ก่อนหน้านี้คนที่ทำเว็บไซต์และทำ seo เพื่อที่จะหารายได้จาก Google AdSene โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงที่ Google อนุญาตให้นำ AdSene มาแปะในเว็บไซต์ที่เป็นภาษาไทย คงจะปวดหัวไม่น้อยเพราะต้องการที่จะสร้างเว็บไซต์ให้ดูสวยงาม วิจิตรพิสดารต่างๆ แต่ปรากฏว่า search engine ของ กูเกิ้ล ไม่ชอบ เพราะ กูเกิ้ลชอบหน้าเว็บไซต์ที่เรียบง่าย
แต่จากการที่ไปร่วมสัมมนาเรื่อง”จับกระแสแนวโนม eBusiness พลิกวิกฤต สู่โอกาสสร้างรายได้” ที่ทางธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่สีลม เมื่อวันที่ 21 ก.พ. ทำให้ต้องคิดใหม่ทำใหม่ เพราะขณะนี้ search engine ของ กูเกิ้ล เริ่มยอมรับเว็บไซต์ที่สร้างด้วย Flash มากขึ้น ดูได้จากการเสิร์ช จะพบคลิปของยูทูป อยู่ในอันดับต้นๆของหน้าค้นหาของกูเกิ้ลแล้ว
ทั้งนี้จากการเปิดเผยของ คุณสุธีร์ จันทร์แต่งผม ผู้เขียนหนังสือ ”SEO ปรับเว็บให้แรงแต่งให้ติดอันดับ” ได้กล่าวในการบรรยายเรื่อง”SEO Movement 2009 : Something like that” โดยบอกว่า จากการทำวิจัยการทำงานของกูเกิ้ลตั้งแต่ปี 2006 จนถึงปัจจุบันจะเห็นได้ว่า search engine ของ กูเกิ้ล จะเก็บข้อมูลที่มีเนื้อหาหน้าเว็บที่ทำด้วย Flash มากขึ้น และจากผลการเสิร์ชร้อยละ 30 จะพบคลิปของยูทูป
ดังนั้นวิธีการแก้ไขเว็บที่ทำด้วย Flash ก็คือ ทำเนื้อหาใน Flash ให้เป็นตัวหนังสือและอย่าพยายามทำตัวหนังสือให้เป็นกราฟฟิค ขณะเดียวกันหน้าเว็บเพจที่เป็น Flash อย่าทำเป็นหน้าเดียวควรจะทำหลายๆหน้า อย่าทำเป็นไฟล์ใหญ่ควรจะทำเป็นไฟล์เล็กๆ และอย่าใช้โปรแกรม Flash เก่ามาทำควรจะนำโปรแกรมที่อัพเดทที่สุด
พร้อมกันนี้คุณสุธีร์ ยังได้กล่าวด้วยว่า กูเกิ้ลมีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขบ่อยมาก ซึ่งต่อไปนี้กูเกิ้ลจะการให้คะแนน 5 กับเว็บไซต์ที่มีคนเข้ามาชมสูงๆทั้งนี้เพื่อป้องกันเว็บไซต์ขยะที่มุ่งแต่นำคีย์เวิร์ดมาทำเพื่อหวังจะได้อันดับที่ดีๆ ต่อไปนี้กูเกิ้ลจะดูที่เนื้อหาในหน้าเว็บมากขึ้นมาการกอบบี้กันมาหรือไม่ เว็บไซต์ได้มีการระบุที่อยู่ของเว็บไซต์หรือคนทำหรือไม่ และจะดูไปถึงเว็บไซต์ให้ไอเอสพีของใคร
ทั้งนี้จากการทดลองทำ SEO ตั้งแต่ปี 2007 จะพบว่าแม้นว่าข้อมูลในหน้าเว็บไซต์เราจะติดอันดับ 1-15 แต่ก็จะอยู่ได้อย่างนานก็เพียง 3 เดือนเท่านั้น ดังนั้นสิ่งที่ควรคำนึงสำหรับคนทำเว็บและทำ SEO ก็คือจะต้องมีความสัมพันธ์กับเว็บไซต์ที่เป็น social networking ซึ่งจะทำให้เว็บไซต์ที่เกิดใหม่นั้นโตขึ้นเรื่อยๆ โดยนำลิ้งค์ไปแปะหรือฝาก อย่างเช่น Facebook หรือแม้นแต่เว็บไซต์ wikipedai ก็สามารถเขียนแนะนำเว็บไซต์ได้เช่นกัน หรือแม้นแต่การเขียนแนะนำในบล็อก เพราะว่ากูเกิ้ลชอบ ขณะเดียวกันในหน้าเว็บของจะมี RSS Feed เพราะจะเป็นเหมือนกระดิ่งให้กูเกิ้ลมาเก็บข้อมูลเราที่อัพขึ้นใหม่ หน้าเว็บไม่ควรจะใหญ่มาก ในที่สุดเว็บไซต์เราก็จะเป็นไยแมลงมุมและโตได้ แต่สิ่งที่ควรคำนึงก็คืออย่าทำไม่ผิดกฎของกูเกิ้ล เพราะจะโปรโมทให้เว็บติดอันดับและคนเข้ามาชมมากอย่างไรก็ไม่มีความหมาย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น