วันอังคารที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

สองสาวสวยนักธุรกิจ-ดาราใผ่ธรรมะ

เห็นสาวสวยทางหน้าหนังสือพิมพ์โฟสต์ทูเดย์หน้า Magazine ฉบับวันที่ 24 ก.พ. คือ ปราณิศา อัจฉริยศรีพงษ์ กรรมการผู้จัดการบริษัทเจมส์ พาวิลเลียน ครีเอชั่น ผู้ผลิดและจำหน่ายเครื่องประดับเพชร ส่งออกยุโรป อเมริกา และตะวันออกกลาง ตอนแรกก็ดูผ่านๆ แต่จุดที่น่าสนใจก็คือว่า เธอได้นำหลักธรรมะมาใช้กับการทำงาน เพราะธรรมะก็เหมือกับอาวุธหรือเครื่องป้องกันตัวถ้าคนเรารู้ธรรมะแต่ไม่นำธรรมะมาใช้ก็ไม่มีประโยชน์อะไร เหมือกันมีดาบอยู่ในฝักไม่ชักออกมาใช้ตอนมีศัตรูก็ถูกฆ่าตาย
“การทำงานต้องพบปะผู้คนมากมายทั้งลูกค้าที่มีความหลากหลาย ชายไทย ชาวเทศ มีพนักงานที่ต้องดูแล บริษัทที่ตัดตามงานด้วยอาจจะมีที่ไม่ถูกใจ ทำให้เราเครียด กดดัน อาจเผลอใช้อารมณ์ในการบริหารงานโดยไม่รู้ตัว หากไม่รู้จักนำธรรมะมาปรับใช้ ก็จะทำให้การทำงานมีปัญหาออกมาไม่ดี ไม่มีความสุข การมีธรรมะคือรู้สติตามอารมณ์ตัวเอง ค่อยๆแก้ปัญหา ค่อยๆคิด รู้จักในจเย็นรับฟัง รู้จักรอ พร้อมที่จะให้อภัย มีเมตตา มีธรรมในการทำงาน เมื่อโกรธก็ปรับอารมณ์ให้รู้ตัวได้เร็วขึ้น ค่อยๆปรับ ค่อยแก้ไข เราก็มีความสุขใจกับตัวเองด้วย”
นี้คือนี้แนวทางการดำเนินชีวิตของ ปราณิศา อัจฉริยศรีพงษ์ แบบมีธรรมะ เป็นสาวิกาแบบไม่ต้องห่มขาว แต่ก็มีความขาวใจจิตใจ ต้องขออนุโมทนาด้วย ไม่เศร้าใจที่ได้เข้าผู้ที่อ้างตัวเองว่าเป็นสาวกแต่ใจชั่วได้ทราบทุกวันเพราะมีสาวิกาเช่นนี้ชโลมใจ
สาวิกาอีกคนหนึ่งเธอเป็นดาราทางจอแก้ว กล้าหาญที่จะขึ้นเวทีพันธมิตร แต่วันนี้เธอโดดเด่นอยู่หนังสือ Lisa ฉบับเดือนกุมภาพันธ์นี้เปิดไปที่หน้า 13 ก็ได้พบเธอแล้ว เธอผู้นี้คือ “จอย”ศิริลักษณ์ ผ่องโชค ในหัวเรื่องอยู่แบบมีธรรมะอย่าง “จอย”ศิริลักษณ์ ผ่องโชค เธอบอกว่า เป็นก็พุทธศาสนิกชน เห็นพ่อแม่ญาติๆเข้าวัดทำบุญและไปฟังธรรมะอยู่เสมอๆ
แต่จุดที่เธอใช้หลักธรรมมาคิดก็ช่วงหลังนี้งานน้อยลง ทำให้นึกถึงหลักแห่งโลกธรรม 8 คือ ได้ลาภก็เสื่อมลาภ

“ยิ่งพอย้างช่องมาก็มาเล่นละครเรื่องที่กำลังออกอากาศอยู่ตอนนี้เรตตี้งก็อาจจะไม่พุ่งเท่าเมื่อก่อน จอยก็ยิ่งเห็นธรรมะมากขึ้น ทำให้ไม่ทุกข์”

นี้คือความรู้สึกของจอย เพียงเท่านี้ก็พอได้ทราบว่าจอยมีธรรมะ มากกว่าคนบางคนที่รู้ธรรมะแต่ไม่มีธรรมะ
เมื่อทราบข่าวของคนในวงการบันเทิงอย่างจอยก็ทำให้ชื่นใจ เพราะส่วนใหญ่แล้วจะเห็นแต่ข่าวรักเลิก ด่ากัน คลิปฉาวโผล่ของดาราทำให้เป็นเหยื่อของสื่อ ทำให้ค่าของข่าวบันเทิงด่อย ด่างไป

1 ความคิดเห็น:

Google