ คณะกรรมการสภารัฐฉาน (ชั่วคราว) ได้รายงานถึงผลการดำเนินงานที่ผ่านมาในรอบ 1 ปี และที่ประชุมได้ร่วมกันวางแผนที่จะเข้าเจรจาชักชวนกลุ่มการเมืองในรัฐฉานให้เข้าเป็นสมาชิกของสภารัฐฉาน (ชั่วคราว) - Shan State Congress (Provisional) พร้อมทั้งร่วมกันวางแผนในการจัดหางบประมาณดำเนินงาน

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้ร่วมกันร่างโครงสร้างสภารัฐฉานโดยมีมติที่จะนำมาหารือกันอีกครั้งในการประชุมประจำปีคราวหน้า รายชื่อกลุ่มสมาชิกสภารัฐฉาน (ชั่วคราว) - Shan State Congress (Provisional) ที่เข้าร่วมประชุมในปีนี้ ประกอบด้วยกลุ่มปลดปล่อยชาติพันธุ์ปะโอ (PNLO) , กลุ่มองค์กรแห่งชาติพันธุ์ว้า WNO) , กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยชาติพันธุ์ลาหู่ (LDU) , สภาเพื่อการกอบกู้รัฐฉาน (R.C.S.S.) , กลุ่มพัฒนาประชากรในรัฐฉาน (SSWA) , คณะที่ปรึกษาสภาเพื่อการกอบกู้รัฐฉาน (R.C.S.S.) , คณะกรรมการกลุ่มพัฒนาหมู่บ้านในรัฐฉาน (SRDC) , กลุ่มประสานงานไต (TCC) , คณะกรรมการช่วยเหลือชาติพันธุ์ , กลุ่มประสานงานเยาวชนไต (SYNG) , กลุ่มสื่อเยาวชนไต (SYP) , กลุ่มสื่อ S.H.A.N. , กลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนในรัฐฉาน (SHRF) และตัวแทนฝ่ายพลเรือนอีกจำนวนหนึ่ง

นอกจากสมาชิกข้างต้นแล้ว ในการประชุมประจำปีนี้ กลุ่มแนวร่วมปลดปล่อยรัฐปะหล่อง (PSLF) ยังได้ส่งตัวแทนเข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย

กำลังพลกองพลน้อยที่7(ก่าลิ)หันกลับมาสมทบ S.S.A.

กำลังพลในสังกัดกองพลน้อยที่ 7 (ก่าลิ) ที่ผู้บังคับบัญชาจาก บก.แสงแก้ว (กองพลน้อยที่ 3 กองทัพรัฐฉาน – กลุ่มหยุดยิง) พาไปทำสัญญาตกลงกับกองทัพรัฐบาลเผด็จการทหารพม่า (ทพม.) ในการแปรเปลี่ยนสถานะกองกำลังไปเป็นกองกำลังอาสาสมัครรักษาชายแดน (BGF) เมื่อช่วงกลางปี ค.ศ.2010 ที่ผ่านมา หันกลับมาสมทบกับกองทัพรัฐฉาน (S.S.A.) อ้างการเป็น BGF ไม่ใช่อุดมการณ์ของพวกตน

เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2554 ที่ผ่านมา ร.ท.ตองเคอ รอง ผบ.พัน.ร.11 สังกัดกองพลน้อยที่ 7 S.S.A. (กลุ่มหยุดยิง) – ก่าลิ นำผู้ใต้บังคับบัญชาจำนวน 11 นาย ประกอบด้วย ส.อ. 2 นาย , ส.ท. 2 นาย , ส.ต. 1 นาย และพลทหาร 6 นาย พร้อมด้วยอาวุธปืน M22 , M16 , M23 , M60 , RPG , 9 mm และเครื่องกระสุนอีกเป็นจำนวนมาก หันกลับมาสมทบกับกองทัพรัฐฉาน (S.S.A.) เพื่อทำการต่อสู้กับพม่า ในการกอบกู้รัฐฉาน (Shan State) กลับคืนสู่อิสรภาพ
ร.ท.ตองเคอ เปิดเผยถึงการตัดสินใจนำผู้ใต้บังคับบัญชา หันกลับมาสมทบกับกองทัพรัฐฉาน (S.S.A.) ว่า

“เมื่อช่วงกลางปี ค.ศ.2010 ผู้บังคับบัญชาระดับสูงบางส่วนในกองพลน้อยที่ 3 (บก.แสงแก้ว) และ กองพลน้อยที่ 7 (ก่าลิ) กองทัพรัฐฉาน (S.S.A. - กลุ่มหยุดยิง) ตัดสินใจผิดพลาด ที่นำผู้ใต้บังคับบัญชาไปตกลงกับ ทพม.ในการแปรเปลี่ยนสถานะกองกำลังไปเป็นกองกำลังอาสาสมัครรักษาชายแดน (BGF) สร้างความไม่พอใจให้เกิดกับกำลังพลเป็นจำนวนมาก เพราะเริ่มแรกที่ตัดสินใจมาเป็นทหารนั้น กำลังพลทุกนายมีอุดมการณ์ที่จะต่อสู้กับพม่า เพื่อกอบกู้อิสรภาพของรัฐฉานกลับคืนมา ตลอดจนพัฒนารัฐฉานให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองทัดเทียมนานาประเทศ และประชาชนในรัฐฉาน ได้อาศัยอยู่ด้วยความร่มเย็นสงบสุข แต่เมื่อผู้บังคับบัญชานำพวกเราไปเป็น BGF เราไม่ยอมรับ เพราะนั่นไม่ใช่อุดมการณ์หรือความต้องการของเรา จึงตัดสินใจหันกลับมาสมทบกับกองทัพรัฐฉาน (S.S.A.) เพื่อทำการต่อสู้กับพม่าตามอุดมการณ์ของพวกเราต่อไป”

ทหารพม่าบุกบังคับขืนใจเด็กหญิงไตอายุเพียง 16 ปี

เมื่อเวลา 15.00 น.ของวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2554 ที่ผ่านมา เกิดเหตุทหารพม่า สังกัด พัน.ร.243 ทพม. บุกบังคับขืนใจเด็กหญิงชาติพันธุ์ไต อายุเพียง 16 ปี ขณะเฝ้าบ้านอยู่เพียงลำพัง ขณะที่คนส่วนใหญ่ไปร่วมงานวันชาติไต

วันจันทร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

KhmerReadingBook

พิธีแต่งงานไทดำในต่างประเทศ











ยูเอ็นโยนอาเซียนจัดทวิภาคไทย-เขมร

นางมาเรีย ลุยซา ริเบโร วิออตติ ประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ แถลงภายหลังการประชุมเสร็จสิ้น โดยแสดงความวิตกอย่างยิ่งต่อปัญหาขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา และเรียกร้องให้สองฝ่ายทำข้อตกลงหยุดยิงถาวร ตลอดจนแสวงหาหนทางแก้ปัญหาอย่างสันติ



นอกจากนี้ยูเอ็นเอสซีแสดงความยินดีและชื่นชมอาเซียนที่จะมีแผนจัดประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์นี้ ที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย โดยในขั้นนี้ยูเอ็นสนับสนุนการเจรจาแบบสองฝ่าย โดยมีอาเซียนเป็นผู้สนับสนุน และจะไม่มีการส่งตัวแทนของยูเอ็นไปร่วมประชุมอาเซียนแต่อย่างใด

