วันจันทร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2552

"สุทธิชัย หยุ่น"สร้างปรากฎการณ์หารายได้ผ่านทวิตเตอร์

ผ่านไปแล้วสำหรับการที่ "สุทธิชัย หยุ่น" @suthichai บรรณาธิการอำนวยการเครือเนชั่น สัมภาษณ์ "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" @ PM_Abhisit นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ผ่านเว็บไซต์ทวิตเตอร์ (Twitter.com) และมีการถ่ายทอดสอดผ่านทางเนชั่นทีวีและช่อง 9 เมื่อคืนวันที่ 7 กันยายน ซึ่ง "สุทธิชัย หยุ่น" บอกว่านี้นับเป็นหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์ที่สัมภาษณ์ผู้นำประเทศผ่านทวิตเตอร์ซึ่งเป็นครั้งแรกของโลก

ส่วนประเด็นทางการเมืองที่สัมภาษณ์กันนั้นคงจะได้ทราบกันไปแล้วว่าระหว่าง "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" กับ "ทักษิณ ชินวัตร" จะมีหนทางหันหน้ามาคุยกันเพื่อยุติปัญหาความวุ่นวายทางการเมืองได้หรือไม่

แต่มีประเด็นที่น่าสนใจอีกประการหนึ่งสำหรับปรากฏการณ์ครั้งนี้ก็คือการหารายได้ผ่านทางทวิตเตอร์ หลายคนคงจะได้สังเกตุแบ็คกราวน์ twitter account ของ @suthichai ช่วงที่มีการสัมภาษณ์จะเปลี่ยนไปจากปกติที่ผ่านมา ซึ่งในช่วงนั้นก็มีชาวทวิตเตอร์บางคนตั้งข้อสังเหตุว่ามีการเปลี่ยนแปลงจุดนี้ และมีรายการจบ แบ็คกราวน์ดังกล่าวก็หายไปกลับมาเหมือนเดิม

แต่เมื่อเวลาประมาณ 01.00น.ก็ได้รับความกระจ่างจากชาวทวิตเตอร์นาม @kengdotcom โดยโฟสต์ของความว่า"twitter กับการโฆษณาในไทย"พร้อมลิงค์อธิบายรายละเอียดคือ http://bit.ly/1fOzRr จึงทำให้ทราบว่านี้เป็นแนวทางหนึ่งของการหารายได้จากกานำโฆษณาสิ้นค้ามาเป็นแบ็คกราวน์ใน "twitter account" แทนที่จะอาศรัยเพียงการฝากลิงค์กับทวิตเตอร์ไปหาเว็บไซต์ที่ลงโฆษณาโดยตรง ส่วนมีรายได้มากน้อยเพียงใดนั้นก็คงจะขึ้นอยู่เจ้าของ twitter account นั้นๆว่ามีจำนวนคนติดตามมากน้อยเพียงใด

ทั้งนี้ @kengdotcom ได้อธิบายที่เว็บไซต์ว่า"สินค้าทีว่าก็คือ สายการบินนกแอร์ ซึ่งผมเองสังเกตุเห็นว่า โฆษณาโผล่มาอยู่แป๊บเดียว อาจจะอยู่ไม่กี่นาที เมื่อการสัมภาษณ์เริ่มต้นไปได้สักพัก ผมพบว่า รูปภาพแบ็คกราวน์ที่มีโลโก้ สายการบินนกแอร์นั้น ได้หายไป และกลายเป็นภาพแบ็คกราวน์ปกติ ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไรเหมือนกันครับ แต่สิ่งที่เห็น เราพบว่าการโฆษณา สามารถทำกับ twitter ได้ด้วย โดยสามารถสร้างรายได้จาก twitter account ของตัวเองนั่นเองครับ"

เมื่อทราบเช่นนี้คงจะเป็นยาชูกำลังให้กับชาวทวิตเตอร์ไม่น้อยเลยทีเดียว คงจะมีวิริยะสร้างสรรค์ผลงานออกมา แทนที่มีไว้เพียงระบายอารมณ์หรือใช้เป็นประโยชน์ทางการเมืองเท่านั้น ถึงแม้นว่าอาจจะเป็นเม็ดเงินไม่มากนักแต่นั้นก็ถือว่าเป็นรายได้ที่สุจริต

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Google