วันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ทักษิณอย่าอิงกระแสออกพรรษาอโหสิกรรมแต่ปาก

วันที่ 4 ต.ค. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ส่งข้อความผ่านเว็บไซต์ทวิตเตอร์ ความว่า "วันนี้เป็นวันพระใหญ่พรุ่งนี้ออกพรรษาผมเป็นคนพุทธและได้ปฏิบัติธรรมมาตลอดพรรษาขอฝากบอกคนที่เคยคิดและทำร้ายผมว่าผมขออโหสิกรรมและจะไม่จองเวรใคร"
ต่อมาก็ได้ส่งข้อความสนทนากับผู้ใช้นามว่า @kengkaj_s อีกความว่า "การต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมกับการอโหสิกรรมเป็นคนละส่วนครับต้องตามหาจนถึงที่สุดเพียงแต่ไม่คิดจะไปชำระแค้นกับใคร ใครมีกรรมก็ไปรับเอง"
หากพ.ต.ท.ทักษิณปฏิบัติตามข้อความที่โพสต์ก็ต้องขออนุโมทนาบุญด้วย เพราะว่าการ "อโหสิกรรม" ก็ถือว่าเป็นการทำบุญอย่างหนึ่งก็คือการให้ทานที่เรียกว่า "อภัยทาน" ซึ่งเป็นการยุติผลกรรมข้ามภพข้ามชาติด้วย
ขณะเดียวกันก็ถือว่าสอดคล้องกับนัยยะสำคัญของวันออกพรรษาที่พระพุทธองค์ที่บัญญัติให้พระสงค์ที่จำพรรษาได้ว่ากล่าวตักเตือนกันด้วยเมตตาซึ่งเรียกว่าการทำ "ปวารณากรรม"
เพราะบ้างครั้งเราก็ไม่ทราบว่าเรามีข้อบกพร่องอะไรบ้าง จำเป็นต้องให้คนอื่นชี้แนะตักเตือน เท่ากับเป็นแนวทางของการแก้ปัญหาความขัดแย้งในสังคมไทยได้อีกทางหนึ่ง
แต่ประเด็นก็มีอยู่ว่าพ.ต.ท.ทักษิณจะปฏิบัติตามที่ได้ประกาศไว้ได้นานเพียงใด เพราะที่ผ่านมาพ.ต.ท.ทักษิณก็เคยประกาศเช่นนี้อยู่แต่พฤติกรรมที่แสดงออกไม่ได้เป็นตามที่ได้ประกาศไว้
เพราะผู้เขียนเองก็เป็นชาวพุทธครับและปฏิบัติธรรมเป็นประจำช่วงเช้าพรรษา และสิ่งที่ปฏิบัติเสมอคือพูดหรือทวิตตรงกับใจไม่มีอะไรแอบแฝง และการปฏิบัติธรรมของผู้เขียนอีกประการหนึ่งก็คือเห็นผลประโยชน์ชาติส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ตน ไม่เคยอวดความดีที่ทำไปเพื่อหวังแต้ม และผู้เขีนไม่เคยอโหสิกรรมแต่ปาก ซึ่งมิจฉาทิฐินั้นไม่ได้แก้ด้วยอโหสิกรรม ต้องแก้ด้วยคำว่าพอ
ที่นี้ก็อยู่ที่ว่าเมื่อเราบอกว่าขออโหสิกรรมให้แล้วเราจะไม่จองเวร ทำร้ายกันอีกได้อย่างไร ก็มีทางเดียวก็คือเราต้องมีเมตตาต่อกันฝึกแผ่เมตตาทุกวัน หรือไม่ก็ฟังเพลง "อโหสิกรรม" ก็แล้วกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Google