มหกรรมอาหารล้านนาปลอดภัยเยือนเมืองโอ่ง

รถไฟความเร็วสูงฮานอย-หนานหนิงเปิดวิ่ง2012

สำนักข่าวซีอาร์ไอทางการของจีนรายงานว่า ขญะนี้ รางรถไฟความเร็วสูงระหว่างเมืองผิงเสียงที่เชื่อมโยงกับเมืองหนานหนิงเขตกวางสีเริ่มก่อสร้างแล้ว คาดว่า จะแล้วเสร็จในปี 2012 ถึงเวลานั้น การโดยสารรถไฟความเร็วสูงจากเมืองหนานหนิงถึงเมืองผิงเสียง ซึ่งเป็นเมืองในเขตกวางสีที่อยู่ชายแดนจีน-เวียดนามใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น ทำให้ขบวนรถไฟนานาชาติจากเมืองนานหนิงถึงกรุงฮานอยของเวียดนามสั้นลงอีก 3 ชั่วโมง และการไปมาหาสู่กันระหว่างหนานหนิงกับฮานอยสะดวกมากขึ้น

ขบวนรถไฟนานาชาติจากหนานหนิงถึงกรุงฮานอยได้เปิดให้บริการสองปีแล้ว โดยมีระยะทางทั้งหมด 396 กิโลเมตร และใช้เวลาวิ่ง 13 ชั่วโมง

แชนแนล[วี]ไทยแลนด์เล็งผุดโปรเจ็คท์ใหญ่ยักษ์เพียบ


แถลงข่าวกันไปอย่างสนุกสนานเฮฮากับปาร์ตี้มันส์ๆเปิดบ้าน เปิดโปง Year Plan ปีกระต่ายของแชนแนล [วี] ไทยแลนด์ “Channel [V] Thailand Presents 2011 Year Plan” เมื่อเย็นวันศุกร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2554 ที่ผ่านมา ณ [V] Spot ชั้น 6 สยามดิสคัฟเวอรี่ กับหลากหลายโปรเจ็คท์ดีๆที่แชนแนล [วี] ไทยแลนด์จัดหนักในปี 2554 นี้



บรรยากาศในงานเป็นไปด้วยความครึกครื้น โดยบอสใหญ่ของแชนแนล [วี] ไทยแลนด์ หม่อมตาม ม.ร.ว. รุจยารักษ์ อาภากร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท แชนแนล [วี] มิวสิค (ประเทศไทย) จำกัด นำทีมวีเจทุกรุ่นของแชนแนล [วี] ไทยแลนด์ต้อนรับบรรดาสื่อมวลชนและบริษัทเอเจนซี่มากมายที่มาร่วมปาร์ตี้เปิดบ้านในครั้งนี้ ซึ่ง ม.ร.ว. รุจยารักษ์ อาภากร กล่าวว่า “ในปีนี้แชนแนล [วี] ไทยแลนด์จะขอปฏิวัติสถานีโทรทัศน์ดนตรีของไทยด้วยการคิดใหม่ทำใหม่กับโปรเจ็คท์แปลกใหม่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการประกวดวงดนตรีหน้าใหม่แบบเรียลลิตี้กับ [V] แนว หน้าใหม่ การจัด [V] Music Festival ทำภาพให้เป็นเพลง ทำเพลงให้เป็นภาพ คอนเสิร์ตดีๆฟรีๆทุกเดือนกับ [V] The Volume โครงการสร้างสรรค์สังคมดีๆที่ไม่ต้องรอให้โตเป็นผู้ใหญ่กับ [V] Volunteer รวมไปถึงการประกาศรางวัลเพื่อคนทำงานดนตรีคุณภาพที่แชนแนล [วี] ไทยแลนด์เป็นผู้ริเริ่มอย่าง Channel [V] Thailand Music Video Awards นอกจากนี้ เรายังเตรียมผลักดันเหล่าวีเจรุ่นใหญ่ของเรา ทั้งวีเจจ๋า - ณัฐฐาวีรนุช วีเจเอก - เอกชัย วีเจลูกเกด - จิรดา วีเจวุ้นเส้น - วิริฒิพา และวีเจพิตต้า ขึ้นแท่นผู้บริหารเข้ากุมบังเหียนในส่วนต่างๆของแชนแนล [วี] ไทยแลนด์ เริ่มจากแผนกใหม่ Talent Management ในการดูแลวีเจน้องๆทั้ง 15 คน ประกอบด้วยวีเจปัจจุบัน 5 คนและวีเจใหม่ 10 คนที่เราเพิ่งคัดเลือกมาจากโครงการ Channel [V] Thailand VJ Search 2010 by New Honda Scoopy i ซึ่งเรามองว่าประสบการณ์ที่ผ่านมาของวีเจรุ่นใหญ่เป็นเครื่องพิสูจน์ได้อย่างดีถึงความพร้อมของพวกเขาในการก้าวไปสู่ความเป็นมืออาชีพอีกระดับหนึ่ง”

ปิดท้ายค่ำคืนอันสนุกสนานด้วยการจับฉลากแจกของรางวัลมูลค่ารวมกว่า 5 แสนบาท เรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดจากผู้ร่วมงานไปได้มากโขด้วยลูกเล่นการซ่อนซองอั่งเปาไว้ใต้เก้าอี้ แถมยังมีการจับฉลากแจกรางวัลใหญ่บนเวทีทั้งโทรศัพท์มือถือและตั๋วเครื่องบินไปกลับทั้งจุดหมายภายในประเทศและต่างประเทศ จากนั้นจึงส่งท้ายปาร์ตี้กันแบบชิลชิลด้วยฝีไม้ลายมือการเป็นดีเจเปิดแผ่นของวีเจไมค์ หว่อง ถือเป็นการส่งท้ายปาร์ตี้เปิดตัวโปรเจ็คท์ยิ่งใหญ่ในปี 2554 ของแชนแนล [วี] ไทยแลนด์ได้อย่างสนุกสนานประทับใจ

วันศุกร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

คืนใจ ใจเย็นวิเคราะห์การเมืองพม่าหลังได้ปธน.ใหม่



คืนใจ ใจเย็น เป็นคนไทใหญ่ เจ้าของสำนักข่าวต่างประเทศในพม่า สามารถพูดภาษาพม่าได้ด้วย

พม่าเสริมทหาร–รถถังชิดพื้นที่กองกำลังไทใหญ่"เหนือ"

เว็บไซต์Khonkhurtaiรายงานว่า กองทัพพม่าเสริมกำลังทหารพร้อมรถถังเข้าประชิดพื้นที่กองกำลังไทใหญ่ "เหนือ" SSA 'North' ทั้งสั่งปิดเส้นทางเข้าสู่ที่ตั้งกองบัญชาการใหญ่ ด้านเจ้าหน้าที่ระดับสูง SSA 'North' ระบุ เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการเตรียมโจมตี….

