วันพุธที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2552

“แอ๊ด คาราบาว”ตาสว่างรู้ทัน"ทักษิณ"น้าหงารู้นานแล้ว

เมื่อวันที่ 1 เม.ย. นายสุรชัย จันทิมาธร หรือ หงา คาราวาน ศิลปินเพลงเพื่อชีวิต ได้ออกมาตอบโต้ "วิสา คัญทัพ" นักดนตรีเพื่อชีวิต (ตัวเอง) ที่กล่าวบนเวทีเสื้อแดงที่ล้อมทำเนียบฯโจมตีวงคาราวานที่แสดงดนตรีกับพันธมิตร ผ่านทางเว็บไซต์คมชัดลึกว่า เราต่างมีเวทีการแสดงออกที่ต่างกัน และไม่โต้ตอบอะไรเพราะถือว่าเป็นการปรบมือข้างเดียว จึงถือว่าไม่มีผลกระทบอะไร คิดเพียงว่าเป็นเสียงสุนัขเห่า

"แต่การแสดงออกนั้นต้องระวังในความเป็นศิลปิน ที่มีเสรีภาพ ไม่ควรด่าผู้อื่น โดยเฉพาะศิลปินด้วยกัน เพื่อนกันต้องไม่ทำกัน หรือศัตรูกันก็ยังไม่ทำกันขนาดนี้ ศัตรูก็ยังต้องให้เกียรติศัตรู แต่นี้เป็นมันหยาบ" น้าหงาระบุ พร้อมกับให้ความเห็นเกี่ยวกับการโฟนอินของ นช.ทักษิณ ว่า

"เป็นเรื่องผลประโยชน์ของใครฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ดังนั้น การแสดงออกโดยการโฟนอินจึงถือว่าเป็นการโต้ตอบการกระทำที่คลายกับไม่รอบครอบ ไร้สติปัญญาไม่สร้างสรรค์สังคม และหากสังคมยังเป็นเช่นนี้ก็หาทางออกไม่เจอ และถือว่าน่าเป็นห่วง การทำอะไรควรใช้สติปัญญา และจะเป็นการทดสอบสติปัญญาของคนไทยว่าจะฝ่าฟันวิกฤติไปได้อย่างไร"

ขณะเดียวกั “วิสา คัญทัพ" ก็ได้โต้กลับว่า อย่าพูดชื่อคนนี้ให้เขาได้ยิน จะเป็นการสบายหูที่สุด

ความจริงแล้วได้เคยสัมผัสกับ “วิสา คัญทัพ" บ้าง สมัยที่ "อดิศร เพียงเกษ" สมัยเป็นรมช.ศึกษาธิการ หลังจากนั้นชื่อของ “วิสา คัญทัพ" เข้าหูมาบ้าง สรุปแล้วชีวิตก็ไม่ต่างอะไรกับ "อดิศร เพียงเกษ" มากนัก ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องสาธยายอะไรมากนักเพราะน้าหงาได้กล่าวไว้ถูกต้องแล้ว

ขณะเดียวกันก็ทราบความคิดเห็นของ “แอ๊ด คาราบาว” ยืนยง โอภากุล ที่ได้ปฏิเสธขึ้นเวที “คนเสื้อแดง” ตามคำเชิญในงานแถลงข่าวคอนเสิร์ตสามช่าสามัคคี ที่โรงแรมดุสิตธานี ผ่างทาง ASTVผู้จัดการออนไลน์ ที่ระบุว่า ตนเองตาสว่างแล้ว และเคยเตือน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนักโทษชาย แล้วว่าอย่าทำแบบนี้ และไม่ควรเอาประชาธิปไตยมาอ้าง

“การที่ม็อบเสื้อแดงบอกถ้าผมรักประชาธิปไตยก็ให้ขึ้นเวทีของเขา โธ่...กูเพื่อชีวิตตรงไหน คนที่ไปเที่ยวผับเพื่อชีวิตแล้วบอกว่าเพื่อชีวิต ถามว่ามันเพื่อชีวิตตรงไหน ผมไม่ไปหรอก เมื่อก่อนผมเคยเตือนทักษิณว่าอย่าทำแบบนี้ ม็อบเสื้อเหลืองผมก็ไม่ได้ไปยุ่งกับเขา ผมเชื่อว่าเขาไม่ได้มีเจตนาเรื่องประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ผมว่าที่เป็นอยู่คือกลุ่มเหลืองเกลียดทักษิณ อีกคนรักทักษิณ”

