วันศุกร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2552

ภูมิใจไทยยก"ทิศ6"สอนมารยาทพรรคร่วมปชป.

คงปฏิเสธไม่ได้ว่ารัฐบาลภายใต้การนำของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี มีเรื่องกระทบกระทั้งกันระหว่างพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคภูมิใจไทยภายใต้ผู้นำตัวจริงคือนายเนวิน ชิดชอบ ลูกพ่อชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา

ทั้งเรื่องการแต่งตั้งตำแหน่ง ผบ.ตร. ส่งผลให้พรรคภูมิใจไทยไม่พอใจอย่างมาก ที่พรรคประชาธิปัตย์เล่นเกมโดยการขุดคุ้ยคดีที่ดินอัลไพน์ขึ้นมาต่อรอง ทั้งๆที่นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จากพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลกรมที่ดิน ก็ปล่อยให้ลูกพรรคออกมาจี้ให้ดำเนินการเรื่องนี้ พร้อมกันนี้ยังมีความขัดแย้งในกระทรวงพาณิชย์มาตลอดทั้งการประกันราคาข้าวการแต่งตั้งปลัดกระทรวง

ส่งผลให้พรรคร่วมรัฐบาลบีบให้มีการปรับครม.ในบางตำแหน่งที่เป็นปมขัดแย้ง รวมทั้งเร่งให้มีการยุบสภาเลือกตั้งใหม่เร็วยิ่งขึ้นหลังจากงบประมาณปี 2553 ผ่านรัฐสภาแล้ว แม้นว่าแกนนำของทั้งสองพรรคจะออกมาปฏิเสธการกดดันก็ตามที แต่สำเนียงการพูดออกมาสู่สาธารณะมันฟ้อง

ดูอย่างการให้สัมภาษณ์ของนายศุภชัย ใจสมุทร รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกพรรคภูมิใจไทยว่าเป็นเพียงข่าวลือ พรรคภูมิใจไทยในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล ก็จะทำหน้าที่อย่างดีที่สุด เพื่อช่วยแก้ปัญหาให้ผ่านไปได้ด้วย และยืนยันว่า ยังเป็นพรรคร่วมรัฐบาลที่ดี

"ทั้งนี้ คาดหวังว่า พรรคร่วมอื่น ๆ จะมองเราอย่างเป็นมิตร ดูแลกันฉันท์มิตรต่อไป หากพรรคใดมีพฤติกรรมที่เลยเถิด จนส่งผลให้พรรคร่วมรัฐบาลอึดอัด คงต้องไปทำความเข้าใจกันภายใน ซึ่งเขามองว่า เรื่องส่วนบุคคล ไม่ใช่มติของพรรค"
แล้วที่ว่า"มองเราอย่างเป็นมิตร ดูแลกันฉันท์มิตร" เป็นอย่างไร หากเห็นเพื่อนทำผิดแล้วทำเป็นเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ถ้าเป็นพวกกูถูกหมก ถ้าเป็นฝ่ายตรงกันข้ามผิดหมดอย่างนั้นหรือ แล้วผลประโยชน์ของชาติอยู่ตรงไหน


ถ้ายังไม่รู้ว่า"ดูแลกันฉันท์มิตร" เป็นอย่างไร คำพระท่านก็ได้สอนไว้ในเรื่อง "ทิศ 6" ที่ว่าด้วยหลักของการคบมิตร พระพุทธเจ้าทรงจัดมิตรสหายเป็นทิศเบื้องซ้ายที่ต้องพบปะพึ่งพาอาศัยแสดงน้ำใจเกื้อกูลกันอยู่เสมอ พึงสงเคราะห์แสดงความกตัญญูต่อกัน ดังนี้

หน้าที่ของกัลยาณมิตรพึงมีมิตร

1.เผื่อแผ่แบ่งปัน 2.พูดจามีน้ำใจ 3.ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน 4.วางตนเสมอ ร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วย 5.ซื่อสัตย์จริงใจ

ขณะที่หน้าที่ของมิตรพึงมีต่อกัลยาณมิตร

1.เมื่อเพื่อนประมาท ช่วยรักษาป้องกัน 2.เมื่อเพื่อนประมาทช่วยรักษาทรัพย์สมบัติของเพื่อน 3.ในคราวมีภัยเป็นที่พึ่งได้ 4.ไม่ละทิ้งในยามทุกข์ยาก 5.นับถือกันตลอดถึงวงศ์ญาติของมิตร

ขณะเดียวกันท่านจัดมิตรเทียมไว้ 4 ประเภท

มิตรเทียม มาจากคำว่า มิตรปฏิรูป ซึ่งอาจมีความหมายว่า คนเทียมเป็นมิตรหรือคนปลอมเป็นมิตร ซึ่งมี 4 ประเภทคือ