แหล่งข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 9 ก.พ. ที่ผ่านมา กองทัพรัฐบาลทหารพม่าได้เสริมกำลังทหารราว 200 นาย เดินทางด้วยรถบรรทุก 6 คัน พร้อมด้วยรถถังอีก 6 ลำ จากเมืองตองจีเข้าไปในพื้นที่เมืองหนอง รัฐฉานตอนกลาง ซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อพื้นที่เคลื่อนไหวของกองกำลังไทใหญ่ "เหนือ" Shan State Army (SSA) 'North' โดยขณะนี้มีรถถังอีกอย่างน้อย 20 ลำ เตรียมถูกส่งไปเสริมเพิ่มซึ่งคาดว่าจะถึงที่หมายในเร็วๆ นี้

ขณะเดียวกัน กองทัพรัฐบาลทหารพม่าได้มีคำสั่งปิดเส้นทางสายระหว่างเมืองเกซี – เมืองสู้ อันเป็นเส้นทางรถยนต์เข้าสู่บ้านไฮ ที่ตั้งกองบัญชาการใหญ่ของกองกำลังไทใหญ่ "เหนือ" SSA 'North' อยู่ทางทิศตะวันออกของเมืองเกซีด้วย โดยคำสั่งมีขึ้นเมื่อวันที่ 8 ก.พ. ที่ผ่านมา ส่งผลให้รถยนต์ที่วิ่งบนเส้นทางสายดังกล่าวเป็นประจำต้องหันไปใช้เส้นทางอื่นแทน

การเคลื่อนไหวทางทหารของกองทัพพม่าในรัฐฉานครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกหลังการประชุมรัฐสภาของรัฐบาลใหม่พม่า โดยก่อนหน้านี้ กองทัพรัฐบาลทหารพม่าถูกสั่งหยุดเคลื่อนไหว เนื่องจากมีการเรียกประชุมสภาครั้งแรกหลังการจัดตั้งรัฐบาลใหม่จากการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 7 พ.ย. ปีที่ผ่านมา

ด้านเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองกำลังไทใหญ่ 'เหนือ' คนหนึ่งเปิดเผยว่า การเคลื่อนไหวทางทหารของกองทัพพม่านี้ ถือเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการเตรียมโจมตีกองกำลังไทใหญ่ 'เหนือ' SSA 'North' ชัดเจน อย่างไรก็ตาม แม้ขณะนี้ยังไม่มีความตึงเครียดของกำลังทั้งสองฝ่าย แต่ทางบก.กองกำลังไทใหญ่ 'เหนือ' SSA 'North' ได้มีคำสั่งให้กำลังพลอยู่ในความพร้อมเตรียมรับมือแล้ว

เจ้าหน้าที่คนเดิมของกองกำลังไทใหญ่ 'เหนือ' เผยด้วยว่า นับเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี ที่กองทัพพม่ามีคำสั่งปิดเส้นทางสายเมืองเกซี – เมืองสู้ ซึ่งเส้นทางสายดังกล่าวเป็นเส้นทางสัญจรของกองกำลังไทใหญ่ 'เหนือ' มาตั้งแต่มีการเจรจาหยุดยิงกันเมื่อปี 2532 โดยการเคลื่อนไหวของกองทัพพม่านี้เชื่อว่าเป็นไปตามนโยบายกำจัดกองกำลังกลุ่มต่อต้านของรัฐบาลชุดใหม่

ทั้งนี้ กองกำลังไทใหญ่ 'เหนือ' SSA 'North' ได้รับการก่อตั้งขึ้นใหม่จากกองพลน้อยที่ 1 อดีตสังกัดกองทัพรัฐฉาน 'เหนือ' หรือ กลุ่มหยุดยิงไทใหญ่ ที่เปลี่ยนสถานะภาพเป็นหน่วยพิทักษ์ชายแดน BGF ปัจจุบันกองกำลังไทใหญ่ 'เหนือ' SSA 'North' มีพล.ต.ป่างฟ้า เป็นผู้นำสูงสุด มีกำลังพล 5 กองพลน้อย นับตั้งแต่ปฏิเสธรับข้อเสนอของรัฐบาลทหารพม่าในการจัดตั้งเป็นหน่วยพิทักษ์ชายแดน BGF กองกำลังไทใหญ่ 'เหนือ' SSA 'North' ได้เกิดการปะทะกับทหารพม่าแล้วอย่างน้อย 7 ครั้ง

พม่าดูแลเข้มบ้าน"จายหมอกคำ"รองปธน.คนที่ 2

มีรายงานจากแหล่งข่าวรัฐฉานว่า หลังทางการพม่ามีการประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 4 ก.พ. ว่า จายหมอกคำ ชาวไทใหญ่ สมาชิกพรรคสหภาพเอกภาพและการพัฒนา USDP ถูกเลือกเป็นรองประธานาธิบดีคนที่ 2 ของสหภาพพม่า ที่บ้านพักส่วนตัวของเขา ในเขต 7 เมืองล่าเสี้ยว รัฐฉานภาคเหนือ ได้มีคนงานเข้าไปทำการก่อสร้างเสริมรั้วเหล็กล้อมบ้านทั้งด้านข้างและด้านหลังอย่างแน่นหนา ขณะที่ด้านหน้าของบ้านมีการเตรียมก่ออิฐเสริมกำแพงเพิ่ม ทั้งนี้เชื่อกันว่า ทางการพม่าเป็นผู้ออกทุนสร้างให้ เพื่อเป็นการรักษาความปลอดภัยให้กับเขา

จายหมอกคำ ถือเป็นชาวไทใหญ่คนที่สองที่มีโอกาสได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งสำคัญทางการ เมืองสหภาพพม่า โดยคนแรกคือ เจ้าส่วยแต้ก เจ้าฟ้าเมืองหยองห้วย ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีคนแรกสหภาพพม่า ในปี ค.ศ.1948 หลังสหภาพพม่าได้รับเอกราชจากอังกฤษได้ไม่นาน

มีกระแสข่าวว่า ก่อนหน้าการเลือกตั้ง เจ้าหน้าหน่วยข่าวกรองพม่าในรัฐฉานได้มีการประชุมลับหารือกันถึงการทาบทาม จายหมอกคำ เข้าร่วมเป็นสมาชิกพรรค USDP เพื่อเป็นตัวแทนลงแข่งเป็นสมาชิกสภา เนื่องจากเห็นว่า จายหมอกคำ เป็นผู้กว้างขวางในสังคมไทใหญ่ มีความสนิทสนมทั้งผู้นำการเมืองและกลุ่มติดอาวุธ โดยที่หวังให้เขาช่วยไกล่เกลี่ยกลุ่มต่างๆ เข้าร่วมรัฐบาล

ด้าน จายหมอกคำ เคยกล่าวก่อนหน้าการเลือกตั้งที่มีขึ้นเมื่อ 7 พ.ย. ที่ผ่านมา ว่า ที่ตนยอมรับข้อเสนอพม่าเข้าเป็นสมาชิกพรรคข้างรัฐบาลทหารพม่า อาจมีชาวไทใหญ่บางส่วนรวมถึงเพื่อนๆ ไม่เห็นดีด้วย แต่ในความเป็นจริง ตนทำไปเพื่อความอยู่รอดของครอบครัว แต่เมื่อมีโอกาสดีได้รับตำแหน่งที่มีบทบาทก็อาจสามารถช่วยส่งเสริมพัฒนารัฐฉานได้บ้าง