ผมเป็นคนหนึ่งที่ต่อสู้มาด้วยความบริสุทธิ์ใจ แต่ตอนนี้ผมว่าประชาชนตกเป็นเครื่องมือของทั้งสองฝ่าย ประชาชนต้องตื่นผมไม่รู้จะทำไง เขียนเพลงให้ประชาชนตื่นเหรอ เอาเป็นว่าถ้ารักในหลวง อย่าออกไปเลย ทำประเทศให้ปกติดีกว่า มีบางกลุ่มที่เขาโจมตีผมแต่ผมไม่เคยตอบโต้ ผมจะโต้ทำไมถ้าผมโต้เขาจะเอาข่าวนี้ไปเล่นมันไม่มีประโยชน์ ผมไม่ได้ทำผิดอะไร คนรู้บ้างไม่รู้บ้างคนที่ไม่รู้มีไม่มากนะ แต่ส่วนมากเขารู้ว่าผมเป็นยังไง อย่ามายุ่งกันดีกว่า

ก็ต้องบอกว่าแทบไม่น่าเชื่อคำเช่นนี้จะหลุดออกจากปากของ “แอ๊ด คาราบาว” เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยเข้าใจว่าก็ไม่ต่างอะไรกับคนที่เดินตามก้นนช.ทักษิณ พูดตรงๆก็คือหวังผลประโยชน์ตัวเองเป็นที่ตั้ง มาวันนี้ก็ต้องบอกว่าแปลกใจ และพูดได้หมดเปลือกดี และก็มีความคิดก็ไม่ต่างกับ “แอ๊ด คาราบาว” มากนักเพราะก็มีความรู้สึกว่าทั้งสองสีก็มีผลประโยชน์ของตัวเองแอบแฝง เป็นแต่เพียงเห็นด้วยในหลักการและแนวทางบ้างประการเท่านั้น

ได้ติดตาม “แอ๊ด คาราบาว” ตั้งแต่เพลเมดอินไทยแลนด์ ร่วมเคลื่อไนต่อสู้เผด็จการ รสช.จนเกิดพฤษภาทมิฬ เคยมองว่า “แอ๊ด คาราบาว” เคลื่อนไหวหรือแต่งเพลงก็เพื่อประโยชน์ส่วนร่วมเป็นหลัก แต่หลังจากนั้นเป็นต้นมาก็มีความรู้สึกว่า “แอ๊ด คาราบาว” ก็ไม่ต่างอะไรกับคนที่หาเช้ากินค่ำทั่วๆไป ก็ไม่ได้วิเศษวิโสอะไร

แต่การที่ได้ทราบความคิดของ “แอ๊ด คาราบาว” ก็พูดตรงดี คนเรายอมรับสภาพตัวเองรู้ตัวเอง มันก็จบ แสดงให้เห็นว่า “แอ๊ด คาราบาว” ตาสว่างรู้ทัน นช.ทักษิณ แต่สำหรับผู้เขียนรู้ทันนช.ทักษิณนานแล้ว ตั้งแต่สมัยอยู่พรรคพลังธรรมเดินตามก้นพล.ต.จำลอง ศรีเมือง แห่งสำนักสันติอโศก ตอนหลัง นช.ทักษิณ ไปนับถือสำนักรัตนบุตร จึงแตกคอกัน

อย่างไรก็ตามคนส่วนใหญ่ไม่รู้สภาพตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นช.ทักษิณ ไม่รู้จักคำว่า "พอ" จึงออกมาเคลื่อนไหนเช่นนี้ ก็ได้แต่บอกว่าขอให้ระวัง เพราะตัวอย่างให้เห็นอย่าง ร.ต.ท.เชาวริน ลัทธศักดิ์ศิริ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ได้เกิดอาการหน้ามืดช็อก จนหมดสติ เกี่ยวกับโรคหัวใจ ต้องถูกส่งเข้ารักษาตัวด่วนเข้าห้องซีซียู โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ กรุงเทพฯ แพทย์ไม่อนุญาตให้เข้าเยี่ยม

ก็คิดดูเอาเองก็แล้วกัน เพราะสิ่งที่ได้คาดคิดมันอาจจะเกิดขึ้นได้ ไม่ได้เป็นการยกขึ้นมาซ้ำเติม แต่เพื่อเป็นอุทธาหรณ์เตือนสติ ไม่เช่นนั้นก็คงพูดได้แต่เพียงว่า "สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม" และกรรมมันก็เห็นกันในชาตินี้ไม่ต้องรอชาติหน้า


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Google