วันพฤหัสบดีที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2552

นักการเมืองคุณรู้หรือไม่ว่าเป็นตัวถ่วงฟื้นตัวเศรษฐกิจ

ช่วงสองเดือนที่ผ่านมาสำนักทำนายรวมถึงตัวเลขทางเศรษฐิจได้สะท้อนให้เห็นว่าแนวโน้มเศรษฐกิของประเทศไทยมีโอกาสที่จะฟื้นตัว

ขณะเดียวกันก็มีปัจจัยที่น่าเป็นห่วงที่สรุปตรงกันก็คือความไม่แน่นอนทางการเมืองทั้งปัจจัยจากพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคฝ่ายค้าน

ลำพังพรรคร่วมฝ่ายค้านหากเล่นการเมืองในสภาก็คงจะไม่มีปัญหาอะไรมากนัก แต่ปัญหาก็คือมีการนำการเมืองลงไปเล่นกันในท้องถนนสร้างความรุนแรงในสายตาของชาวต่างชาติ

ขณะเดียวกันพรรคร่วมรัฐบาลเองก็มีความขัดแย้งกันเองจากการแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ที่ยังไม่ลงตัว นายกรัฐมนตรีจำต้องตั้งรักษาการแทนไปก่อน โดยพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคภูมิใจไทยที่สนับสนุนบุคคลต่างกัน ขณะเดียวกันคนในพรรคประชาธิปัตย์ก็พลอยขัดกันอีก

จนล่าสุดมีกระแสแพร่สะพัดนายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ ลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรีที่ไม่เห็นด้วยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แต่งตั้งพล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ จเรตำรวจรักษาการแทน ผบ.ตร. ขณะเดียวกันก็มีกระแสว่านายนิพนธ์หนุนนายตำรวจที่พรรคภูมิใจไทยหนุน ยังเล่นการเมืองกันแบบเก่าๆอยู่นี้มันยุคไหนแล้ว

ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าบรรดานักการเมืองทั้งหลายที่ปากก็บอกว่าเข้ามาเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก แต่กับทำตัวเป็นตัวถ่วงในการพัฒนาประเทศ เป็นตัวถ่วงในการฟื้นฟูเศรษฐกิจทั้งๆที่เป็นปัญหาสำคัญอยู่ขณะนี้

แสดงว่าพวกคุณไม่รู้ตัวเองเสียเลย มุ่งแต่ประโยชน์ส่วนตนเป็นหลัก แบบนี้จะศรัทธามาจากไหนหรือศรัทธามันหาซื้อได้ด้วยกัน พอหมดเงินแม้นแต่หมาก็ไม่มอง ปากที่พูดออกมามันก็เห็นลิ้นไก่แล้วไม่จำเป็นต้องหาหลักฐานมาโชว์เพราะพฤติกรรมที่ผ่านมามันฟ้อง พูดได้คำเดียวว่าเอียน ที่บอกว่าจะสู้แม้นแต่จะแก้ผ้านั้นก็ได้แต่ขำๆ ทุกวันนี้แก้ผ้าเอาหน้ารอดอยู่แล้ว ไม่แก้ก็เหมือนแก้ เพราะคนที่เขารู้ทันเขามองพวกคุณเหมือนกับซากศพ ดูตัวอย่างที่ดีของอารยะประเทศบ้างไม่ได้หรืออย่างไร

ขณะเดี่ยวกันเรื่องรัฐธรรมนูญก็แก้กันไม่รู้จักจบจักสิ้น ร่างขึ้นมาแล้วก็ไม่เคารพและไม่ปฏิบัติตาม พยายามที่จะหลีกเลี่ยง ในที่สุดก็ฉีกเล่นกัน ก็พูดได้คำเดียวอีกว่า "เบื่อ" ที่เขาด่าว่า "มีเพียงประเทศไทยเท่านั้นที่ซื้อเสียง" ไม่อายเขาบ้างหรืออย่างไร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Google