จายหมอกคำ อายุ 61 ปี เกิดที่เมืองหมู่แจ้ รัฐฉานภาคเหนือ จบการศึกษาด้านแพทย์ศาสตร์ จากเมืองมัณฑะเลย์ ระหว่างปีค.ศ.1978–1996 รับราชการและเป็นประธานชมรมการศึกษาและวัฒนธรรมไทใหญ่ เมืองล่าเสี้ยว จายหมอกคำ เป็นเจ้าของโรงพยาบาลอยู่หลีข้า เมืองล่าเสี้ยว รัฐฉานภาคเหนือ

ศูนย์เรียนรู้ตำบลหนองแซงทำน้ำมันจากสปู่ดำ



มธ.จัดถกการเมืองออนไลน์:เสียงจากปลายนิ้ว

วันศุกร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ อาจารย์นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้จัดงานรัฐศาสตร์วิชาการ ครั้งที่ 18 ประจำปี 2554 เรื่อง "การเมืองออนไลน์:เสียงจากปลายนิ้ว" มีการแข่งขันตอบปัญหาทางรัฐศาสตร์ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย การแข่งขันโต้วาทีระดับอุดมศึกษา กิจกรรมห้องเรียนจำลอง


การเสวนาหนัง เรื่อง “มั่นใจว่าคนไทย 1 ล้านคนเกลียดเมธาวี” โดยกลุ่มข้อมูลข่าวสารและวารสารคณะรัฐศาสตร์ ซึ่งมีคุณนิธินันท์ ยอแสงรัตน์ บรรณาธิการอาวุโสฝ่ายบริหารเครื่อเนชั่นเป็นวิทยากรให้ความรู้และเสวนาวิชาการ หัวข้อ “Social Network มิติใหม่ของขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคม: พลังหรือแค่กระแส?” (ห้อง ร.103)



วันเสาร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2554 เวลา 10.00 – 12.00 น. มีเสวนาครบรอบ 1 ปีทวิตรัก หัวข้อ "ทวิตรัก @chalidaporn: พื้นที่ออนไลน์กับการต่อรองโต้เถียงสาธารณะว่าด้วยเรื่องเพศวิถี” (ห้อง ร.103) โดยผู้ร่วมเสวนาประกอบด้วย รศ.ดร.ชลิดาภรณ์ ส่งสัมพันธ์ ณัฐยา บุญภักดี จิตติมา ภาณุเตชะ และเวลา 13.00 – 16.00 น. เสวนาวิชาการ หัวข้อ “สังคมออนไลน์กับปัญหาความมั่นคงรูปแบบใหม่” เวลา 16.30 – 17.30 น. เสวนานักเขียน หัวข้อ “มองสังคมผ่านงานเขียน” (ลานหน้าคณะรัฐศาสตร์) โดย วัชระ สัจจะสารสิน นักเขียนซีไรท์ ประจำปี 2551 ผู้เขียนหนังสือ “เราหลงลืมอะไรบางอย่าง”

วันอังคารที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

กองทัพกู้ชาติไทยใหญ่จัดงานวันชาติปีที่64



เว็บไซต์ Khonkhurtai รายงานว่า ทหารกองทัพกู้ชาติไทยใหญ่สวนสนามเนื่องในวันครบรอบปีที่ 64 ที่กลุ่มเจ้าฟ้าที่ปกครองเมืองต่างๆ ในรัฐฉานชาติไทยใหญ่ รวมตัวเพื่อเรียกร้องเอกราชจากพม่า และกำหนดธงชาติไทยใหญ่ บนดอยไตแลง ซึ่งเป็นที่ตั้งของกองบัญชาการทหารสูงสุดกองทัพกู้ชาติไทยใหญ่ ตรงข้ามจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยมีตัวแทนกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ พร้อมประชาชนชาวไทยใหญ่ตามแนวชายแดนกว่า 1,000 คน ร่วมงาน



ด้าน พล.ท.ยอดศึก ประธานสภากอบกู้รัฐฉาน หรือ RCSS เรียกร้องให้ประชาชนชาวไทยใหญ่ และกลุ่มชาติพันธุ์รวมตัวเป็นกลุ่มเดียวกัน เพื่อทวงคืนเอกราชจากพม่า แม้ว่าพม่าจะผ่านการเลือกตั้งครั้งใหญ่ แต่เป็นการเลือกตั้งที่ไม่ได้รับการยอมรับ เนื่องจากไม่ได้มีส่วนร่วมอย่างแท้จริง พร้อมเชื่อว่าอีก 1-2 เดือนนี้จะมีข่าวดีการรวมกลุ่มของกลุ่มชาติพันธุ์ในพม่า

ขณะที่กลุ่มมอญใหญ่ หรือ NMSP ซึ่งมีพื้นที่เขตอิทธิพลในฝั่งตรงข้ามอำเภอสังขละบุรี จังหวัญกาญจนบุรี ระบุ แม้จะยังไม่ทำสัญญาร่วมกลุ่ม แต่กลุ่มชาติพันธุ์ได้มีการช่วยเหลือทางทหารเบื้องต้นแล้ว ล่าสุดมีรายงานว่ากลุ่มชาติพันธุ์ที่ต่อสู้กับรัฐบาลทหารพม่าได้นัดประชุมครั้งใหญ่ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ที่ฐานที่มั่นทางทหารแห่งหนึ่งในแนวชายแดนไทย- พม่า เพื่อร่างข้อกำหนดและนโยบายที่จะนำใช้ในการร่วมในการรวมกลุ่มซึ่งจะมีในอีก 1-2 เดือนข้างหน้านี้

ทั้งนี้วันที่ 7 เดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี ชาวไทใหญ่ตลอดจนชนทุกเชื้อชาติของรัฐฉานถือเป็นวันชาติของพวกเขา โดยเรียกเป็นภาษาไทใหญ่ว่า “วันเชื้อชาติจึ้งไต” หรือ วันชาติรัฐฉาน นั่นเอง ซึ่งหากวันสำคัญนี้มาถึง ชาวรัฐฉานไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็จะหาโอกาสจัดงานเฉลิมฉลองเพื่อรำลึกถึง บรรพบุรุษ ชาติ และแผ่นดินตัวเอง ในปีนี้ก็เช่นเดียวกัน ที่ชนชาวรัฐฉานได้มีการเฉลิมฉลองวันชาติในโอกาสครบ 64 ปี

"วันเชื้อชาติจึ้งไต" หรือ วันชาติรัฐฉาน เริ่มต้นขึ้นในระหว่างการประชุมของบรรดาเจ้าฟ้าที่ปกครองหัวเมืองต่างๆ พร้อมด้วยตัวแทนประชาชนในรัฐฉานที่เมืองปางโหลง ภาคใต้ของรัฐฉาน เมื่อวันที่ 3 - 12 กุมภาพันธ์ 2490

ในการประชุมนั้น เป็นการหารือกันถึงความต้องการที่จะเรียกร้องเอกราชคืนจากอังกฤษ แต่ระหว่างนั้นในวันที่ 7 ก.พ. 2490 อังกฤษได้ส่งโทรสารถึงผู้เข้าร่วมประชุมว่า “หาก รัฐฉานมีข้อเรียกร้องหรือมีข้อเสนออันใดก็ขอให้จัดการประชุมอย่างเป็นทางการ ที่เมืองตองจี ที่ซึ่งมีข้าหลวงใหญ่ของอังกฤษเป็นประธาน”

