วันเสาร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ธรรมพารวย-ยึด-มั่นถือกะลายึด-ไม่มั่นถือเงินตรา(พาชาติวิกฤติ)

พิจิตรา บุษย์ปราชญ์ ได้เขียนหนังสือ "ธรรมาพารวยขึ้น" บทที่สองเรื่อง"ยึด-มั่นถือกะลา ยึด-ไม่มั่นถือเงินตรา" ในลักษณะของการเล่านิทานเพื่อให้เข้าใจถึงหลักของอนิจจังและโลกธรรม 8 ประการ คือมีรายได้ก็มีโอกาสเสียเงินได้เช่นกัน หากประมาทขาดสติ และตกอยู่ภายใต้ของอุปาทาน 4 ประการคือการยึดมั่นถือมั่นในสิ่ง 4 ประการ

1. กามุปาทาน (ความยึนมั่นในกาม คือ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ที่น่าใคร่ น่าพอใจ - clinging to sensuality) 2. ทิฏฐุปาทาน (ความยึดมั่นในทิฏฐิหรือทฤษฎี คือความเห็น ลัทธิ หรือหลักคำสอนต่างๆ - clinging to views) 3. สีลัพพตุปาทาน (ความยึดมั่นในศีลและพรต คือ หลักความประพฤติ ข้อปฏิบัติ แบบแผน ระเบียบ วิธี ขนบธรรมเนียมประเพณี ลัทธิพิธีต่างๆ ถือว่าจะต้องเป็นอย่างนั้นๆ โดยสักว่ากระทำสืบๆ กันมา หรือปฏิบัติตามๆ กันไปอย่างงมงาย หรือโดยนิยมว่าขลัง ว่าศักดิ์สิทธิ์ มิได้เป็นไปด้วยความรู้ความเข้าใจตามหลักความสัมพันธ์แห่งเหตุและผล - clinging to mere rule and ritual)

4. อัตตวาทุปาทาน (ความยึดมั่นในวาทะว่าตัวตน คือ ความถือหรือสำคัญหมายอยู่ในภายในว่า มีตัวตน ที่จะได้ จะเป็น จะมี จะสูญสลาย ถูกบีบคั้นทำลายหรือเป็นเจ้าของ เป็นนายบังคับบัญชาสิ่งต่างๆ ได้ ไม่มองเห็นสภาวะของสิ่งทั้งปวงอันรวมทั้งตัวตนว่าเป็นแต่เพียงสิ่งที่ประชุมประกอบกันเข้า เป็นไปตามเหตุปัจจัยทั้งหลายที่มาสัมพันธ์กันล้วนๆ

ลองพิจารณาดูว่าคนไทยทุกวันนี้ยึดมั่นอยู่ในอุปาทาน 4 ประการนี้หรือไม่ เรามีความต้องการให้มีชีวิตที่ดีขึ้น เมื่อมีคนโยนเศษอาหารมาให้เรากินในเวลาที่หิวโหย เราก็พากินกันและก็ยึดติดในรสแห่งอาหารนั้น มีความโกรธกับคนที่ออกมาเตือนว่าอาหารนั้นมีพิษนะแต่ก็ไม่ฟัง พากันแบ่งสีแบ่งฝ่าย โดยไม่ได้คิดว่าเราก็คือคนไทยด้วยกัน

และยกมือท่วมหัวว่าบุคคลที่โยนเศษอาหารมาให้เรานั้นเป็นคนดี มีบุญคุณ โดยไม่ได้พิจารณาในระยะยาวว่าเศษอาหารนั้นอาจจะมีพิษในระยะยาวทำให้เราเป็นมะเร็งและตายในที่สุดก็เป็นได้

เมื่อคนไทยถูกอุปาทาน 4 ประการแล้วจะเป็นประชาธิปไตยได้อย่าง และออกมาโพนทนาใส่กันหรืออวดกันว่าตัวเองนั้นเป็นประชาธิปไตยมากกว่า ทั้งๆที่ความเป็นจริงว่าสิ่งที่พูด กระทำ และยึดติดกันอยู่นั้นไม่ใช่ประชาธิปไตย หรือธรรมาธิปไตยแต่อย่างใด ซึ่งการจะออกจากอุปาทาน 4 ประการนี้ต้องใช้ปัญญาและรู้เท่าทัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Google