วันพุธที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2554

เลือกคนชั่ว-โกง-เบิกความเท็จดุจคบคนพาลพาไปหาผิด



เลือกคนดีเป็นเหมือนกับคบบัณฑิตบัณฑิตพาไปสู่ความเจริญ 3 ก.ค.นี้คุณมีสิทธิกำหนดได้ให้ประเทศไปทางใด

ในการเลือกตั้งส.ส.ทั่วประเทศไทยวันที่ 3 ก.ค.2554นี้ คงมีหลายคนจะมองว่าก็คงเหมือนกับการเลือกตั้งที่ผ่านๆมา จะไปก็ได้ไม่ไปใช้สิทธิ์ก็ได้ จะเลือกใครหรือไม่เลือกใครก็ได้ โนโหวตดีกว่า หรือเลือกเพราะตัวเองพวกพ้องได้ประโยชน์ โดยไม่ได้คำนึงว่าผลที่จะตามที่จะเกิดขึ้นกับประเทศนั้นเป็นอย่างไร

ตัวเลือกครั้งนี้มีความต่างกันอย่างชัดเจนระหว่างคนดีกับคนชั่วเปรียบเหมือนความขาวกับความดำ บางคนที่เรามองว่าเป็นคนดีอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่เราเห็นหรือเข้าใจก็เป็นได้เพราะมันมีความดำหรือความชั่วซ่อนอยู่ หรืออาจจะมีความคิดว่าหากไม่ได้เป็นคนดีแล้วทำไมยังมีพระแห่แหนหรือให้การสนับสนุนอยู่ ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าพระเองก็มองไม่ออกว่าเขาเป็นคนดีจริงหรือไม่ มองได้แต่เฉพาะเปลือกนอก หรือมองว่าเขาเป็นคนดีเพราะได้รับเศษเนื้อที่เขาโยนมาให้เท่านั้น

การไปลงคะแนนเลือกตั้งก็เท่ากับเป็นการสนับสนุนคนให้เข้าไปทำหน้าที่ ก็เท่ากับเป็นการคบคนได้เช่นเดียวกัน ดังคำพระท่านว่า อเสวนา จ พาลานัง บัณฑิตานัญจะ เสวนา เอตัมมังคลมุตตมัง คือก็คือการไม่เลือกคนชั่วเลือกคนทีเป็นมงคล หรือทำให้ประเทศชาติและตัวเองเจริญ ในฐานะที่เป็นชาวพุทธเวลาทำบุญก็จะได้ยินพระเจริญพระพุทธมนต์บทนี้ ก็สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการเลือกตั้งได้เช่นเดียวกัน

ซึ่งมงคล 2 ประการนี้ก็คือการสอนให้รู้จักคบคน ขอนำพุทธภาษิตมาประกอบให้เห็นเป็นตัวอย่างดังนี้ คบคนเช่นใด ย่อมเป็นคนเช่นนั้น คบคนเช่นใดเป็นมิตร เขาก็เป็นคนเช่นนั้น เพราะการอยู่ร่วมกันย่อมเป็นเช่นนั้น

ควรคบมิตรที่ดี แม้ในมิตรก็ไม่ควรไว้ใจ ผู้คบคนเลว ย่อมพลอยเลวไปด้วย อย่าสมาคมกับคนพาลซึ่งเป็นดังศัตรูทุกเมื่อ โจรพาลอยู่ในที่ใด บัณฑิตไม่ควรอยู่ในที่นั้น คบคนดี ก็พลอยมีส่วนดีด้วย

เมื่อคบคนที่ดีกว่า ตัวเองก็ดีขึ้นมาฉับพลัน ผู้เที่ยวสมาคมกับคนพาล ย่อมเศร้าโศกสิ้นกาลนาน คนเป็นมิตรแต่ปากก็มี ไม่ควรไว้ใจคนพูดพล่อยๆ ไม่ควรไว้ใจคนเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว คนจำพวกที่งามแต่ภายนอก ภายในไม่สะอาด มีบริวารกำบังตัวไว้ ก็ยังแสดงบทบาทอยู่ในโลกได้ คนห่อกฤษณาด้วยใบไม้ แม้ใบไม้ก็หอมไปด้วยฉันใด การคบกับนักปราชญ์ก็หอมไปด้วยฉันนั้น คนห่อปลาเน่าด้วยใบหญ้าคา แม้หญ้าคาก็พลอยเหม็นเน่าไปด้วยฉันใด การคบกับคนพาลก็เป็นคนพาลฉันนั้น

ผู้ไม่คบหาคนชั่ว ย่อมได้รับสุขแต่ส่วนเดียว อยู่ในพวกข้าศึกศัตรูเพียงคืนเดียวหรือสองคืน ก็เป็นทุกข์ คนที่ทำดีแต่ภายนอก ภายในมักไม่บริสุทธิ์ มีศัตรูเป็นบัณฑิต ดีกว่ามีมิตรเป็นคนพาล เพียงเห็นกันชั่วครู่ชั่วยาม ไม่พึงไว้วางใจ

คนพาล ถึงอยู่ใกล้บัณฑิต จนตลอดชีวิต ก็ไม่รู้แจ้งธรรม เสมือนทัพพี ที่ไม่รู้รสแกง ไม่ควรไว้ใจคนที่ทำชั่วมาแล้ว ไม่ควรไว้ใจคนที่พูดพล่อยๆ ไม่ควรไว้ใจคนที่เห็นแก่ตัว (คนที่มีปัญญาแต่เพื่อประโยชน์ของตัว) ถึงคนที่ทำสงบเสงี่ยมเกินไป ก็ไม่ควรไว้ใจ

พึงมองเห็นคนมีปัญญาที่ชอบชี้โทษ พูดจาข่มขี่ เสมือนเป็นผู้บอกขุมทรัพย์ พึงคบคนที่เป็นบัณฑิตเช่นนั้นแหละ เมื่อคบคนเช่นนั้นย่อมมีแต่ดี ไม่มีเสียเลย ปราชญ์ย่อมแนะนำสิ่งที่ควรแนะนำ ไม่ชวนทำสิ่งที่มิใช่ธุระ การแนะนำดี เป็นความดีของปราชญ์ ปราชญ์ถูกกล่าวว่าโดยชอบก็ไม่โกรธ ปราชญ์ย่อมรู้วินัย การสมาคมกับปราชญ์จึงเป็นการดี

นอกจากนี้จะมองใช้หลักกาลมสูตร 10 ประการในการพิจารณาในการลงคะแนน ไม่เลือกเพราะเขาเคยให้เงินให้ทอง ให้การช่วยเหลือโดยมีผลประโยชน์แอบแฝงหรือไม่ ต้องคิดให้ดี ไม่เช่นนั้นจะพาชาติอับจน พัง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Google