ด้วยเหตุนี้ ในช่วงเย็นของวันเดียวกัน ผู้เข้าร่วมประชุมได้มีการเรียกประชุมฉุกเฉินขึ้นโดยได้ชี้แจงถึงข้อเสนอของอังกฤษดั งกล่าว ซึ่งทุกฝ่ายต่างไม่เห็นด้วย เนื่องจากเห็นว่าไม่มีสิทธิตัดสินใจด้วยตนเอง โดยผู้เข้าร่วมประชุมได้มีมติร่วมกันว่า "รัฐฉานจะไม่อยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษอีกต่อไป" จากนั้นได้ร่วมกันออกแถลงการณ์จัดตั้งสภาสหพันธรัฐภายในวันนั้น (วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2490) โดยมีตัวแทนเจ้าฟ้า 7 ท่าน และตัวแทนประชาชนอีก 7 คน เป็นผู้ลงนาม

ในวันเดียวกัน ขุนปานจิ่ง เจ้าฟ้าชาวปะหล่อง ซึ่งปกครองเมืองน้ำสั่น ทางภาคเหนือรัฐฉาน และเป็นประธานสภาสหพันธรัฐฉานขณะนั้น ได้กำหนดผืนธงสีเหลือง เขียว แดง และวงกลมสีขาว พร้อมด้วยเพลงชาติที่ใช้อยู่ในปัจจุบันเป็นของชาวรัฐฉานทั้งมวล และได้กำหนดเอาวันที่ 7 กุมภาพันธ์ เป็นวันชาติรัฐฉาน

หลังจากนายพลอองซาน (บิดานางอองซาน ซูจี) ทราบข่าวการประชุมของบรรดาเจ้าฟ้าของรัฐฉานในวันที่ 7 ก.พ. 2490 ที่มีมติว่า "รัฐฉานจะไม่ขออยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษอีกต่อไป" นั้น ทำให้เขาซึ่งกำลังอยู่ระหว่างเดินทางกลับจากอังกฤษได้แสดงความยินดีด้วย หลังจากที่เขาเดินทางกลับถึงพม่า ในวันที่ 8 ก.พ. 2490 ได้เดินทางไปร่วมประชุมกับบรรดาเจ้าฟ้าไทใหญ่ที่เมืองปางโหลงทันที ทั้งได้กล่าวในที่ประชุมว่า ทางอังกฤษพร้อมที่จะให้เอกราชแก่พม่าและรัฐต่างๆ ภายในปี 2491 แต่ทว่า อังกฤษเกรงว่าจะเกิดปัญหาในการปกครอง ด้วยเหตุนี้ เขาจึงได้เรียกร้องให้ชนชาติรัฐฉานและชนชาติรัฐต่างๆ ร่วมเป็นแรงสนับสนุนด้วย

ในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ ที่ประชุมได้ก่อตั้งสภาสหพันธรัฐเทือกเขา (Supreme Council of the United Hill Peoples - SCOUHP) ขึ้น มีสมาชิก 18 คน จากไทใหญ่, คะฉิ่น, ฉิ่น ฝ่ายละ 6 คน

จากนั้นในวันที่ 12 ก.พ. 2490 นายพลอองซาน กับเจ้าฟ้ารัฐฉาน ในนามสภาสหพันธรัฐเทือกเขา ได้ทำสัญญาเรียกร้องเอกราชจากอังกฤษร่วมกันขึ้น โดยเรียกว่า “สนธิสัญญาปางโหลง” ซึ่งข้อสัญญานี้ถูกบรรจุไว้ในรัฐธรรมนูญหลังการประชุมแล้วเสร็จ โดยมีใจความว่า "หากได้รับเอราชจากอังกฤษแล้ว จะปกครองร่วมกัน 10 ปี จากนั้นทุกรัฐมีสิทธิแยกปกครองตนเอง ด้วยระบอบประชาธิปไตยและสิทธิเท่าเทียม และหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ปฏิบัติตาม ถือว่าเป็นผู้ละเมิดกฎหมายตามรัฐธรรมนูญ"

ทว่า ยังไม่ทันได้รับเอกราชจากอังกฤษ นายพลอองซาน ผู้ร่วมลงนามสนธิสัญญาฝ่ายพม่ากลับถูกลอบสังหารเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2490 และหลังจากได้รับเอกราชจากอังกฤษเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2491 ความหวังที่รัฐฉาน และรัฐต่างๆ ที่ร่วมลงนามจะแยกออกปกครองตนเอง หลังปกครองร่วมกันครบ 10 ปีก็ริบหรี่ ซึ่งพม่าได้ส่งกำลังเข้าครอบครองทั่วทุกรัฐจนถึงทุกวันนี้

อย่างไรก็ตาม แม้ปัจจุบันรัฐบาลทหารพม่ารวมถึงชนชาติสหภาพพม่าจะยังคงยึดถือเอาวันที่ 12 ก.พ. ของทุกปี อันเป็นวันแห่งการรวมพลังเรียกร้องเอกราชจากอังกฤษที่มีต้นกำเนิดมาจากการประชุมของเ จ้าฟ้ารัฐฉาน ในวันที่ 7 ก.พ.1490 เป็นวัน ..สหภาพพม่า.. แต่กระนั้น ความเป็นชาติสหภาพอันหมายถึงการมีสิทธิเท่าเทียมดูเหมือนจะยังไม่ปรากฎให้เห็น

กองกำลังไทใหญ่SSAซุ่มโจมตีทหารพม่าในรัฐฉานต่อเนื่อง

มีรายงานจากแหล่งข่าวด้วยว่า ตลอดช่วงเดือนที่ผ่านมา ในพื้นที่เมืองกุ๋นฮิง เมืองกาลิ เมืองโขหลำ รัฐฉานภาคกลาง ได้เกิดเหตุกองกำลังไทใหญ่ SSA กลุ่มพล.ท.เจ้ายอดศึก ซุ่มโจมตีทหารพม่าอย่างต่อเนื่อง โดยเหตุเกิดขึ้นหลังจากกองทัพพม่าประกาศเตรียมตั้งกองทัพภาคแห่งใหม่ ซึ่งมีกำหนดใช้พื้นที่เมืองกาลิเป็นที่ตั้งกองบัญชาการ

ชาวเมืองกาลิคนหนึ่งเปิดเผยว่า ในช่วงนี้เกิดการปะทะกันระหว่างทหารพม่ากับกองกำลังไทใหญ่ SSA บ่อยครั้ง อย่างน้อยอาทิตย์ 2-3 ครั้ง โดยการปะทะเกิดจากการซุ่มโจมตีของกองกำลังไทใหญ่ SSA ซึ่งทางฝ่ายกองกำลังไทใหญ่ SSA สามารถสังหารทหารพม่าไปแล้วหลายราย

ขณะเดียวกันมีรายงานว่า เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2554 ที่ผ่านมา มีนายทหารพม่าคนหนึ่งในพื้นที่เมืองกุ๋นฮิงหนีทัพ ซึ่งทราบชื่อต่อมาคือ ส.อ.ชิตเผ่ เป็นนายทหารประจำกองร้อยคุ้มกันบก.ควบคุมยุทธการประจำเมืองกุ๋นฮิง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่ทราบเขาได้หลบหนีไปร่วมกองกำลังกลุ่มใด

มธ.จัด"ถกสยาม-ขแมร์คู่รักคู่ชังคู่กรรมคู่เวร"

มธ.จัด"ถกสยาม-ขแมร์คู่รักคู่ชังคู่กรรมคู่เวร"

