วันพฤหัสบดีที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ยิ่งลักษณ์ระวังตอแรกกม.หมิ่นสถาบันมาตรา112



ขณะเดียวกันทางเว็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์ได้รายงานว่า "ปูแดง" ออกลาย ! เล็งแก้กฎหมายหมิ่นฯเบื้องสูง

ยิ่งลักษณ์" จ้อสื่อนอก เล็งแก้กฎหมายหมิ่นฯเบื้องสูง อ้างไม่อยากให้ประชาชนใช้กฎหมายนี้บ่อยเกินไปและใช้ในทางที่ผิด พร้อมแบะท่าทำประชาพิจารณ์ยกเลิกรัฐธรรมนูญปี 50 แถมอ้างเฉยหากจะปรองดองทุกคนต้องกลับไปก่อนคำตัดสินของศาล ลั่นจะไม่ยอมนิรโทษกรรมคนทำ "เสื้อแดง" ตาย

วันนี้ 7 ก.ค. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย ให้สัมภาษณ์ กับ The Independent ของสหราชอาณาจักร และหนังสือพิมพ์ต่างประเทศฉบับอื่นๆ ถึงเหตุความรุนแรงเมื่อช่วงต้นปีที่แล้ว ระหว่างการปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุมเสื้อแดง กับเจ้าหน้าที่รัฐบาล จนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 90 คน โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยต้องแจ้งต่อประชาชนเกี่ยวกับแผนการในเรื่องนี้ และตนก็เชื่อว่า ประชาชนชาวไทยเปรียบเสมือนคนป่วย และอย่างน้อยประชาชนก็ได้ให้โอกาสตน ในการพิสูจน์ความสามารถเพื่อช่วยประชาชนคนไทย

สำหรับปัญหาเกี่ยวกับความผิดอาญาฐานหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุดถึง 15 ปี น.ส.ยิ่ง ลักษณ์ กล่าวว่า ควรจะมีการสะสางให้เสร็จสิ้น และตนก็คิดว่าปัญหาดังกล่าว เป็นเรื่องที่อ่อนไหว ซึ่งจะต้องหาผู้ที่มีความชำนาญการเป็นพิเศษ ในการหารือเกี่ยวกับปัญหานี้ และตนก็ไม่อยากให้ประชาชนใช้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพบ่อยเกินไป และไม่ต้องการให้คนไทยใช้กฎหมายนี้ในทางที่ผิด

นอกจากนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังกล่าวด้วยว่า รัฐธรรมนูญที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ถูกบังคับใช้หลังการรัฐประหารเมื่อปี 2549 ซึ่ง อาจจะมีการเปลี่ยนแปลง หลังกระบวนการหารือ ซึ่งรัฐบาลควรจะถามประชาชนว่า ต้องการรัฐธรรมนูญฉบับใด อีกทั้งควรจะทำประชาพิจารณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย แต่ รัฐบาลจากนี้ไปจะไม่เริ่มต้นใหม่ทั้งหมด และสิ่งที่ตนสนใจเป็นอับแรกคือ การแก้ปัญหาเศรษฐกิจ

น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวอีกว่า สิ่งแรกที่จะทำให้การปรองดองเกิดขึ้นจริง คือ ทุกๆ คนต้องกลับไปก่อนคำตัดสินของศาล และตนจะไม่ยอมรับการนิรโทษกรรม สำหรับผู้ที่จะต้องรับผิดชอบต่อการเสียชีวิตของประชาชนในเหตุการณ์ความรุนแรงเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งการปรองดองแตกต่างจากการนิรโทษกรรม

ส่วนในประเด็นที่เชื่อกันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร คือผู้อยู่เบื้องหลังการบริหารงานของพรรคเพื่อไทย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ว่า จริงที่พี่ชายของตนมีประสบการณ์ทางการเมืองอย่างสูง แต่ตนก็มีความสามารถพอที่จะตัดสินใจเองได้ ดังนั้นคิดว่าจะเป็นผู้นำด้วยตัวของตัวเอง

http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9540000083691

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Google