1.คนปอกลอก คนประเภทนี้ไม่ใช่มิตรแต่แสดงตัวว่าเป็นมิตร ซึ่งหวังผลประโยชน์จากคนที่คบด้วย ซึ่งมี 4 ประเภทคือ

-คิดเอาแต่ได้ฝ่ายเดียว คือ คนที่เอาเปรียบ -เสียน้อย คิดเอาให้มาก คือ เมื่อในกรณีที่ทีการลงทุนจะเสียน้อยแต่พอได้รับประโยชน์หรือผลตอบแทนแล้ว จะรับเอาแต่มาก
-เมื่อมีภัยแก่ตัว จึงรับทำกิจของเพื่อน คือ ตามปกติคนประเภทนี้จะไม่ยอมข่วยเหลือใคร แต่เมื่อตนประสบปัญญาแล้วจึงมาแกล้งแสดงตัวเป็นมิตร
-คบเพื่อนเพราะเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว คือ คนประเภทนี้เป็นคนเห็นแก่ตัวเมื่อคบเพื่อนคนใดแล้วก็จะเห็นแต่ประโยชน์ส่วนเท่านั้น

2.คนดีแต่พูด คนดีแต่พูดไม่ถึงกับใช่คนหลอกลวง แต่เป็นกะล่อน ขอให้ได้พูดพูดในสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ ส่วนมากเป็นเรื่องไร้สาระมี 4 ประเภทคือ
-เก็บของล่วงแล้วมาปราศรัย คือ พววกที่คอยเรียกร้องความสนใจ ส่วนใหญ่แล้วจะเอาเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีตมาพูด
-อ้างเอาของที่ยังไม่มีมาปราศรัย คือ พวกที่ชอบพูดในเรื่องของอนาคต พูดในทำนองการพยากรณ์ ทำตัวเป็นผู้รอบรู้
-สงเคราะด้วยสิ่งที่หาประโยชน์มิได้ คือ ถ้าช่วยเหลือคนที่คบกันอยู่ก็จะช่วยเหลือแบบเล่น ให้สิ่งที่ไม่มีประโยชน์
-ออกปากพึ่งมิได้ คืด เมื่อเพื่อนต้องการพึ่งเพราะมีความเดือดร้อนบางอย่าง ก็บ่ายเบี่ยงแบ่งรับแบ่งสู้

3.คนหัวประจบ คนหัวประจบเป็นคนที่คอยตามใจเพื่อน ให้เพื่อนเป็นผู้นำส่วนตนนั้นทำตัวเป็นผู้ตาม เพราะหวังผลประโยชน์ไม่ว่าสิ่งใดก็สิ่งหนึ่งคนจำพวกนี้มีอยู่ 4 ประเภทคือ
-จะทำชั่วก็คล้อยตาม คือ เมื่อเห็นเพื่อนทำชั่วก็ไม่ห้ามปราม กลับช่วยสนับสนุน
-จะทำดีก็คลอยตาม คือ เมื่อเพื่อนทำดีก็เห็นด้วยคอยสนับสนุนเอาใจเพื่อน
-ต่อหน้าว่าสรรญเสริญ คือ คอยยกย่องเพื่อนต่อหน้าเพื่อเอาใจเพื่อน
-ลับหลังนินทาเพื่อน คือ เมื่อเพื่อนไม่เห็น ไม่ได้ยิน กลับนินทาว่าร้ายต่างๆ

4.คนชักชวนในทางฉิบหาย คนชักชวนในทางฉิบหาย คบเพื่อนเพื่ออาศัยเพื่อนเป็นเครื่องมือหาความสนุกเพลิดเพลินของตน มีลักษณะ 4 ประการคือ

-ชักชวนดื่มน้ำเมา คือ ชักชวนให้เพื่อนดื่มสุราเมรัยซึ่งเป็นโทษทั้งต่อตนเองและผู้อื่น -ชักชวนเที่ยวกลางคืน เช่น เที่ยวตามสถานบริการบันเทิงต่างๆ
-ชักชวนให้มัวเมาในการเล่น คือ เล่นกีฬาหรือเล่นเกมต่างๆที่มีการพนันอยู่ด้วย
-ชักชวนเล่นการพนัน หมายถึง การเล่นการพนันล้วนๆ

หลักธรรมเหล่านี้สามารถนำมาคอยตรวจสอบว่าคนที่เราคบอยู่นั้นเป็นมิตรแท้หรือมิตรเทียมที่คอยแต่จะแสวงหาผลประโยชน์จากเรา เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Google