วันอาทิตย์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

เตีย บันห์เร่งถกเจบีซีแก้ขัดแข้งไทย-เขมร




พล.อ.เตีย บันห์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สปริงนิวส์ ถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดการปะทะระหว่างไทย-กัมพูชา

รำพลายชุมพลเด็กกำพร้าลิเกงานวัดบางใหญ่

รำพลายชุมพลเด็กกำพร้าลิเกงานวัดบางใหญ่

ม.สงฆ์ประชุมตั้งศูนย์พุทธศึกษาในม.ฮาร์วาร์ด

ม.สงฆ์ประชุมตั้งศูนย์พุทธศึกษาในม.ฮาร์วาร์ด


วันพฤหัสบดีที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

วิวัฒนาการแคนดนตรีไทยอีสาน-ลาว











สัมมนามรดกโลกทางวัฒนธรรม5ก.พ.นี้

ด้วยกรมศิลปากร สำนักโบราณคดี จัดการสัมมนามรดกโลกทางวัฒนธรรม เรื่อง การพัฒนาข้อมูลวิชาการด้านมรดกวัฒนธรรมไปสู่ความเป็นมรดกโลก ในวันเสาร์ที่ ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ เวลา ๐๙.๐๐ – ๑๖.๓๐ น.ณ ห้องประชุมดำรงราชานุภาพ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เพื่อเป็นการเผยแพร่ข้อมูลความรู้ทางวิชาการและการดำเนินงานด้านมรดกโลกทางวัฒนธรรมของประเทศไทย

เนื่องในโอกาสครบรอบ ๑๐๐ ปี แห่งการสถาปนากรมศิลปากร และการประกาศขึ้นทะเบียนมรดกโลก แหล่งมรดกวัฒนธรรมแห่งราชอาณาจักรไทย ได้แก่ นครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เมืองเก่าสุโขทัย และเมืองที่เกี่ยวเนื่อง ครบรอบ ๒๐ ปี

กรมศิลปากรมีความยินดีขอเรียนเชิญท่านหรือผู้แทน เข้าร่วมการสัมมนาตามวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าว เพื่อเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบตามความเหมาะสมต่อไป ทั้งนี้ โปรดส่งแบบตอบรับเข้าร่วมสัมมนา ไปยังกลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ ทางโทรสาร ๐ ๒๒๒๔ ๒๐๕๐, ๐ ๒๒๒๒ ๐๙๓๔ หรือโทรศัพท์แจ้งล่วงหน้าที่ โทร. ๐ ๒๒๒๔ ๔๗๐๒

ส.ส.ไทใหญ่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรองปธน.พม่า

เว็บไซต์TAIFREEDOMได้รายงานการเมืองในพม่าโดยอ้างอิงข้อมูลจากสำนักข่าวBBC ความว่า ภายหลังรัฐบาลเผด็จการทหารพม่าได้เปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยแรกผ่านพ้นไปเมื่อ 2 – 3 วันที่ผ่านมา โดยในที่ประชุมฯ ได้คัดเลือกตัวบุคคลที่จะเข้าชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดี เพื่อก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีในรัฐบาลชุดใหม่ ที่มาจากการเลือกตั้งในรอบ 20 ปี ของพม่า ซึ่งประกอบไปด้วยผู้แทนจากสภาผู้แทนราษฏร 2 คน , ผู้แทนจากสภากลุ่มชาติพันธุ์ 2 คน และตัวแทนจากฝ่ายกองทัพรัฐบาลเผด็จการทหารพม่า (ทพม.) 1 คน
ตัวแทนจากสภาผู้แทนราษฏร 2 คน ได้แก่ พล.อ.เต็งเส่ง นายกรัฐมนตรีรัฐบาลเผด็จการทหารพม่าคนปัจจุบัน ผู้แทนสังกัดพรรคจ้านพุด และนายเต็งอ่อง ผู้แทนสังกัดพรรคประชาธิปไตยพะลง – สวอย์ (Phalon-Sawaw Democratic Party) รัฐกะเหรี่ยง
ตัวแทนจากสภากลุ่มชาติพันธุ์ 2 คน ได้แก่ ดร.หมอกคำ เจ้าของโรงพยาบาลในเมืองล่าเสี้ยวและประธานกลุ่มสืบสานวัฒนธรรมไต สังกัดพรรคการเมืองจ้านพุด และ ดร.เอหม่อง ตัวแทนจากพรรคชาติพันธุ์ระแข่งก้าวหน้า (Rakhine Nationalities Development Party : RNDP)
ส่วนตัวแทนฝ่ายทหาร (ทพม.) 1 คน นั้น ยังไม่มีการเปิดเผยว่าเป็นใคร แม้จะมีข่าวลือออกมาหนาหูว่า เป็นไปได้สูงที่ทาง ทพม.จะส่งอดีตนายพลติน อ่อง มิ้น อู เลขาธิการคนที่ 1 ของสภาสันติภาพและการพัฒนาแห่งรัฐ (State Peace and Development Council) ลงชิงตำแหน่งรอง ปธน. เพื่อก้าวสู่ตำแหน่ง ปธน.ต่อไป แต่ก็ไม่มีฝ่ายไหนออกมายืนยันข่าวนี้แต่อย่างใด
ตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญฉบับปี ค.ศ.2008 ของพม่านั้น บัญญัติไว้ว่า ตำแหน่งรอง ปธน. ต้องทำการคัดเลือกจากตัวแทนสภาผู้แทนราษฏร 1 คน ตัวแทนสภากลุ่มชาติพันธุ์ 1 คน และตัวแทนฝ่ายทหาร (ทพม.) 1 คน จากนั้น 1 ใน 3 จากตำแหน่งรอง ปธน. จะก้าวขึ้นดำรงตำแหน่ง ปธน.ในรัฐบาลชุดใหม่ของพม่า โดยการลงคะแนนเสียง (ทางลับ) จากสภาสหภาพ (สภาผู้แทนราษฏร + สภากลุ่มชาติพันธุ์)
กลุ่มติดตามสถานการณ์ทางการเมืองในพม่าหลายฝ่าย พากันวิเคราะห์ว่า เหตุเพราะพรรคการเมืองจ้านพุด สามารถกุมอำนาจเสียงข้างมากในสภาทุกสภาไว้ในกำมือ จึงมีความเป็นไปได้สูงว่า พล.อ.เต็งเส่งและ ดร.หมอกคำ จะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่ง รอง ปธน. ได้อย่างไม่ยากเย็น และ พล.อ.เต็งเส่ง จะได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนแรก ของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งในรอบ 20 ปี ของพม่าในที่สุด
ด้านพี่สาวของดร.หมอกคำ กล่าวว่าแม้นว่าได้แสดงความยินดีกับข่าวนี้แต่ก็เป็นความเป็นห่วงว่าจะเป็นน้ำมันราดใส่พี่น้องไทใหญ่หรือไม่
ทพม.ตั้งกองทัพภาคแห่งใหม่ในรัฐฉาน
ภายหลังที่กองทัพรัฐบาลเผด็จการทหารพม่า (ทพม.) วางแผนยุทธศาสตร์ที่จะจัดดตั้งกองทัพภาคตะวันออกกลาง ทพม. ขึ้นในกิ่ง อ.ก่าลิ จ.ดอยแหลม พื้นที่ทางภาคใต้ของรัฐฉาน(Shan State) ล่าสุด แหล่งข่าวในพื้นที่รายงานเข้ามาว่า ขณะนี้ ทพม.มีแผนที่จะบังคับระดมเกณฑ์ประชาชนในพื้นที่เข้ามาเป็นทหารจำนวน 1,500 นาย เพื่อเข้าประจำการในกองทัพภาคใหม่แห่งนี้
ก่อนหน้านั้น ทพม.มีแผนที่จะโยกย้ายแบ่งกำลังพลจากกองทัพภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทพม. , กองทัพภาคตะวันออก ทพม. และกองทัพภาคสามเหลี่ยมทองคำ ทพม.เข้ามาประจำการในกองทัพภาคตะวันออกกลางแห่งใหม่นี้ แต่เพราะในกองทัพภาคทั้ง 3 แห่ง กำลังพลที่ประจำการอยู่ยังไม่ครบเต็มตามอัตราบรรจุ ทพม.จึงวางแผนที่จะบังคับเกณฑ์เด็กหนุ่มชายฉกรรจ์ในรัฐฉาน (Shan State) มาเป็นทหารเพื่อเข้าประจำการในกองทัพภาคตะวันออกกลาง โดย ทพม.มีคำสั่งด่วนที่สุดถึงแม่ทัพภาค ทพม.ทั้ง 3 กองทัพภาค ในรัฐฉาน (Shan State) ให้เกณฑ์ประชาชนในเขตพื้นที่ของตนให้ได้กองทัพภาคละ 500 นาย
ภายหลังข่าว ทพม.จะบังคับเกณฑ์ประชาชนในพื้นที่เข้าเป็นทหารประจำการแพร่กระจายออกไป ทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้กับสถานที่ตั้งกองทัพภาคตะวันออกกลาง ทพม. เช่น บ้านก่าลิ – กุ๋นฮิง – โขหลำ – น้ำจ๋าง – เมืองจ๋าง – ผาลาง ต่างพากันหอบลูกจูงหลานอพยพย้ายหนีไปอยู่ที่อื่น ซึ่งส่วนที่อพยพหนีเข้ามาเป็นแรงงานต่างด้าวอยู่ในประเทศไทย ก็มีอยู่เป็นจำนวนมาก
ที่ผ่านมา ทพม.ได้ผ่านกฏหมายที่บังคับให้ประชาชนทุกคนต้องผ่านการเกณฑ์ทหาร ซึ่งส่งผลให้ประชาชนทั่วไปหนักใจเป็นกังวลอยู่ก่อนแล้ว พอข่าว ทพม.จะเกณฑ์ทหาร 1,500 นายนี้แพร่กระจายออกไป ยิ่งกลายเป็นแรงกดดัน ที่ทำให้ประชาชนทั่วไปต้องตกอยู่ในสภาวะหวาดกลัวอย่างหนักกว่าเดิม

