เมื่อคืนที่ 18 ก.พ.เป็นอีกคืนหนึ่งที่ต้องนั่งนับจุดระเบิด 4 จังหวัดชายแดนใต้ ทั้ง ๆ ที่เป็นวันตรุษจีน เป็นคืนเฉลิมฉลองของพี่น้องชาวจีน ว่ามีจำนวนเท่าใดมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเท่าใด
พรึมพรำในใจว่า "ฆ่ากันทำไม ก็มนุษย์เหมือนกัน ทุกชาติ ทุกศาสนา ต่างก็ไม่เห็นด้วยกับการฆ่า แต่ทำไมมนุษย์ยังฆ่ากันอีก"
หากใช้หลักของคำว่า "ชาติ" ก็เป็นคนไทยเหมือนกัน หากใช้หลักศาสนาก็อย่างที่กล่าวแล้ว ก็น่าจะเพียงพอที่จะทำให้มนุษย์อยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข
นั้นก็แสดงว่าทั้งสอง 2 นั้นยังไม่เพียงพอ จะต้องใช้กำลังกันอย่าง "สัตว์" อย่างนั้นหรือ มนุษย์แปลว่าผู้เจริญแล้วนะ อย่างนั้นไม่ต้องมีเลยดีไหมมนุษย์ในโลกนี้ ให้ "สัตว์" ครองโลกไป
แนวทางที่มหาเนชั่นเห็นว่าจะสามารถช่วยให้สถานการณ์ทางภาคใต้สงบลงได้และก็มีความเห็นเช่นนี้มาตลอดนั้นก็คือ 1. การกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ให้คนในท้องถิ่นคัดเลือกคนในท้องถิ่นบริหารพื้นที่อย่างเต็มที่
แต่ที่ผ่านมานั้น ส่วนกลางจะคุมกำเนิดท้องถิ่นมาตลอด หวงอำนาจไว้ไม่กระจายงาน เงิน คน ลงไป แม้นรัฐบาลที่ผ่านมาก็ยังไม่ชัดเจนในเรื่องนี้ จำใจทำตามกรอบของกฎหมายกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น และมักจะเอาท้องถิ่นเข้ามาเป็นฐานทางการเมืองเสียมากกว่า แทนที่จะใช้เป็นฐานในการพัฒนาท้องถิ่น
มารัฐบาลชุดนี้ก็ยังไม่ชัดเจนอีก ประธาน คมช.เองก็เคยกว่าไว้จะให้ความสำคัญกับท้องถิ่น แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีน้ำหนักหรือทำให้เป็นรูปธรรมมากนัก
2.ใช้หลักความหลากหลายทางวัฒนธรรม ไม่ว่าชาติใดศาสนาใดสามารถอยู่ร่วมกันได้ แต่ต้องปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ โดยที่ภาครัฐต้องไม่เข้าไปกำหนด
จุดหนึ่งที่มหาเนชั่นเห็นว่าฝ่ายก่อการณ์ไม่เห็นด้วยคือการใช้เจ้าหน้าที่ของรัฐ ทั้งทหาร ตำรวจ จากนอกพื้นที่เข้าไปปฏิบัติงาน หรือการสนับสนุนให้คนจากภาคอื่นเข้าไปอาศัยอยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้มากขึ้น
แน่นอนอาจจะเป็นแนวทางให้คนทางภาคใต้ยอมรับความหลากหลายทางวัฒนธรรม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ควรจะปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ โดยที่หน่วยงานภาคใต้ไม่ต้องเข้าไปกำหนด
เชื่อมั่นว่า 2 แนวทางนี้จะสามารถช่วยให้สถานการณ์ความไม่สงบพื้นที่ 3จังหวัดชายแดนใต้สงบลงได้ เพราะรู้ ๆ กันอยู่ยุทธศาสตร์ภาคใต้คือการท่องเที่ยว ตามใดที่ภาคใต้ยังไม่สงบแล้วคนชาติใดจะมาเที่ยง แล้วใครได้ประโยชน์จากความไม่สงบนี้
อ่านข่าวดูรูปเหตุการณ์ได้ที่
http://www.komchadluek.net/2007/02/18/a001_92171.php?news_id=92171
วันจันทร์ ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2550
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น