วันศุกร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2554

พท.ผุดป้ายหยุดฟาดฟันบอกพวก-ตัวเองหรือยัง



วันที่ 23 มิ.ย.พรรคประชาธิปัตย์ปราศรัยใหญ่ที่สี่แยกราชประสงค์ ท่ามกลางการคัดค้านของมวลสมาชิกเสื้อแสดงและพรรคเพื่อไทย แต่อย่างไรก็ตามการปราศรัยของพรรคประชาธิบัตย์ก็ผ่านไปโดยไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น

และวันนั้นเองพรรคเพื่อไทยก็ได้เปิดป้ายมีข้อความประมาณว่า "เราเป็นคนไทยด้วยกันหยุดฟาดฟันหันหน้ามาปรองดองกันดีกว่า" ได้ติดตามพื้นที่จุดสำคัญในกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะที่เห็นคือตลอดถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ซึ่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้หยิบยกมาปราศรัยด้วย



วันต่อมาพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯก็ได้ทวิตเตอร์ผ่าน "ThaksinLive"โดยให้ทุกฝ่ายลืมอดีต



"ใครที่ผมอาจทำให้ไม่สบายใจ ไม่พอใจ ไม่ชอบใจ หรือขัดใจ มาในอดีตจนถึงปัจจุบัน ผมขอโทษและขออภัย ส่วนคนที่ด่าผม ทำร้ายผม วิจารณ์ผม ผมให้อภัยไม่ขอถือโทษโกรธกัน ไม่แก้แค้น ไม่ล้างแค้น เราต้องก้าวข้ามอดีตเพื่อพาประเทศก้าวหน้าไปด้วยกันให้ได้ เราต้องไม่ถอยหลังและย่ำอยู่กับที่อีกแล้วครับ

เมื่อคืนนี้มีคนโทรมาหามากหลังจากเขาฟังปชป.ปราศรัย ผมเลยยกคำสอนของท่านพระพุทธทาสฯให้เขาเหล่านั้นฟังว่า "จิตวุ่นปัญญาหาย จิตว่างปัญญามี" สิ่งที่ทำให้จิตมนุษย์วุ่นคือจิตที่หมกมุ่นอยู่กับ ความโลภ ความโกธ ความหลง และถ้าจะทำให้สมองแจ่มใสได้ ก็ต้องปล่อยวาง(detach)สิ่งเหล่านันให้ได้"

ประหยุดเด็นก็คือว่าพรรคเพื่อไทย คนเสื้อแดง และพ.ต.ท.ทักษิณหยุดจริงหรือไม่ เพราะว่า ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทยอันดับก็ได้ออกมาพูดเสมอว่าที่คนเสื้อแดงป่วนการหาเสียงของนายอภิสิทธิ์ว่าไม่สามารถห้ามได้ จึงเกิดคำถามว่า ได้บอกตัวเอง และพวกตัวเองหรือยัง ไม่ต้องเป็นห่วงว่าเราจะหยุดหรือไม่หยุด เพราะ "เรานั้นหยุดนานแล้วแต่ท่านสิหยุดหรือยัง" ที่บอกว่าปล่อยวางปล่อยได้จริงหรือ เพราะคนปล่อยวางจะไม่มีอาการอย่างที่ปรากฏ

จะเห็นได้จากการที่พรรคเพื่อไทยออกแถลงการณ์กล่าวหาพรรคประชาธิปัตย์ใส่ร้าย และนางธิดา ถาวรเศรษฐ รักษาการประธานนปช. ก็กล่าวหานายอภิสิทธิ์ว่า มียุทธศาสตร์การหาเสียงเพื่อแก้ตัว และทำลายพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม

ลองอ่านความเห็นของพระรักเกียรติ รักขิตธัมโม หรือนายรักเกียรติ สุขธนะ อดีต รมช.สาธารณสุข ที่ได้บรรยายเล่าถึงประสบการณ์ส่วนตัวที่เคยเป็นนักการเมืองดาวรุ่ง และเป็นถึงรัฐมนตรี แต่สุดท้ายก็ถูกตัดสินลงโทษในข้อหาทุจริตประพฤติมิชอบในตำแหน่งหน้าในการเสวนาในหัวข้อเรื่อง “ Vote NO มุ่งสู่การปฏิรูปประเทศ” ซึ่งจัดขึ้นโดยกลุ่มกุหลาบสีเหลือง ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ว่า เป็นผลมาจากความลุ่มหลงมัวเมาในอำนาจ จนกลายเป็นกรรมที่ทำให้ตัวเองต้องกลายเป็นดาวร่วงในที่สุด แม้จะหนีคดีอยู่ 1 ปี แต่สุดท้ายก็ยอมรับความผิดมาชดใช้กรรมในคุก 5 ปีจาก 15 ปีที่ศาลตัดสิน

วันนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในตอนนั้นก็เคยโทรศัพท์มาหาและปลอบใจว่าศาลตัดสินอย่างยุติธรรมแล้ว แต่เหตุใดวันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณที่ถูกตัดสินจำคุกในข้อหาเดียวกัน และมีโทษเพียงแค่ 2 ปี กลับหนีไปต่างประเทศ แล้วยังมาทำให้บ้านเมืองวุ่นวายอีกด้วย

“แม้อาตมาจะผิดพลาดเคยทำความผิด เคยอยู่ในเรือนจำใช้กรรมของตัวเอง แต่ก็ถือว่าอาตมายังมีบุญอยู่บ้างที่ออกมาแล้วได้มาอยู่ในร่มกาสาวพัตร์ ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณทำผิดแล้ว ก็มีแต่แก้ตัวว่าไม่เป็นธรรมแล้วหนีไปต่างประเทศ หากพ.ต.ท.ทักษิณคิดที่จะแก้ไขตัวเอง ป่านนี้ยอมมารับโทษ ก็คงได้ปล่อยตัวออกมาแล้ว เพราะโทษแค่ 2 ปีเท่านั้นเอง” พระรักเกียรติ กล่าว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Google