สื่อจีนเผยวิธีฟิตร่างกาย"อั้ม"จนติดอันดับเอเชีย

เนื่องในเทศกาลตรุษจีนเว็บไซต์ซีอาร์ไอออนไลน์สำนักข่าวทางการของจีนได้บินมาสัมภาษณ์ "อั้ม"อธิชาติ ชุมนานนท์ พระเอกละครไทยยอดฮิตทางช่อง 3 โดยเริ่มจากกล่าวอวยพรชาวจีนเป็นภาษาจีน และวิธีการวิธีฟิตร่างกายจนติดอันดับเอเชีย ติดตามรายละเอียดได้ที่ http://thai.cri.cn/281/2011/01/13/224s183443.htm

วันอังคารที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

นิทรรศการภาพวาดผู้นำเกาหลีเหนือตามอารมณ์ศิลปิน

ดังทั่วโลกสื่อเทศรายงานหาดพัทยาจะหายไปอีก5ปี

ชาวฮานี่หรืออะข่าในจีนกับพิธีไหว้ขวัญข้าว



5ศาสนาออกแถลงการณ์ร่วมส่งเสริมสมานฉันท์

ผู้สื่อข่าวซีอาร์ไอรายงานว่า สัปดาห์แรกของเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ เป็น "สัปดาห์แห่งความสมานฉันท์ระหว่างต่างความเชื่อถือในโลก" ครั้งแรกที่ริเริ่มขึ้นโดยสมัชชาสหประชาชาติ เพื่อตอบสนองความริเริ่มดังกล่าว ศาสนาใหญ่ของจีน 5 ศาสนาได้ประกาศ "แถลงการณ์ร่วมเพื่อส่งเสริมความสมานฉันท์ของศาสนา" ที่กรุงปักกิ่ง โดยเสนอให้ยืนหยัดหลักการรักชาติรักศาสนา มีความเสมอภาคเท่าเทียมกันและให้อภัยแก่กัน เชิดชูทฤษฏีสมานฉันท์ คัดค้านการบิดเบือนสภาพความเป็นจริง และแสดงบทบาทในทางบวก เรียกร้องให้ผู้ที่นับถือศาสนาต่างๆ ในจีนร่วมกันปฏิบัติตามทฤษฎีสมานฉันท์

ศาสนาต่างๆ ของจีนเห็นพ้องต้องกันว่า แต่ละปี ในสัปดาห์แรกของเดือนกุมภาพันธ์ วัดวาอารามทางพุทธศาสนา ศาลเจ้าของลัทธิเต๋า มัสยิดของศาสนาอิสลาม และโบสถ์ของศาสนาโรมันคาทอลิกและศาสนาคริสต์ จะถ่ายทอดข่าวสารระหว่างศาสนาเพื่อความสมานฉันท์และความดีงามตามประเพณีหรือรูปแบบของศาสนานั้นๆ

ม.ปักกิ่งไปบินเปิดรับสมัครนักศึกษาในไทย

สำนักข่าวแห่งประเทศจีนรายงานว่า มหาวิทยาลัยปักกิ่งของจีนไปรับสมัครนักศึกษาในไทยเป็นครั้งที่ 3 โดยมีนักเรียนไทย 29 คนผ่านการสอบข้อเขียน จะเข้าสอบสัมภาษณ์ที่มหาวิทยาลัยปักกิ่ง

เพื่อให้นักเรียนไทยที่มีผลการเรียนภาษาจีนในระดับดีเด่นจำนวนมากขึ้นมีโอกาสไปศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยปักกิ่ง สถาบันอุดมศึกษาที่มีชื่เสียงมากที่สุดในจีน สถาบันข่งจื่อแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้จัดการบรรยายเกี่ยวกับการศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยปักกิ่ง 2 ครั้งที่กรุงเทพฯ และเชียงใหม่ ในวันที่ 28 และ 30 มกราคมที่ผ่านมา นักเรียนจากทั่วไทยกว่า 160 คนสมัครสอบ ผลปรากฎว่า ระดับภาษาจีนของนักเรียนไทยดีกว่าปีที่แล้วอย่างเห็นได้ชัด

ส.ส.สังกัดทหารพม่ากวาดเรียบปธ.สภาฯ

สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า ตามที่มีการเปิดประชุมสภาพม่าสมัยแรกขึ้นที่กรุงเนย์ปิดอว์หลังจากมีการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา โดยในที่ประชุมสภามีการเลือกตั้งตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร , ประธานสภากลุ่มชาติพันธุ์ , ประธานสภาสหภาพ , ประธานสภารัฐ และประธานสภาภาค ซึ่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จากพรรคการเมือง “จ้านพุด” ภายใต้การสนับสนุนของกองทัพพม่า ได้รับการเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานสภาทุกสภาตามคาด

พล.อ.ตู่ระส่วยมาน อดีตผู้มีอำนาจอันดับที่ 3 ใน ทพม. ได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร นายอ่องมิ้น อดีต รมต.กระทรวงวัฒนธรรมรัฐบาลเผด็จการทหารพม่า ได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานสภากลุ่มชาติพันธุ์ ส่วนตำแหน่งรองประธานสภาทั้ง 2 สภานั้น ล้วนได้รับการแต่งตั้งจาก ส.ส.ในสังกัดพรรคการเมือง “จ้านพุด”

นอกจากนี้ ส.ส.ที่ได้รับการเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานสภาและรองประธานสภารัฐในรัฐต่าง ๆ เช่น รัฐมอญ รัฐฉาน รัฐกะเหรี่ยง และรัฐระแข่ง นั้น ล้วนแต่เป็น ส.ส.ในสังกัดพรรคการเมือง “จ้านพุด” ทั้งหมด

ในการเลือกตั้งตำแหน่งประธานสภาและรองประธานสภารัฐนั้น พรรคการเมืองกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ พยายามเสนอรายชื่อ ส.ส.ในสังกัดพรรคการเมืองของตนเข้าชิงตำแหน่ง แต่ก็ต้องพ่ายแพ้ต่อคะแนนเสียงของฝ่ายพรรคการเมือง “จ้านพุด” ภายใต้เสียงสนับสนุนของกลุ่มผู้แทนฝ่ายทหารจากกองทัพรัฐบาลเผด็จการทหารพม่า

จีนรายงานอินโดนีเซียเป็นสถานที่เต็มด้วยดอกไม้



Telairityนายหน้าติดตั้งระบบเครือข่ายมือถือดิจิตอล

(1ก.พ.) IEC ประเทศไทย Telairity ของสหรัฐฯ และ CBC ของจีน ได้ผนึกกำลังเพื่อใช้เครือข่ายใหม่ โดยระบบจะใช้เทคโนโลยี CMMB (ระบบแพร่สัญญาณสื่อผ่านโทรศัพท์มือถือของประเทศจีน)
การวางเครือข่ายวิดีโอระบบดิจิตอลผ่านมือถืออันทันสมัยทั่วประเทศไทยมีความคืบหน้ามากยิ่งขึ้นเมื่อมีการลงนามพันธมิตรเชิงกลยุทธ์อย่างเป็นทางการที่ปักกิ่ง โดยบริษัท อินเตอร์แนชั่นเนิลเอนจีเนียริง จำกัด (มหาชน) แห่งประเทศไทย (IEC) ไชน่า บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น (CBC) และบริษัท Telairity, Inc. (http://www.telairity.com) ของสหรัฐฯ ซึ่งจะทำงานร่วมกันเพื่อวางเครือข่ายแพร่สัญญาณวิดีโอระบบดิจิตอลผ่านมือถือในประเทศไทย
การวางเครือข่ายจะเริ่มขึ้นที่กรุงเทพฯ ในเดือนหน้าที่จะถึงนี้ (3/2011) โดยใช้เทคโนโลยีไร้สาย CMMB (ระบบแพร่สัญญาณสื่อผ่านโทรศัพท์มือถือของประเทศจีน) เป็นหลัก
ทั้งนี้ได้มีการประกาศอย่างเป็นทางการที่ประเทศจีน โดย เบน ซิลวา รองประธานอาวุโสฝ่ายพัฒนาธุรกิจการค้าระหว่างประเทศของบริษัท Telairity ทางบริษัท Telairity จะรับผิดชอบในส่วนของการสร้างพันธมิตรเชิงกลยุทธ์สามทางและทำหน้าที่เป็นผู้รวมระบบให้กับโครงการ
นายซิลวาเปิดเผยว่า สัญญาครั้งนี้เป็นการรวมเอาทรัพยากรของ IEC บริษัทด้านวิศวกรรมและโทรศัพท์มือถือชั้นนำแห่งหนึ่งของประเทศไทย CBC เครือข่ายแพร่สัญญาณโทรศัพท์มือถือที่ใหญ่ที่สุดของโลกในปัจจุบัน และ Telairity บริษัทออกแบบ ผลิตและรวมระบบสากลทางด้านบริการเข้ารหัสวิดีโอและสถานีส่งสัญญาณที่ได้รับความไว้วางใจมากที่สุดในสหรัฐอเมริกา
นอกจากนี้บริษัท Telairity มีความเชี่ยวชาญในเรื่องการออกแบบและใช้ระบบแพร่สัญญาณวิดีโอแบบฟุลสเปกตรัม ได้แก่ DVB-S/S2, DVB-H, DVB-C, DVB-T/T2, DTH, IPTV, การแพร่สัญญาณโทรศัพท์มือถือและแอพพลิเคชั่นสำหรับธุรกิจวิดีโอ
ระบบเครือข่ายใหม่ของประเทศไทยนี้จะใช้มาตรฐานเทคนิค CMMB ของประเทศจีน ซึ่งมีแนวคิดใกล้เคียงกับระเบียบวิธี DVB-H ของสหภาพยุโรป แต่ทันสมัยและประหยัดต้นทุนกว่า โดยโทรศัพท์มือถือหลายรุ่นทั่วโลก รวมทั้งเทอมินัล และมัลติพอยต์กว่า 5,000 รายการสามารถรองรับสัญญาณการออกอากาศผ่านโทรศัพท์มือถือ CMMB ได้
ในปี 2010 IEC ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลให้ดำเนินการส่งสัญญาณภาพโทรทัศน์ดิจิตอลผ่านโทรศัพท์มือถือระบบแรกของประเทศไทย ร่วมกับองค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย (MCOT) ซึ่งเป็นองค์กรรัฐวิสาหกิจด้านการแพร่สัญญาณของประเทศไทย
ด้วยความช่วยเหลือของบริษัท Telairity ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก CBC ทางบริษัท IEC จึงได้เลือกใช้เทคโนโลยี CMMB โดยมีบริษัท Telairity ในฐานะผู้รวมระบบหลักและผู้ให้บริการสถานีส่งสัญญาณ และ Digital Horizon ผู้เชี่ยวชาญการใช้ DVB ชั้นนำระดับโลก เป็นผู้ดำเนินการวางระบบแพร่สัญญาณผ่านโทรศัพท์มือถือทั่วประเทศ
ระบบเครือข่ายในประเทศไทยนี้ถือเป็นผลงานล่าสุดของบริษัท Telairity ต่อจากโครงการตะวันออกไกล โดยมีผลงานอื่นๆ อาทิ การให้บริการตัวเข้ารหัสกับกรมอุตุนิยมวิทยาของจีน จัดจำหน่ายตัวเข้ารหัสสำหรับเครือข่ายบริการผู้บริโภคระบบดิจิตอลอันทันสมัยในจีน และพัฒนาตัวเข้ารหัสแบบดูอัล-ฟอร์แมทตามมาตรฐานของจีนและมาตรฐาน H.264 ของตะวันตก

แหล่งข่าว บริษัท Telairity, Inc.
เอเชียเน็ท/ อินโฟเควสท์
Google